posttoday

บิ๊กตู่ชี้ "คปป." เป็นหลักประกันปฏิรูป-ปรองดอง

13 ตุลาคม 2558

นายกฯชี้ร่างรัฐธรรมนูญต้องมีกลไกปฏิรูปยั่งยืน เผย "คปป." มีความสำคัญเพราะเป็นหลักประกัน ปฏิรูป-ปรองดอง-ลดขัดแย้ง

นายกฯชี้ร่างรัฐธรรมนูญต้องมีกลไกปฏิรูปยั่งยืน เผย "คปป." มีความสำคัญเพราะเป็นหลักประกัน ปฏิรูป-ปรองดอง-ลดขัดแย้ง

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงเรื่องรัฐธรรมนูญว่า ทราบดีว่าทุกคนเป็นห่วง ส่วนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องทำงานร่วมกันเพื่อส่งต่อกฎหมาย อะไรที่ตนทำได้ก็จะทำตอนนี้ โดยใช้อำนาจที่ตนมีอยู่ ส่วนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ก็ต้องเอากฎหมายเก่าๆ ขึ้นมาดูว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร ที่หลายคนวิพากษ์ วิจารณ์ว่าฉบับไหนเป็นประชาธิปไตยมากน้อยกว่ากัน กฎหมายข้อไหนที่ยอมรับกันได้ก็นำมาใส่ในฉบับใหม่ รวมถึงร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แล้วดูว่าข้อไหนจะต้องเพิ่มเติมหรือเพื่อที่จะให้มีกลไกในการปฏิรูปที่ยั่งยืน เพราะหากไม่มีการบัญญัติไว้ในกฎหมายก็ไม่มีการปฏิรูปเกิดขึ้นที่ทำมาก็เสียเวลาเปล่า สุดท้ายก็กลับมาที่เดิม

ทั้งนี้ขอร้องว่าอย่าไปมองว่าเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่าแล้วต่างชาติจะรับได้หรือไม่ สุดท้ายเขาก็รับได้อยู่ดี เราต้องเขียนรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยสากลอยู่ดี ส่วนกฎหมายลูกหรือบทเฉพาะกาลเป็นเรื่องของในประเทศ หากเราไม่มีเวลาช่วงนี้เราก็เดินไม่ได้ ต้องยอมรับว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งคงทำไม่ได้และไม่ยอมทำ ตนเป็นห่วงรัฐบาลในอนาคต แต่หากเขาไม่ทำตนก็ไม่ได้ว่าอะไร

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปห่วงเรื่อง คณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการปรองดองแห่งชาติ (คปป.) ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่า คปป.ทำหน้าที่อะไร มันก็เป็นเพียงร่มๆหนึ่งเท่านั้นเอง ที่เขาเสนอมาเรื่องยุทธศาสตร์ ซึ่งผมก็ฟังมาจากสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แล้วก็มาคิดว่าเชื่อมกันอย่างไร ผมยืนยันว่าไม่เคยคิดจะไปครอบงำใคร หรือไปครอบงำรัฐบาลต่อไป เพราะผมไม่คิดว่าผมทำอะไรผิด ในการบริหารราชการแผ่นดินเวลานี้ เพียงแต่ต้องการให้ประเทศเดินได้ ดังนั้นจะมีอะไรที่ทำให้เกิดความมั่นคง เขาเลยเสนอคปป.ขึ้นมา ผมเลยคิดว่าถ้ามีจะดีอย่างไรให้ไม่ไปสั่งรัฐบาลหน้า หรือไปลงโทษเขาหรือใช้จ่ายงบประมาณจากเขา เพราะมันไม่ใช่หน้าที่จากผม เพราะมันมีองค์กรอิสลระที่ทำหน้าที่ตรงนั้นอยู่แล้ว ผมเลยไม่ได้ไปแก้อะไร”นายกฯกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  คปป.จะเป็นใครก็ได้ ที่มี 3 ขาประกอบกัน คือ ปฎิรูป ปรองดอง และลดความขัดแย้ง ซึ่งเราต้องทำระยะนี้ก่อน โดยให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศ (สปท.)เป็นคนทำ ส่วนการปรองดองต้องไปศึกษาว่ามีคดีใดบ้างที่เกี่ยวข้องกับการเมือง และคดีตามปกติ แล้วจะแยกแยะระหว่างแกนนำกับประชาชนได้อย่างไร เราต้องเตรียมข้อมมูลไว้ เพราะวันหน้าหากคดีสิ้นสุดลงติดคุกแล้ว รวมถึงคดีที่ยังอยู่เสร็จเมื่อไหร่ก็ดำเนินการต่อกับพวกที่หนีคดี นอกเหนือจากที่ตนคิด มีใครคิดนอกเหนือจากนี้หรือไม่ที่จะแก้ปัญหา เพราะหากไม่แก้ปัญหาก็กลับมาอีก แล้วมาเสนอกฎหมายนิรโทษกันอีก สุดท้ายก็ตีกันอีกเหมือนเดิม

“เราจะต้องวางแนวทางกันตั้งแต่วันนี้ ถ้าหากไม่มีคปป.จะให้มีอะไรที่เป็นหลักประกัน 3 เรื่อง และสามารถแก้ปัญหาได้ ทุกอย่างต้องเป็นขั้นตอน เพราะฉะนั้นวันนี้รัฐบาลนี้ต้องเตรียม การปรองดองจะทำวันนี้ให้เสร็จเลยไม่ได้ ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมายต้องฟังความเห็นร่วมกันฟังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างเดียวไม่ได้ เพราะมันมีทั้งการเมืองและการเมืองที่นำไปสู่การรับผิดทางอาญารวมถึงการใช้อาวุธสงครามทำร้ายกันก็มี ตอนนี้ทุกคนต่างกล่าวอ้างกันไปมา สุดท้ายเราก็ต้องมาหาวิธีการปรองดอง ซึ่งจะทำอย่างไรผมไม่รู้ วันนี้ผมยังตอบไม่ได้ อย่ามากดดันผม หรือกดดันรัฐบาล ว่าต้องปรองดองก่อนนะ หรือต้องนิรโทษก่อนแล้วถึงจะอยู่กันได้ แบบนี้เห็นแก่ตัวทำไม่ได้”นายกฯกล่าว

เมื่อถามว่าคปป.จะมาครอบงำรัฐบาลในอนาคตหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “คปป.จะไปสั่งใครที่ไหน ผมจะบอกว่าคปป.เพียงเสนอข้อเสนอไปยังรัฐบาล รัฐบาลจะทำหรือไม่ทำก็ได้ คปป.เพียงส่งเป็นแผนเป็นกิจกรรมไป หากไม่ทำก็เพียงเอาเรื่องเข้าสภาไปพิจารณาร่วมกัน และให้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่ทำ ตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นเรื่องปกติ ก็เพียงแต่หาใครไปดูซักคน หรือคุณจะเข้าไปดูให้ผมหรือเปล่าว่ารัฐบาลหน้าเขาจะทำอะไรหรือไม่ ตอนนี้ผมไม่รู้ที่เขียนหรือพูดไปทั้งหมดเกือบ 2 ปี ตอนนี้เข้าใจหรือยัง วันนี้จะไปบอกว่าคปป.ไปสั่ง มันสั่งไม่ได้ ผมเพียงแค่ไปบอกว่าไปหากลไกอะไรมา จะเป็นคปป. หรือ คออะไรก็แล้วแต่ หรือจะไม่มีก็แล้วแต่ แล้วแต่ว่าจะให้ประเทศเป็นอย่างไร ท่านอยากให้เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เพราะวันหน้าประเทศก็ต้องเดินไป ถ้าหากจะให้อยู่ที่เก่า แบบเสรีภาพไร้ขีดจำกัดก็แล้วแต่ท่าน ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แค่อยู่กันเอาเอง วันนี้มันควรเป็นหน้าที่ทุกคนจะให้มาเรียกร้องอย่างเดียวไม่ได้ เหมือนเรียกร้องตำรวจเรื่องตั้งด่าน ใครที่ทำความผิดก็ต้องเอาสองอย่างมาถ่วงดุลกัน อีกคนผิดกฎจราจร และหากตำรวจเรียกร้องแล้วสมยอม มันก็ผิดทั้งคู่ แต่หากประชาชนอยู่ดีๆ แล้วไปจับเขา แบบนี้ตำรวจผิดก็ไล่ออกให้หมด ทุกอย่างต้องชัดเจน

เมื่อถามว่าหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติครั้งนี้จะทำอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “หากไม่ผ่านก็ต้องหาวิธีว่าจะทำอย่างไรแค่นั้นเหละ ผมก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้หรอก บอกจริงๆเลยว่าไม่ได้อยากอยู่ เพราะปัญหามันเยอะเหลือเกิน” เมื่อถามย้ำว่ามีการประเมินหรือไม่ว่าปัจจัยใดที่อาจทำให้ร่างรัฐธรรมนูญนี้ไม่ผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ทำประชามติไงเล่า ทำประชามติหรือเปล่าหล่ะ ถ้าทำก็จบ ถามว่าสปท.เขาลงมติหรือเปล่าก็ไม่ต้องลง เพราะไม่เกี่ยวกัน”