"วิษณุ" เผย "มีชัย"ยังไม่รับนั่งประธาน กรธ.

รองนายกฯ ระบุ"มีชัย"ยังไม่รับนั่งประธาน กรธ. วอนรอเวลาเพื่อความชัดเจนก่อน เปรย 2 พรรคใหญ่อาจต้องตั้งพรรคใหม่

วันที่ 18 ก.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตกลงใจรับเป็นประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ยังไม่ทราบข้อเท็จจริง  ต้องไปถามสื่อที่นำมาลงว่า นำข่าวมาจากไหนขณะนี้นายมีชัยอยู่ต่างประเทศ  เป็นตัวแทนรัฐบาลไปประชุมอธิบายข้อกฎหมายเกี่ยวกับประมงให้สหภาพยุโรป (EU) เป็นเวลากว่า 10 วัน โดยมีส่วนหนึ่งที่จะเดินทางกลับในวันที่ 18 ก.ย. นี้ และอีกส่วนเดินทางกลับวันที่  21 ก.ย. แต่ไม่ทราบว่า นายมีชัยจะเดินทางกลับวันใด ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการทำเรื่องทาบทามนายมีชัย และไม่ทราบว่า นายมีชัยยอมรับตำแหน่งดังกล่าวจริงหรือไม่ ขอให้นายมีชัยเดินทางกลับมาแล้วไปถามเอง

“ตอนที่ทำกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ท่านยังพูดทีเล่นทีจริงว่า จะเขียนคุณสมบัติอย่างไร ขอให้เขียนว่า ท่านขัดคุณสมบัติด้วยเถอะ ท่านกระเซ้าว่า ให้ช่วยเขียนหน่อย ให้ท่านขาดคุณสมบัติ  ผมยังบอกไปเลยว่า  อย่างนั้นก็เขียนลงไปเลยว่า ห้ามชื่อมีชัย  เป็นการพูดเล่นกันในตอนนั้น เพราะท่านไม่อยากทำ  แต่ถ้าสมมติว่า จวนตัวแล้ว หาคนยาก แล้วทุกฝ่ายยินยอมพร้อมใจ ก็อาจจะมีใครรับไปคุยกับท่านก็ได้ แต่ผมทราบเจตนาของท่านแล้ว จึงไม่ควรเป็นฝ่ายไปพูด แต่คนอื่นจะไปพูดก็ไม่เป็นไร ถือว่าเขาไม่เคยรู้เจตนา” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามว่า แสดงว่าจะให้นายมีชัยเป็นคนตัดสินใจเอง นายวิษณุ ตอบว่า  เอาให้แน่ก่อนว่า มีคนไปชวนนายมีชัย ไม่เช่นนั้น จะเหมือนนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า ยังไม่มีใครมาเชิญ หากมาเชิญแล้วจะรับหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามก่อนวันที่ 22 ก.ย.จะต้องได้รายชื่อกรธ. แต่ไม่จำเป็นต้องประกาศ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ  บางคนอาจต้องไปลาออก เพื่อให้ถูกต้องตามคุณสมบัติ และเมื่อนายกฯเดินทางกลับจากต่างประเทศในวันที่ 1-2 ต.ค. เมื่อกลับมาดูรายชื่อ ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหา ก็ประกาศชื่อในวันเดียวกันได้ ขณะนี้หลายคนกำลังติด เงื่อนไขเรื่องต้องเว้นวรรค 2 ปี ดังนั้นการติดต่อทาบทามต้องบอกให้ชัดเจนว่า  เจตนารมณ์รัฐธรรมนูญชั่วคราวไม่ต้องการให้รับตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี  จึงต้องทำความเข้าใจกับคนที่จะมาเป็น กรธ. 

นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.ศึกษาธิการ เสนอให้ร่นโรดแมป คสช. เป็นสูตร 3-3- 3-2 ว่า ก็ไม่ว่าอะไร  สิ่งที่ตนพูดเป็นเชิงคาดหมาย ในซีกของรัฐบาล  เป็นการพูดให้ยาวไว้ก่อน จากนั้นจะเจรจาลดลงมาอย่างไร ทั้งนี้สูตรของนายจาตุรนต์ที่ให้ร่นเวลาเลือกตั้งเหลือ 2 เดือนนั้น  ไม่รู้ว่านายจาตุรนต์รวมเวลาถวายร่างกฎหมายเพื่อลงพระปรมาภิไธย และราชกิจจานุเบกษาแล้วหรือยัง   การให้เวลาหาเสียงเลือกตั้ง 2 เดือนนั้น คงพอสำหรับพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ที่ตั้งพรรคไว้เรียบร้อยแล้ว แต่คนที่ตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น คงตั้งไม่ทัน เพราะขณะนี้มีประกาศ คสช.ห้ามตั้งพรรคการเมือง ซึ่งจะตั้งพรรคได้ ก็เมื่อมีกฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่แล้ว ไม่ใช่ตอนนี้ อีกทั้งยังไม่รู้ว่า จะมีการกำหนดเงื่อนไขใด ๆที่พิสดารไปกว่าปัจจุบันนี้หรือไม่ แต่ตนเชื่อว่า จะพิสดารด้วย ดังนั้นถ้าพิสดาร พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เผลอ ๆจะต้องไปจดทะเบียนตั้งพรรคใหม่ กว่าจะตั้งพรรคเสร็จ  กว่าจะหาสมาชิก กว่าจะลงหาเสียง จัดพิมพ์โปสเตอร์  เวลา 2 เดือน ก็คงไม่ทัน  ดังนั้นจึงไม่สามารถลดเวลาการเลือกตั้งได้  จึงไม่จำเป็นต้องมาต่อปากต่อคำ ต่อล้อต่อเถียง  ตนไม่เถียงด้วย  แต่ในฐานะที่รู้ว่าทุกอย่างมีขั้นตอน และไม่ใช่ง่าย จะพยายามเจรจาฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้ไปพิจารณาปรับลดกันเอง แล้วตนจะประกาศระยะเวลาโรดแม็ปใหม่ให้ แต่ครั้งนี้กำหนดไปก่อน เพื่อไม่ให้มีใครมาชิงพูดว่า 24 เดือน หรือยาวกว่า 20 เดือน

เมื่อถามว่า สิ่งที่ระบุว่า  จะเกิดความพิสดาร ทำให้พรรคเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ อาจต้อง จดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ แปลว่าอะไร นายวิษณุตอบว่า ไม่บอก  พูดเผื่อไว้ เพราะกฎหมายพรรคการเมืองต้องเขียนตามรัฐธรรมนูญ  ขณนี้ยังไม่รู้ว่า รัฐธรรมนูญจะเขียนอย่างไร แต่รัฐธรรมนูญฉบับของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ในมาตรา 285 ก็ได้เห็นหน้าเห็นตากันหมด ซึ่งเป็นตัวอย่างว่า ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนั้น ใช้บังคับ กฎหมายพรรคการเมืองก็ต้องออกใหม่  พรรคที่มีอยู่แล้ว จะต้องไปตั้งพรรคขึ้นใหม่อย่างไรหรือไม่  แล้วพวกคุณคิดว่า ฉบับที่จะออกใหม่นั้น จะไม่กำหนดหรือ  เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกพรรคในการกำหนดใด ๆ บางอย่าง  ดังนั้นการที่บอกว่า  พอประกาศใช้กฎหมายลูกแล้ว อีก 7  วัน ก็เลือกตั้งกันเลยนั้น คือการเอื้อให้พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วได้เปรียบ  ซึ่งในทางการเมืองจะยอมอย่างนั้นไม่ได้  ต้องเปิดโอกาสให้กับทุกคนทุกพรรค  การตั้งรัฐบาลต้องให้โอกาสคนใหม่ที่ยังไม่เคยเข้ามามีโอกาสด้วย ต้องให้เวลา เพราะมันต้องใช้เวลาทั้งนั้น  เพราะฉะนั้น 2 พรรคใหญ่ จะได้เปรียบ แต่จะเอาเปรียบทั้งหมดไม่ได้ ต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นบ้าง  เพราะคุณมีต้นทุนอยู่บ้างแล้ว  ต้องเผื่อคนที่ไม่มีต้นทุนด้วย แต่จะเอาต้นทุนทั้งหมดมาใช้ 100% คงไม่ได้ ต้องมีอะไรบางอย่างที่ต้องทำเพิ่มเติม