“เพื่อไทย”พร้อมจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่

“สุรพงษ์” ชี้ ต้องยกเลิกแล้วให้ทุกพรรคหาสมาชิกใหม่เพื่อความเท่าเทียมที่สุด  ขอ ไปข้างหน้าด้วยมาตรฐานเดียวกัน “ชวลิต” เตือน กติกาไม่ดีเหมือนซ้ำเติมปัญหาประเทศ

วันที่ 19 ก.ย. นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าเมื่อมีรัฐธรรมนูญใหม่ พรรคการเมืองทุกพรรคจะต้องจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น ถ้ารัฐธรรมนูญใหม่กำหนดว่าต้องจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ ก็ต้องยกเลิกสมาชิกพรรคทั้งหมด และก็เริ่มให้มีการสมัครสมาชิกกันใหม่ เพราะในอดีตที่ผ่านมา สมาชิกพรรคก็ซ้ำซ้อนกัน และบางพรรคเก่าๆก็จะอาศัยตัวเลขเดิมๆของจำนวนสมาชิกพรรคไปรับเงินสนับสนุนพรรคการเมืองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มาใช้ในพรรคเยอะมาก ให้จดทะเบียนใหม่และกรอกใบสมัครกันใหม่และส่งให้กกต.เริ่มนับหนึ่งกันใหม่ก็ดี จะได้ไม่มีข้อครหามากล่าวหาพรรคใหญ่ๆได้ในภายหลัง

“ทำอะไรก็ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกๆฝ่ายเสียที บ้านเมืองจะได้ก้าวไปข้างหน้าแบบมาตรฐานเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ไม่ได้มีปัญหาอะไร วันนี้เอาไงเอากัน เราผ่านอะไรมามาก ประสบการณ์และบทเรียนต่างๆทางการเมืองก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพรรคประชาธิปัตย์ เรายินดีน้อมรับกฎกติกามารยาทที่เป็นกลางและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย  อยากเห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้เป็นฉบับที่ดีที่สุดในสายตาคนไทยและประชาคมโลกในฝากฝั่งที่เป็นประชาธิปไตย” นายสุรพงษ์ กล่าว

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า  เรื่องยังไม่ได้มีการหารือกันในพรรคว่าหากเกิดขึ้นจริงจะทำอย่างไร แต่คิดว่าสำหรับพรรคเพื่อไทยแล้วคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราผ่านการยุบพรรค การจัดตั้งพรรคใหม่มาแล้วหลายครั้ง ผู้คุมอำนาจจะทำอย่างไรก็ขอให้ทำกติกาให้ถูกต้อง เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย แต่เรื่องนี้หากเกิดขึ้นจริงคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์คงได้รับผลกระทบมาก เพราะเขาถือว่าเป็นพรรคเก่าแก่

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะมีสูตรพิสดารล้างไพ่พรรคการเมืองว่า พรรคยังไม่ได้หารือกัน แต่ส่วนตัวคิดว่าอะไรที่เป็นของพิสดาร จะเป็นสิ่งแปลกประหลาด ไม่เป็นที่ยอมรับของคน ส่วนใหญ่ แค่เผยออกมาก็คงถูกต่อต้านคัดค้านเหมือน คปป.ของ นายบวรศักดิ์ จนถูกคว่ำไป เพราะเป็นเรื่องพิสดาร อยากจะฝากผู้เกี่ยวข้องว่า ให้สงสารประเทศ สงสารคนไทย โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ หากกติกาที่จะออกมา จะทำให้ได้ รัฐบาลที่อ่อนแอ เท่ากับซ้ำเติม ประเทศ ขอให้ลุกจากหอคอย งาช้าง ลงไปสำรวจยังกลุ่มอาชีพ ต่างๆ ว่าจากสภาพการณ์ปัจจุบัน ก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน จริงหรือไม่

นายชวลิต ฯ กล่าวว่า การที่รัฎฐาธิปัตย์ยังคงให้มีพรรคการเมืองไม่ได้ยุบพรรค การเมืองนั้น ลองตรวจสอบให้ดี ขณะนี้มีพรรคการเมืองจำนวนเท่าไร จะเห็นว่ามีทั้งพรรคการเมืองขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก เป็นร้อยพรรคจึงไม่มีเหตุผลใดที่จะล้างไพ่พรรคการเมืองใหม่ ซึ่งอาจจะถูกวิพากษ์ วิจารณ์ได้ว่าจำลองแนวคิดจะให้มีพรรคสหประชาไทย หรือพรรคสามัคคีธรรม เช่นในอดีต ซึ่งผมไม่คิดว่าจะตื้นขนาดนั้น เพราะปัจจุบันปี พ.ศ.2558 หรือ ค.ศ.2015 แล้ว นายวิษณุ ซึ่ง ผมเคยเรียกอาจารย์ได้อย่าง เต็มปากเต็มคำได้เปลี่ยนไปแล้ว และเปลี่ยนไปอย่างมากกับคำว่า ครูบาอาจารย์ ผมวิจารณ์ได้อย่างมากแค่นี้ แต่ขอเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ว่า กติกาของประเทศ ใช้กับคน 65 - 70 ล้านคน ควรได้ รัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งที่มีเสถียรภาพ หากเกรงว่าจะเป็น เผด็จการรัฐสภา ก็ให้มีการตรวจ สอบถ่วงดุลอย่างเหมาะสม ขอให้ เลิกความคิดสูตรพิสดารต่างๆ เพราะประเทศไทย คนไทย ไม่ใช่ หนูทดลองยา ระวังจะเป็นตราบาป ไปชั่วชีวิต อย่าพิสดารเลย