posttoday

บิ๊กตู่เผยเรียก "พิชัย-เก่ง" ปรับทัศนคติเพราะทำสังคมปั่นป่วน

10 กันยายน 2558

นายกฯเผย คสช. เรียก "พิชัย-เก่ง การุณ" ปรับทัศนคติ เพราะออกความเห็นทำสังคมปั่นป่วน พูดท้ายทายอำนาจรัฐ

นายกฯเผย คสช. เรียก "พิชัย-เก่ง การุณ" ปรับทัศนคติ เพราะออกความเห็นทำสังคมปั่นป่วน พูดท้ายทายอำนาจรัฐ

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการควบคุมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน ว่า เรื่องดังกล่าวคสช.เป็นผู้ดำเนินการ สาเหตุอาจมาจากผิดคำสั่งคสช. ถามว่าสิ่งที่เขาแสดงความคิดเห็นนั้นดีหรือไม่ สร้างให้สังคมเกิดการปั่นป่วนอีกหรือไม่ การพูดจาท้าทายอำนาจรัฐทำได้หรือไม่ ตนปล่อยมาเยอะแล้ว ซึ่งไม่อยากใช้อำนาจอยู่แล้วแต่ได้มอบอำนาจไปแล้ว คสช.ก็จะพิจาณาเอง ซึ่งเป็นการนำตัวไปกินข้าว

ส่วนจะถูกควบคุมตัวกี่วันตนไม่รู้ เพราะคสช. เป็นผู้พิจารณา ขึ้นอยู่กับการสอบหากรับก็ไม่รู้ แต่ถ้าไม่รับก็อาจมีคดีอะไรต่อมาตนก็ไม่รู้ และนอกจากนายพิชัยแล้วจะมีคนอื่นที่แสดงความเห็นในลักษณะดังกล่าวถูกเรียกตัวอีกหรือไม่นั้น ตนก็ไม่รู้ แต่จะพิจารณาเอง ว่าเรื่องใดสร้างความเดือดร้อน สร้างปัญหาหรือความไม่สงบ หากอยากให้บ้านเมืองสงบแล้วคนที่พูดไม่ดีและพูดจาเสียหายควรพูดหรือไม่ ส่วนการโจมตีผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่ แต่เว็บไซต์จากต่างประเทศไม่สามารถสั่งปิดได้

"นักการเมือง พรรคการเมืองที่ออกมาพูดวันนี้ ขอร้องเถอะครับ ถ้าท่านไม่พูดจาให้ร้ายผม ผมก็ไม่ยุ่งกับท่าน ถ้ายังพูดโจมตีรัฐบาลมีใครเขาทำกันบ้าง ยิ่งรัฐบาลที่มาอย่างผม ไม่มีใครพูดได้หรอก แต่ผมก็ให้พูด หรือจะเขียนโซเชียลมีเดีย แต่ต่อต้านผมตรงๆ ไม่ได้ ไม่มีใครเขายอม นี่ถือว่าให้โอกาสเยอะแยะแล้ว ผมไม่ได้ว่านักการเมืองเลวทั้งหมด ถ้าคนใดรู้ว่าผิดก็ต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม สื่อก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับผม คนที่หนีคดี คนที่ไม่ต่างประเทศ สนับสนุนการกระทำที่หมิ่นสถาบัน คุณไม่รักประเทศกันเหรอไงเสนออยู่ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นนอกจากมาตรการยึดหนังสือเดินทาง และควบคุมตัวในค่ายทหารแล้ว จะมีการทำอย่างอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "เอาพาสเตอร์ปิดปาก ถามเรื่อยเปื่อย คณะทำงานเขาทำเอง ไม่ต้องให้นายกฯสั่งทุกเรื่อง"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายการุณ โหสกุล อดีตส.ส. พรรคเพื่อไทย แสดงความคิดเห็นทางการเมือง ว่า ก็ต้องไปดูว่าเขาพูดเรื่องอะไร ท้าทายอะไรทำนองนี้ไม่ได้ เมื่อถามว่านายกฯ มองว่าเป็นการท้าทายหรือไม่ "ถ้าสมมติว่าท่านเป็นพ่อแม่คน แล้วลูกพูดกับคุณแบบนี้ได้ไหม ผมไม่ใช่พ่อเขา แม้ว่าลูกคุณขัดคำสั่งคุณ คุณยอมไหม ถ้าไม่เข็ดก็ติดคุกไปเรื่อยๆ ผิดอีกก็ติดอีก"

เมื่อถามว่า คิดว่ามีกระบวนการดิสเครดิตก่อนที่นายกฯ จะเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทำให้ลำบากมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อก็ต้องช่วยตน ถามว่าคนทำ ทำความดีหรือเปล่าบอกมา สื่อต้องเสนอสองอย่าง เสนออีกฝ่ายบ้านเมืองฉิบหายใครรับผิดชอบ และคิดว่าไม่ลำบากเพราะเมื่อตนไม่อยู่ก็มีคนอื่นแก้ปัญหาดูแลบ้านเมือง ตนไม่เคยหวั่นอะไรทั้งสิ้น ถ้าหวั่นก็ไม่มายืนตรงนี้ เพราะรู้ว่าอันตรายอยู่ตรงไหน แต่คนอีก 70 กว่าล้านคนเขาเสียโอกาสมาทั้งชีวิต

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องจำนำข้าวตนพูดเพราะมีคนมาพูดกับตนแบบนี้ เมื่อเห็นความเสียหายก็ชี้แจงข้อเท็จจริง อย่ามาโทษตนว่าขายข้าวไม่เก่ง หรือเก็บข้าวไม่ดี ใครเป็นคนเก็บและข้าวขนาดนี้จะไปขายใคร ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ไม่ใช่ใช้พลังมากดดันกันไปมา ถือว่าตอนนี้ตนอดทนมาเยอะแล้ว