posttoday

“นายกฯ” เบรก ห้ามวิจารณ์ขวางโรดแมป

03 กันยายน 2558

"ประยุทธ์" เบรก ห้ามวิจารณ์ขวางโรดแมป ลั่น ไล่ก็ไม่ไป ยัน สั่งรธน.ผ่านหรือไม่ผ่านไม่ได้ ย้อน ประชาธิปไตยเต็มใบก็มีสิ่งชั่วร้าย

"ประยุทธ์" เบรก ห้ามวิจารณ์ขวางโรดแมป   ลั่น ไล่ก็ไม่ไป ยัน สั่งรธน.ผ่านหรือไม่ผ่านไม่ได้ ย้อน ประชาธิปไตยเต็มใบก็มีสิ่งชั่วร้าย

วันที่ 3 ก.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวตอนหนึ่งบนเวทีการมอบนโยบายในการเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด (SME Provincial Champions) .ซึ่งจัดโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) ว่า ระหว่างนี้ในเมื่อตนยืนยันว่ายังในช่วงเวลาที่เราเหลืออยู่ประมาณสักหนึ่งปี เราต้องทำให้ได้ เราต้องขับเคลื่อนประเทศให้ได้ สร้างรากฐานให้เข้มแข็งทุกภาคส่วนทั้งความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม  แต่ขณะนี้เรื่องประชาธิปไตยกำลังสับสนกันอยู่ ระหว่างที่เป็นประชาธิปไตยเสรีภาพ สิทธิเป็นหลัก และเรื่องของคะแนนเสียงอะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้ตนไม่มีคะแนนเสียง ใครจะเกลียดตนก็ไม่เป็นไร ใครจะชมก็ดีชื่นใจมีกำลังใจใครจะเกลียดตนตนก็ไม่ว่า เพราะตนไม่ไปอยู่แล้ว จะไปตามรัฐธรรมนูญ ใช่ไหมเล่า จะไล่ตนได้ยังไง ไล่ก็ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะจะอยู่ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวของตนนี่แหละ มีแค่ไหนก็แค่นั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งถึงรัฐธรรมนูญว่า หรือตนคิดผิดเรื่องการปฏิรูป หรือประชาชนคาดหวังว่าคนอื่นจะทำให้ท่านต่อ หรือจะเขียนรัฐธรรมนูญแค่มาตราหนึ่งเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัวและสถาบันฯ ส่วนมาตรา2 บอกว่าทุกอย่างเชิญตามสบาย ใครจะทำอะไรก็ทำ  ทั้งนี้รัฐธรรมนูญเขามีเพื่อทำให้เกิดความเป็นธรรม ซึ่งตนพูดเสมอว่าไม่มีอะไรในโลกที่เท่าเทียมกันจริงในโลกนี้ แต่กฎหมาย กติกา สัญญาทุกคนต้องได้ประโยชน์อย่างทั่วถึง เท่าเทียมมากน้อยตามศักยภาพ

"กฎหมายไม่ได้เอาไว้ฆ่าท่าน ไม่ได้รังแกคนจน ไม่ใช่ กฎหมายมีประโยชน์ทั้งสองข้าง แต่ฝ่ายรัฐเป็นคนบังคับใช้เขาก็บังคับใช้อย่างทั่วถึงเป็นธรรมทั้งหลักรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ความขัดแย้งก็ลดลง ก็นำไปสู่การขับเคลื่อนไปพร้อมกัน "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนพูดจนเมาหมัดไปหมดแล้ว  และเดี๋ยวนี้นึกอะไรไม่ออก จะนึกคำพูดที่มันเจ็บๆก็ยังนึกไม่ออก เพราะว่าสมองมันแย่แล้ว แต่ไม่เป็นไรยังไม่แฮ้ง ไม่เป็นไรยังทำได้ เพราะได้เห็นรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใสก็มีกำลังใจที่จะทำต่อเท่าที่มีโอกาสมีเวลาทำตามที่กำหนดไว้ ส่วนจะอยู่หรือไม่อยู่ให้ไปดูที่รัฐธรรมนูญ เพราะตนสั่งรัฐธรรมนูญไม่ได้ว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าผ่านก็ไม่ชอบ พอไม่ผ่านอีกพวกก็หาว่าตนสั่งการ ตนลำเอียงทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
 
นายกฯ กล่าวอีกว่า แม้กระทั่งการออกมาพูดทีวีกลุ่มนี้พูดกลุ่มนี้ก็ต้องพูด ถ้าไอ้กลุ่มไหนพูดแล้วมันไม่ขัดแย้งกับรัฐบาลผมก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร แต่ถ้ากลุ่มไหนพูดแล้วขัดแย้งก็ไม่ให้พูด เพราะตนเป็นกรรมการ ไม่เช่นนั้นตนก็ไม่มายืนตรงนี้ให้ใครขึ้นมาก็ได้ ลูกน้องพลขับก็มาได้ สั่งง่ายๆ

"ถ้าผมเป็นกรรมการ ให้เวลาท่านเป็นกรรมการมานานแล้ว แล้วท่านทำไม่ได้ วันนี้ผมเป็นกรรมการแล้วผมจะทำให้ได้ ถ้าท่านคิดว่าจะไม่เอากรรมการแบบเดิม ก็ไปว่ากันมาตัดสินใจกันมา" พลเอกประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ถ้าประชาชนเรียกร้องมากๆจากรัฐ รัฐก็ไม่มีให้  แต่ที่ผ่านมาให้เฉพาะกลุ่มเฉพาะพวกเฉพาะที่รู้จัก ก็ธรรมดา ประเทศไทยเขาเรียกว่าเป็นระบบเครือญาติ ก็แก้ได้ยาก ต่อมาก็เรียกว่ากตัญญูรู้คุณ ซึ่งเราควรกตัญญูรู้คุณแต่คนดี คนที่มีศีลธรรมมีคุณธรรม   และถามว่าที่ผ่านมาที่เขาให้เรามันถูกหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกก็แสดงว่าไอ้คนนี้มันใช้ไม่ได้  ถ้าเราแข็งใจแบบนี้ประเทศก็ไปได้
 
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้ปวดหัวเพราะรับทุกเรื่อง ที่ปวดหัวเพราะรับทุกเรื่อง  ถ้าตนใช้อำนาจอย่างเดียวก็ไม่ปวดหัวอย่างนี้หรอก ใช้อำนาจอย่างเดียวทำงานมันง่ายจะตาย ใครทำไม่ได้ก็เอาออกไป ไล่ออกไป แต่ท้ายที่สุดจะเหลือกี่คนทำงานด้วยก็ไม่รู้เหมือนกัน ดังนั้นต้องร่วมมือกันเพราะใครคนใดคนหนึ่งทำไม่ได้ และตนไม่โทษใครทั้งนั้น แต่ตนโทษคนกำกับดูแลที่ผ่านมา
 
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานเต็มที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ก็ทำเต็มที่ และครม.เก่าก็ทำงานเต็มที่ เมื่อวานม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็ทำเต็มที่ และท่านยังสรุปงานเป็นเอกสารมาถึงตน ซึ่งวิธีการต้องเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ ตนไม่ทำร้ายใครอยู่แล้ว พวกเราทุกคนเป็นทีมงาน เป็นเพื่อนร่วมตายของผม

ต่อมาเวลา 12.00 น. ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์ชี้แจงต่อกรณีการขออนุญาตแสดงความคิดเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ทุกประเทศในโลก ถ้าเป็นประชาธิปไตย100% ใครอยากพูดอะไรก็พูดได้ แต่ก็รู้กันอยู่ว่าประเทศไทยไม่ได้100% ดังนั้นเอาเอาเรื่องนี้มาพูดกับตน ใครก็ตามที่พูดแล้วสนับสนุนแนวทางรัฐบาล โดยสนับสนุนให้เป็นไปตามโรดแมป สามารถพูดได้ แต่ถ้าพูด แต่มาต่อต้านตนก็จะทำให้โรดแมปเดินต่อไปไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ต้องแยกออกจากกันให้ได้ ไม่ใช่คนนี้พูดได้ คนนั้นก็ต้องพูดได้บ้าง ไม่ใช่ว่าใครมาพูดเข้าข้างตน เขาพูดตามโรดแมปของเขา ทั้ง 2 พวกตนก็ให้พูดมาโดยตลอด หรือจะมาบอกว่าไม่เคยได้พูด

“เรื่องที่รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน มันไม่ใช่ผมสั่งหรือไม่สั่ง แต่อยู่ที่พวกท่านจะเรียนรู้ว่าจะอยู่กันอย่างไรในอนาคต จะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง จะอยู่ท่ามกลางการเมืองที่ไม่เหมือนปัจจุบัน ถ้าจะเอาแบบนั้นก็เอา แต่สิ่งที่จะเตือนไว้คือ รัฐธรรมนูญมีอยู่หลายหมวด หลายมาตรา อย่าไปดูแต่ 1 2 3 4 5 ว่าไม่เป็นประชาธิปไตย ถ้าอย่างนั้นมันก็คงจะไม่เป็นประชาธิปไตย ต่อให้พูดให้เป็นมันก็ไม่เป็น แต่ความชั่วร้ายที่มันเกิดขึ้น ที่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบมันจะมีหรือไม่ ชัดเจนนะ ชัดเจน "พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกฯ กล่าวด้วยว่า หลายประเทศ ในสถานการณ์ปกติที่ไม่ใช่การปฏิวัติรัฐประหาร เขายังออกกฎหมายมาตั้งเท่าไหร่ ทำไมไม่ไปดูบ้าง ที่เขาทำ ก็เพราะเขาต้องการให้บ้านเมืองสงบ พัฒนาประเทศได้ บ้านเมืองเขายิ่งกว่าเราอีก ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย สหรัฐฯ ยังรับรองเขาหมด แต่เขาจำเป็นก็ต้องเห็นใจเขา เพราะบ้านเมืองจะสับสนไม่ได้ ซึ่งเขาขนาดบ้านเมืองสับสนแบบนั้นเขายังไม่ยอมเลย แต่บ้านเราสับสนแล้วยังใช้อาวุธอีก แน่ใจหรือไม่ว่าจะไม่มีการใช้อาวุธอีก ในรัฐบาลต่อไป รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตอบมาซิ ตอบสังคมให้ได้ว่าจะหยุดยั้งเหตุการณ์เหล่านั้นให้ได้ จะปฏิรูปอะไร ถามเขา ไม่ใช่ ถามแต่ว่าจะรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญอย่างนั้น แล้วมาทะเลาะกัน มันได้อะไรขึ้นมา

“ผมเป็นคนกำหนดกติกา ผมร่าง ผมทำมาแบบนี้ ทำจนแทบจะเป็นอาหาร ให้กินแล้ว ยังไม่เลือกที่จะกินอีก ถ้าจะทำใหม่ก็ไปกินที่อื่น ไปเปิดร้านหากินกันเอาเอง เข้าใจหรือยัง ผมไม่ใช่ศัตรูใคร ไม่ได้ว่าใคร แต่ใครที่ทำความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ ถ้าจะให้ทุกอย่างเรียบร้อยก็ออกมารับผิดชอบ แต่ทุกอย่างที่ผ่านมาผมรับผิดชอบอยู่คนเดียว พูดแบบผมพูดซิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคดีความหรือเรื่องศาล ผมจะผิดทั้งหมด ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก มีใครพูดแบบนี้หรือไม่ ว่าวันหน้าถ้าเลือกตั้งแล้ว จะทำให้บ้านเมืองสงบ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างเดิมอีก ถ้าประท้วง ก็จะต้องแก้ปัญหาให้ได้ ถ้ายิงกัน ฆ่ากัน ระเบิดกัน เป็นรัฐบาลจะแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ มีพูดหรือไม่ วันนี้มาตีผมเรื่องเศรษฐกิจประชานิยม ว่าเหมือนประชานิยมรัฐบาลในอดีต มันเหมือนตรงไหน มันเหมือนเพียงแค่เอาเงินลงไปให้ถึงหมู่บ้านเท่านั้น เขามีการคัดกรองหรือไม่ คัดกรองก็ไม่ทั่วถึง ไปลงให้เฉพาะกลุ่ม เฉพาะพวก ซึ่งร้องเรียนกันมามากมาย มาตอนนี้ผมไปดูว่าจะช่วยเขาอย่างไร อาจให้ทหาร ให้คสช.ไปช่วยดูที่เขาล้ม ๆ เจ้ง ๆ อยู่ และจะทำให้ยั่งยืน” นายกฯ กล่าว