posttoday

"บิ๊กตู่"ย้ำไม่เคยคิดเลิกโครงการ30บาท

06 กรกฎาคม 2558

นายกฯยืนยันไม่คิดยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ลั่นมีอำนาจพิเสษแต่ไม่ใช่พร่ำเพรื่อ ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

นายกฯยืนยันไม่คิดยกเลิกโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ลั่นมีอำนาจพิเสษแต่ไม่ใช่พร่ำเพรื่อ ไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่ส่วนราชการที่ได้รับรางวัล พร้อมทั้งชมนิทรรศการผลงานของหน่วยงานที่เคยได้รับรางวัล United Nations Public Service Awards (UNPSA) โดยรางวัลนี้มอบให้กับหน่วยงานที่ดำเนินการด้านการให้บริการสาธารณะด้วยความเป็นมืออาชีพ  แบ่งออกเป็น 5 สาขา  ได้แก่  การป้องกันและต่อต้านการคอร์รัปชั่นในการบริการสาธารณะ  การพัฒนาการให้บริการประชาชน  การส่งเสริมสนับสนุนการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายผ่านกลไกด้านนวัตกรรม ประเภทการเสริมสร้างการจัดการความรู้ในภาครัฐ  และ  การส่งเสริมการตอบสนองความเท่าเทียมกันในการให้บริการสาธารณะ

ทั้งนี้ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์  เยี่ยมชมนิทรรศการขององค์การสาธารณสุข ก็ได้กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิด ยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ปัจจุบันประเทศมีปัญหาทั้ง 5 กลุ่มงาน คือ ปัญหาเศรษฐกิจ สังคมวิทยา งานด้านความมั่นคง กระบวนการยุติธรรม และอื่นๆ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการบริหารงานและแก้ไขปัญหาเป็นจำนวนมาก ขณะนี้เราต้องบริหารจัดการให้ได้ก่อน ไม่ใช่ว่า จะให้เงินจำนวนมากๆ ลงไปก็จะทำให้เกิดปัญหาทางการเงินได้ อย่างที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงและกังวลอาจจะเป็นเหมือนประเทศกรีซ

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้เยี่ยมชมบูธกรมชลประทาน และได้พูดคุยกับอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมให้คำแนะนำ เรื่องการบริหารจัดการน้ำว่าจะต้องเร่งทำความเข้าใจให้ประชาชนพื้นที่และการวางแผนในอนาคต รองรับปัญหาหากเกิดกรณีทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ตนยังมีความสุขไม่ได้ เพราะงานยังไม่สำเร็จ ทั้งนี้เราต้องลดความหวาดระแวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชนให้ได้ เช่นเดียวกับรัฐบาลที่เมื่อถึงเวลาตามโรดแมปก็ต้องเดินไปสู่ประชาธิปไตยอยู่แล้ว จึงต้องเร่งสร้างความเข้มแข็งตั้งแต่วันนี้ ตนจึงขอเวลาที่เหลือก่อนเลือกตั้งเพื่อเดินตรงนี้ ไม่เช่นนั้นก็ต้องเริ่มกันใหม่กลับไปสู่จุดเดิม ฉะนั้นข้าราชการต้องทำงานด้วยความภูมิใจและประชาชนต้องได้ประโยชน์ เช่นเดียวกับตนที่เป็นทหารก็มีความภูมิใจ ถือเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่มีใครชื่นชมนอกจากลูกเมียซึ่งกำลังใจตนมีเพียงเท่านี้

"วันนี้เราผ่านช่วงเวลาสบายมามาก ที่ไม่ต้องเร่งรัดทำอะไร ไม่มีภัยภิบัติร้ายแรง มีแต่ลมปากที่ตีกัน รุนแรงยิ่งกว่าพายุดีเปรสชั่นเสียอีก ขออย่าเกลียดผม อย่าเกลียดประเทศตัวเอง ไม่ชอบผมไม่ว่า แต่ผมตั้งใจและพยายามทำให้ดีที่สุด ขออย่าทำให้กระบวนการประเทศล้มเหลว ซึ่งทุกคนรู้ดีปัญหามีอะไรบ้าง วันนี้เวลาที่เดินทางไปต่างประเทศ ผมกัดฟันสู้กับเขาหมด แต่วันนี้ทุกประเทศเข้าใจและพอใจในการเปลี่ยนแปลง แต่ติดที่ผมคนเดียวที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่ผมก็ยืนยันว่าทุกอย่างกำลังเดินไปตามโรดแมป ไม่มีใครบ้าอยากให้คนมาเกลียด แต่ผมเกลียดประเทศไม่ได้จึงมายืนตรงนี้ ความขัดแย้งต่างๆขอให้หยุดไว้ก่อน อย่าให้ผมลงมาตัดสินใจอะไรกันเลย รอบๆผมวันนี้อีรุงตุงนังไปหมด ถ้าจะเอาผิดเอาถูกประเทศไปไม่ได้"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงปัญหานักเรียนอาชีวะที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทว่า วันนี้เด็กนักเรียนอาชีวะเวลาจะกลับบ้านต้องมีคนตรวจสอบเส้นทางก่อนเพื่อความปลอดภัย ซึ่งไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำให้เป็นแบบนี้รุ่นพี่หรือครูอาจารย์ แต่คนที่ไม่แก้ปัญหาถือเป็นคนถ่วงความเจริญชาติ ทำลายการศึกษาของไทย ตนขอประนาฌไว้ตรงนี้ อย่าหาว่าแรง เพราะตนไม่อยากปิดโรงเรียนหรือปิดวิทยาลัย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมายที่มีการบังคับใช้มาตั้งแต่ต้นปี มีทั้งที่ถูกกฎหมายอยู่แล้วและที่ทำผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลพยายามดำเนินการให้เรือทุกลำขึ้นทะเบียน แต่ไม่สามารถชะลอมาตรการห้ามออกน่านน้ำได้ โดยชาวประมงและผู้ประกอบการจะต้องกำหนดวันในการออกหาปลาให้ชัดเจน และอาจจะต้องเลย์เอาท์แรงงานประมงออก เนื่องจากไม่สามารถออกหาปลาได้หากทำผิดกฎหมาย ขออย่ามากดดันรัฐบาล

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างเริ่มแข็งแรงขึ้น แต่มีเรื่องนู้นนี่เข้ามาอีกทั้งเรื่องประมงและนักศึกษา ซึ่งตนพยายามหงุดหงิดให้น้อยลง และอยากให้ประชาชนรับรู้เรื่องจะเป็นจะตายของประเทศด้วย ข้าราชการก็ต้องมองถึงอนาคตอย่ามองแต่ตัวเอง ต้องร่วมแก้ปัญหาและเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามที่ทุกคนต้องการ รัฐบาลมีอำนาจบริหารแต่ตนอาจมีอำนาจพิเศษแต่ไม่เคยใช้พร่ำเพรื่อ และไม่ได้เป็นศัตรูกับใครไม่เคยรังแกใคร ให้ความเป็นธรรมกับทุกคนจึงขอให้ช่วยลดปัญหาให้ตนบ้าง แล้วจะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าหากมีประชาธิปไตยแล้วบ้านเมืองจะสงบใครตอบได้บ้าง จะให้ตนรับประกันทั้งวันนี้และวันหน้าไหวหรือไม่ แต่ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุด ทุ่มเททุกอย่างหากชอบหรือไม่ชอบก็ต้องขอเวลา ให้รัฐธรรมนูญออกมาก่อน แล้วจัดการเลือกตั้งซึ่งตนไม่สามารถไปฝืนอะไรได้ ที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสทุกอย่างเพื่อให้คนได้เรียนรู้ว่าเราจะอยู่อย่างไร ไม่เช่นนั้นตนก็เขียนรัฐธรรมนูญเองแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้มีการปล่อยข่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่าตนโอนเงินหมื่นล้านไปประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งตนรู้แล้วว่าต้นตอที่ปล่อยข่าวมาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถ้ามีเงินขนาดนั้นจริงจะมายืนตรงนี้ทำไม ประเทศไทยมักเชื่อกระแสสังคมขอให้ใช้เหตุผล

"วันนี้สิ่งไม่ดีก็ต้องขอโทษ ยกโทษให้ผมเถอะ ขอให้มั่นใจในตัวผม ที่มายืนตรงนี้มีความเสี่ยงสูง ถ้าไม่ใช่ผมแล้วใครจะมาทำ เชื่อว่าต้องมีคนทำเพราะไม่อยากให้บ้านเมืองเสียหาย วันนี้อนาคตขึ้นอยู่ที่ทุกคน ทุกฝ่าย รวมถึงสื่อ วันนี้เปิดอ่านหนังสือพิมพ์ ก็มีความสุขขึ้น แต่ต้องอ่านหน้าในๆ อ่านแล้วชื่นใจ มีทั้งเรื่องเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น แต่หน้าหนึ่งอย่าไปดูที่พาดหัวข่าว พาดหัวอะไรก็ช่างเถอะ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคุณพ่อเขา คุณพ่อสื่อ แต่ผมไม่ไปทะเลาะกับเขาหรอก ปล่อยเขาเถอะ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ข่าวล่าสุด

“วราวุธ” ไหว้อนุสาวรีย์นายบรรหาร ก่อนไปสมัคร ภท.พรุ่งนี้