"วัชระ"บุกยธ.สอบการทำหน้าที่"อธิบดีคุก"

"วัชระ" ร้อง "บิ๊กต๊อก" ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ "อธิบดีคุก" หลังพบประพฤติไม่ชอบหลายข้อ พร้อมขอให้ดีเอสไอแจ้งความ "ธาริต" ปมไม่ดำเนินคดีผู้จ้างวานยิงวัดพระแก้ว

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางเข้ายื่นหนังถึงพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้ดำเนินการ 2 เรื่อง คือ 1.ขอให้พิจารณาการบริหารราชการของนายวิทยา สุริยะวงค์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ 2.ขอให้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แจ้งความดำเนินคดีกับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ กรณีไม่ดำเนินคดีกับผู้จ้างวานยิงวัดพระแก้ว ตามที่นายธาริตได้มีการเปิดเผยผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
โดยมีเจ้าหน้าที่นิติกร ประจำสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับมอบหนังสือแทน

นายวัชระ กล่าวว่า สำหรับเรื่องพิจารณาการบริหารราชการของนายวิทยา เนื่องจากตนได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการกรมราชทัณฑ์กรณีการเข้าอบรมหลักสูตรพัสดี และการคัดเลือกข้าราชการ เพื่อแต่งตั้งดำรงตำแหน่งนักทัณฑวิทยารดับชำนาญการพิเศษ 38 ตำแหน่ง เมื่อตนสอบถามไปยังผู้คุมทั่วประเทศแล้ว มีมูลความจริงตามที่ร้องเรียน โดยสรุปได้ว่า 1.นายวิทยามีการย้ายผู้ใต้บังคับบัญชาจากสำนักงานกิจการยุติธรรม มารับตำแหน่งระดับ 8 หรือระดับชำนาญการพิเศษ ของกรมราชทัณฑ์ 2 นาย ซึ่งเป็นเรื่องไม่ปกติ เพราะหนึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นผู้บริหารตำแหน่งเลขานุการกรมไปแล้ว

นายวัชระ กล่าวต่อว่า 2.มีการเปิดอบรมหลักสูตรพัศดี หรือนักบริหารงานราชทัณฑ์ขึ้นใหม่ ทั้งที่เดิมทีมีอยู่แล้ว 67 รุ่น อีกทั้ง หลักสูตรที่เปิดใหม่มีหลักเกณฑ์ต้องสอบผ่านร้อยละ 75 โดยมีข้าราชการสมัครสอบ 1,388 คน ซึ่งสอบตกทั้งหมด และนายวิทยาจึงได้แก้ประกาศใหม่ให้สอบผ่านร้อยละ 51 ซึ่งไม่ถูกต้อง 3.การคัดเลือกข้าราชการเพื่อเลื่อนขึ้นแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนักทัณฑวิทยาระดับชำนาญการพิเศษ 38 ราย ที่มีคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมของยธ.วินิจฉัยแล้วว่าไม่ชอบ แต่ยังดำเนินการต่อ 4.การแต่งเครื่องแบบราชทัณฑ์ใหม่ โดยนายวิทยาเสนอให้เปลี่ยนแปลงเครื่องแบบโดยไม่ฟังเสียงข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และเครื่องแบบใหม่ที่นายวิทยาสวมใส่ ยังไม่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกศา จึงถือว่าไม่ถูกต้องตามระเบียบราชการ และ 5.งบประมาณของกรมราชทัณฑ์ รวมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องใช้ สวัสดิการของผู้ต้อขัง พ.ศ. 2557 ซึ่งมีลักษณะการสั่งซื้อ จ้างโอนไปยังเรือนจำขนาดใหญ่เล็ก ในวงเงิน 2 ล้านบาทเท่าๆกัน โดยไม่คำนึงถึงจำนวนผู้ต้อง จริงหรือไม่ จึงขอให้พล.อ.ไพบูลย์ ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดำเนินการตรวจสอบด้วย 

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นี่ขอให้ดีเอสไอแจ้งความดำเนินกับนายธาริตนั้น โดยข้อเท็จจริงปรากฎว่านายธาริต ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้แถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ระบุว่า ผู้จ้างวาน ส.ต.ต.บัณฑิต สิทธิทุม ใช้จรวดอาร์พีจี ยิงวัดพระแก้ว คือ พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ ซึ่งเป็นสามีของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงพัทยา โดยจ้างวานเป็นเงิน 5 แสนบาท ต่อมา ตำรวจได้จับกุมพ.ต.ท.ศุภชัย และส่งตัวให้นายธาริตไปดำเนินการ แต่ก็ไม่มีการดำเนินคดีใดๆกับบุคคลดังกล่าว จึงอยากให้ดีเอสไอแจ้งความดำเนินคดีนายธาริต และขอให้รับเป็นคดีพิเศษด้วย