posttoday

"นายกฯ"ยันปรองดองไม่มีระยะเวลา

08 ตุลาคม 2558

ประยุทธ์ บอกไม่มีระยะเวลาปรองดอง ไม่เลือกปฏิบัติ ย้ำต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อน ย้อนถามเลิกตีกันหรือยัง ลั่นแกล้งตายไม่ได้ ต้องตายจริง ยันห่วงบ้านเมืองถึงมายืนตรงนี้

ประยุทธ์ บอกไม่มีระยะเวลาปรองดอง ไม่เลือกปฏิบัติ ย้ำต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อน ย้อนถามเลิกตีกันหรือยัง ลั่นแกล้งตายไม่ได้ ต้องตายจริง ยันห่วงบ้านเมืองถึงมายืนตรงนี้

เวลา 11.50 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ถึงหลักเกณฑ์ และระยะเวลาของแนวคิดการนิรโทษกรรมเพื่อปรองดอง ว่า ทำไม ที่พูดเมื่อวาน (7 ตค.) มันผิดตรงไหน เรื่องนี้ไม่มีระยะเวลา แต่วันนี้ได้เริ่มทำปฏิรูปแล้ว ไม่ใช่ตนไม่ทำ ซึ่งได้สั่งการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มาทำการปฏิรูปของเขาในระยะที่ 1 เดิมจะจบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มีเวลา 6-4-6-4 ก็ยังมีเวลาอีก ยืนยันว่าช่วงแรก ตนทำเรื่องการปฏิรูปอยู่แล้วทุกกระทรวง จะเห็นได้ว่า การบริหารราชการ จะมีซุปเปอร์บอร์ด ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยมี คณะกรรมการต่างๆ หลายชุด มีการปรับไปบ้างแล้ว ระยะต่อไป เรื่องตำรวจ วันนี้มีการจับคนร้ายได้ ที่ผ่านมาจับไม่ค่อยได้ ตรงนั้นเป็นการปฏิรูปภายในของมันอยู่แล้ว บูรณาการเพิ่มประสิทธิภาพ ทุกกระทรวง ทบวง กรม บูรณาการข้ามกระทรวง ใช้จ่ายงบประมาณที่ผสมผสานกัน ไม่ใช่นำงบประมาณลงไปพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง หรือแต่ละกระทรวงแยกงานกันทำในกิจการงานเดียวกัน  นี่คือการปฏิรูป การปฏิรูปคือการนำเรื่องเดิมมาทำใหม่ แก้ไขปรับระเบียบวิธีการ ปรับกฎหมาย สิ่งไหนไม่ดีก็ใช้มาตรา 44 เพื่อให้เกิดความมั่นคง ซึ่งความมั่นคงมีหลายด้าน ไม่ใช่เฉพาะรบทัพจับศึก มีความมั่นคงทางด้านอาหาร พลังงาน การต่างประเทศ เศรษฐกิจ ทั้งหมดเป็นการสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศ โดยเฉพาะความมั่นคงในส่วนของรัฐและทางการเมือง

“วันนี้ผมถือว่ามาทำงานทางการเมืองด้วย แต่ผมไม่ใช่นักการเมือง แต่ทำให้การเมืองมันนิ่ง สร้างความไว้วางใจกับต่างประเทศทำให้เขาพร้อมที่จะมาทำการค้าการลงทุน แต่ถ้าทุกคนมาต่อยตีกับผมในวันนี้ อย่าคิดว่าวันหน้าเขาจะมานะผมจะบอกให้ วันนี้ผมเริ่มให้ เขาก็พร้อมจะมา เขาบอกกับผมแล้วว่า อยากให้บ้านเมืองเป็นอย่างที่ผมอยู่ในตอนนี้ ท่านทำกันได้ไหมเล่า รู้ว่าทุกคนคาดหวัง ผมก็คาดหวังว่ารัฐบาลใหม่จะมาทำให้ได้อย่างผม อย่าให้มาต่อยตี ยุแยงตะแคงรั่ว สองฝั่งตีกันไปมาอีก มันไม่ได้” นายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกับถามสื่อว่า เลิกกันหรือยัง ใครบอกว่าเลิกแล้ว เลิกไหม

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีคิดว่าสถานการณ์แบบนั้น แต่ละฝ่ายเลิกหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่รู้ เป็นเรื่องของท่าน ตนไม่ได้เก่งขนาดนั้น ตนไม่สนใจ เมื่อถามว่า เป็นการแกล้งตายหรือเปล่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แกล้งตายไม่ได้ มันต้องตายจริง แกล้งตายได้อย่างไร การแกล้งตายแสดงว่าที่มีการทำผิดกฎหมายหรือเปล่าตนไม่รู้ แสดงว่าแกล้งหยุดทำความผิดด้วยหรือเปล่า ตนไม่รู้ เมื่อถามว่า ตรงนี้น่าห่วงหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวแบบประชดว่า ไม่ห่วงเลย ไม่ได้ห่วงอะไรซักอย่างเลย ไม่ห่วงแล้วจะยืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ห่วงประเทศถึงต้องเข้ามาตรงนี้ เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงห่วงพวกที่แกล้งตายหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ห่วง กฎหมายมีอยู่ ใครทำผิดก็โดนจับ กฎหมายล้อเล่นได้ที่ไหน ไม่ใช่เอากฎหมายมาสู้กัน ซึ่งที่ผ่านมาการกำกับดูแลเรื่องกฎหมาย ทำให้กฎหมายใช้ไม่ได้ มีการเลือกปฏิบัติ แต่อย่ามาบอกว่ารัฐบาลนี้เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่ ใครทำผิด ก็ว่าไปตามผิด ใครอยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็อยู่ไป เมื่อจบกระบวนการยุติธรรมแล้วติดคุก จะผ่อนผันอะไรกันต่อไป ก็มีระเบียบอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่บรรเทาโทษ ไปจนถึงนิรโทษกรรมอะไรทำนองนี้ ซึ่งต้องไปคุยกันต่อ ฉะนั้นถึงต้องมีกลไกที่จะทำเรื่องเหล่านี้ ปฏิรูปปรองดองขจัดความขัดแย้ง จะมีกฎหมายหรือมีอะไรทำตนไม่รู้ รัฐบาลหน้าจะทำหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ เพราะตนไม่อยู่แล้ว เข้าใจหรือยัง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่ออีกว่า การปฏิรูปในระยะจากนี้ไปเป็นระยะที่ 2 ที่จะต้องทำต่อ รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องเขียนให้ชัดเจนขึ้น ในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ถ้าเขียนแต่กรอบใหญ่ๆ กว้างๆ ก็ไม่ทำกัน หากเขาจะไม่ทำก็เรื่องของเขา ท่านก็ไปเรียกร้องเขาเองเหมือนที่เรียกร้องตนอยู่ทุกวันนี้ ตนทำ ท่านก็ไม่เข้าใจ แต่เวลาเขาไม่ทำท่านก็ไม่รู้จะถามอะไรอีกใช่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นวันหน้า ตนเอาใหม่ดีกว่า ไม่ต้องทำอะไรอยู่เฉยๆ ท่านก็ไม่รู้จะถามอะไรตนเหมือนกัน เพราะไม่ได้เดือดร้อน ให้ข้าราชการทำไป แต่การเข้ามาในวันนี้ใช้แนวทางข้าราชการบวกกับประชาธิปไตย ฟังทุกคนและมาพิจารณา จะได้ข้อยุติอย่างไร เสียงส่วนใหญ่ใครได้ประโยชน์ เสียงส่วนน้อยที่เสียประโยชน์จะดูแลกันอย่างไร ทำนองนี้ แต่ไม่ใช่ว่าใครเข้าข้างตนแล้วทำให้ทั้งหมด ไม่ใช่ ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะบ้านนี้เมืองนี้ไม่ใช่ของตน แต่เป็นของทุกคน