posttoday

ศาลสั่งริบทรัพย์49ล."นิพัทธ"รวยผิดปกติ

14 ตุลาคม 2558

ศาลแพ่งสั่งริบทรัพย์ “ นิพัทธ พุกกะณะสุต ” อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังป.ป.ช.พบร่ำรวยผิดปกติ

ศาลแพ่งสั่งริบทรัพย์  “ นิพัทธ พุกกะณะสุต ” อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน หลังป.ป.ช.พบร่ำรวยผิดปกติ

วันที่ 14 ต.ค.  ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาคดีริบทรัพย์ ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งริบทรัพย์สินของนายนิพัทธ พุกกะณะสุต อายุ 72 ปี อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ จำนวน 49 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

ศาลพิเคราะห์ พยานหลักฐานที่ได้มีการไต่สวนแล้ว เห็นว่า ทรัพย์สิน ตามคำร้อง จำนวน 49 ล้านบาท ที่นายนิพัทธ ได้มา ขณะรับตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์นั้น นายนิพัทธ อ้างว่า ได้มาจากการจำหน่ายวัตถุมงคล และได้มาจากการขายที่ดินของภริยา แต่นายนิพัทธ ไม่นำพยานบุคคลผู้ซื้อวัตถุมงคลมาสืบ รวมถึงที่มาของเงินที่ซื้อด้วย และไม่มีหลักฐานว่าภริยา ได้รับเงินค่าขายที่ดินมาอย่างไร พยานบุคคลที่นายนิพัทธ นำมาสืบไม่น่าเชื่อถือ

เมื่อนายนิพัทธ มีภาระการพิสูจน์ที่ต้องทำให้ศาลเห็นว่า ทรัพย์สินจำนวน 49 ล้านบาท ไม่ได้เกิดจากการร่ำรวยผิดปกติตามที่ถูกกล่าวหา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 81 แต่พยานหลักฐานที่นายนิพัทธ นำสืบมาไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานของอัยการ ผู้ร้องได้ ดังนั้นจึงฟังได้ว่า ตั๋วสัญญาใช้เงิน ในชื่อนางอุบล พุกกะณะสุต และบุตรสาว จำนวน 49 ล้านบาท มาจากทรัพย์สินที่นายนิพัทธ ถูกกล่าวหามีมากผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ และเป็นการร่ำรวยผิดปกติ

ศาลแพ่ง จึงมีคำสั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 49 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ มาตรา 80(2)

ทั้งนี้ ศาลแพ่ง ถือเป็นศาลชั้นต้น ที่มีคำสั่งให้ริบทรัพย์ ซึ่งตามกฎหมาย นายนิพัทธ ผู้ถูกกล่าวหา ยังสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาที่ให้ริบทรัพย์ดังกล่าว ภายใน 30 วันนับแต่ที่ศาลมีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2558

สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อเดือน ต.ค.2549 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ได้ชี้มูลความผิดนายนิพัทธ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลังและทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจ รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ซึ่งได้รับตำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงการคลัง มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งการตรวจสอบ ป.ป.ช.พบหลักฐานว่านายนิพัทธ ผู้ถูกกล่าวหา และภริยา มีเงินฝากและดอกผลในสถาบันการเงิน 49 ล้านบาท ซึ่งไม่อาจชี้ แจงได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยชอบอย่างใด

ซึ่งป.ป.ช.ได้รวบรวมหลักฐานแล้วกล่าวหานายนิพัทธ ได้ทรัพย์มาโดยไม่สมควรกรณีได้รับเงินสินบน 30 ล้านบาท จากบริษัทเอกชนเพื่อเป็นค่าตอบแทน การให้ชนะการประมูลโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุ บริเวณสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และกรณีภริยาได้รับเงิน 14 ล้านบาทที่อ้างว่า ได้มาจากการทำสัญญาจะซื้อขายที่ดิน แต่กลับไม่มีการซื้อขายที่ดินตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งได้ปรากฎ

ป.ป.ช. จึงส่งสำนวนการไต่สวน ให้นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุดขณะนั้น เพื่อพิจารณายื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สิน 49 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากนายนิพัทธ มีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ