ศาลนัดไต่สวน“บุญทรง-ภูมิ”ทุจริตข้าวจีทูจีนัดแรก 2 มี.ค.59

ศาลฎีกานักการเมือง นัดตรวจพยานหลักฐาน คดี"บุญทรง-ภูมิ"พร้อมพวก ทุจริตข้าวจีทูจี เริ่มไต่สวนนัดแรก 2 มี.ค.59 นัดสุดท้าย 21 ธ.ค. 59

เวลา 09.30 น. วันที่ 12 พ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  ศาลนัดฟังคำสั่งการตรวจพยานหลักฐาน ในคดีอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพวก รวม 21 ราย ในข้อหากระทำผิดฐานฮั้วประมูล ใช้อำนาจโดยทุจริตสร้างความเสียหายแก่รัฐ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จากกรณีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)

ในวันนี้นายบุญทรง  นายภูมิ และจำเลยคนอื่น ๆ พร้อมทนาย ต่างทยอยเดินทางมาศาล แต่มีจำเลย 3 คนที่ไม่ได้เดินทางมาศาล คือ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง จำเลยที่ 14 ที่ถูกควบคุมตัวตามคำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 1 ส่วนจำเลยที่ 12 น.ส.เรืองวัน เลิศศลารักษ์ และ จำเลยที่ 19 นายสมยศ คุณจักร ศาลอนุญาตไม่ต้องมา เนื่องจากติดภารกิจ

ในการตรวจหลักฐาน ศาลได้อนุญาตให้โจทก์นำพยานเข้าไต่สวนจำนวน 29 ปาก จากที่ขอไป 122 ปาก และในส่วนของจำเลย 92 ปาก จาก 1,032 ปาก ซึ่งเป็นพยานร่วมกัน 19 ปาก ส่วนที่คู่ความขอเพิ่มพยานศาลให้รอจนกว่ากระบวนการไต่สวนพยานจะเสร็จสิ้นทั้งหมด

โดยศาลนัดไต่สวน 20 นัด นัดแรกวันที่ 2 มี.ค. 2559 และนัดสุดท้าย วันที่ 21 ธ.ค. 2559 เวลา 09.30 -16.30น. ให้คู่ความ ทนายและเลขานุการองค์คณะพิพากษา ไปหารือร่วมกันเพื่อกำหนดลำดับการไต่สวนภายใน 14 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง

นอกจากนี้ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ ได้มีมติแต่งตั้งนายพิศล พิรุณ เป็นองค์คณะผู้พิพากษา แทนนายวีรพล ตั้งสุวรรณ ที่ขอถอนตัวจากองค์คณะ เนื่องจากได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นประธานศาลฎีกา

ด้านนายบุญทรง กล่าวว่า กรณีที่ถูกตัดพยานฝ่ายจำเลยออกไปเหลือเพียง 92 ปี นั้น ก็ถือว่าถูกตัดพยานสำคัญไปหลายปาก แต่ก็ยังเชื่อมั่นในนโยบายขณะที่ตัวเองดำรงตำแหน่งอยู่และยอมรับว่ามีความกังวล เนื่องจากเป็นคดีความที่สำคัญและอยากให้นำพยานที่ถูกตัดออกนำเข้ามาไต่สวนเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม