posttoday

วางขุมกำลังกองทัพ เกมยาว ค้ำยัน คสช.

24 สิงหาคม 2559

การจัดทำโผโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปีกำลังเป็นที่จับตาจากสังคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​

โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์

การจัดทำโผโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปีกำลังเป็นที่จับตาจากสังคม ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและ รมว.กลาโหม ขีดเส้นว่าจะสามารถนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้ก่อนวันที่ 15 ก.ย.นี้

ความสำคัญของการจัดทำโผทหารรอบนี้อยู่ตรงที่เป็นการรองรับช่วงก้าวลงจากอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ​ไล่มาตั้งแต่ช่วง 15 เดือนสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ต่อเนื่องมาจนถึงช่วง 5 ปี แรกของการเปลี่ยนผ่านที่มีกลไกตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อำนวยความสะดวกให้อำนาจหลายกลไก

การจัดวางขุมกำลังในกองทัพส่งไม้ต่อให้กับมือไม้ที่ไว้ใจได้ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างรอบคอบ ​เริ่มตั้งแต่ตำแหน่งสำคัญอย่าง ผบ.ทบ. แทน พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ที่จะเกษียณอายุในเดือนก.ย.นี้ ​

ตำแหน่งนี้ถูกจับตาเป็นพิเศษเพราะด้วยหน้าที่ที่จะเข้ามามีส่วนช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยให้บ้านเมืองในช่วงเตรียมการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นราวเดือน ธ.ค. 2560  

การได้บุคคลที่จะมาเป็นมือไม้ทำงานร่วมกับรัฐบาล คสช. ในช่วงเวลานี้จึงจำเป็นต้องได้บุคลากรที่เข้าขา มองตาก็รู้ใจกับทาง คสช.เป็นอย่างดี

เวลานี้มีแคนดิเดตที่จะต้องชิงดำกัน 2 คน ​คือ บิ๊กเจี๊ยบ-พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผช.ผบ.ทบ. และบิ๊กแกละ-พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร เสธ.ทบ.

ก่อนหน้านี้ชื่อของบิ๊กแกละดูจะมาแรงเป็นพิเศษ ด้วยชื่อชั้นที่ พล.อ.พิสิทธิ์ ถือเป็นหนึ่งในนายทหารที่เติบโตมาจากสาย “บูรพาพยัคฆ์” ขยับขึ้นมาตามไลน์รับตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก แม่ทัพน้อยที่ 1 รอง เสธ.ทบ. จนมาจ่อขึ้นไลน์ 5 เสือ ทบ. ที่ตำแหน่ง เสธ.ทบ.

ด้วยแรงหนุนจากบิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร ทำให้เชื่อว่าถูกวางตัวไว้สำหรับตำแหน่ง ผบ.ทบ.​ ดังจะเห็นว่าหลังจากรัฐประหารเคยถูกวางตัวมารับตำแหน่งสำคัญอย่างผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป และยังมีบทบาทในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. ดูแลความมั่นคง และงานด้านสามจังหวัดภาคใต้ที่มีความสำคัญในช่วงนี้

พร้อมวางตัวโยก พล.อ.เฉลิมชัย ไปนั่งเก้าอี้รอง ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อเปิดทางบิ๊กเข้-พล.ท.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ แม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นไลน์ 5 เสือ ​ที่ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ทบ. จ่อคิวเป็น ผบ.ทบ.ต่อไป

แต่ล่าสุดชื่อบิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย ดูจะมาแรงแซงทางโค้ง ด้วยแรงหนุนจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

เส้นทางของ พล.อ.เฉลิมชัย เติบโตมาในสายรบพิเศษ จากเสนาธิการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ผู้บัญชาการกองพลรบพิเศษที่ 1 รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ​จนมาจ่อที่ ผช.ผบ.ทบ.

จุดที่ไม่อาจมองข้ามคือ พล.อ.เฉลิมชัย มีอายุราชการถึงเดือน ก.ย. 2561 หากได้เป็น ผบ.ทบ. จะนั่งยาว 2 ปี ​ที่ได้เปรียบ พล.อ.พิสิทธิ์ ที่จะเป็นได้แค่ปีเดียว

หากมองในมุมการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 นั้น ​ชื่อของ พล.อ.เฉลิมชัย ดูจะ​ตอบโจทย์มากกว่า​ โดยเฉพาะความต่อเนื่องที่จะคุมตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งจนถึงหลังเลือกตั้ง อย่างน้อยก็เป็นหลักประกันในแง่การสร้างความมั่นคงให้รัฐบาล คสช.ได้ระดับหนึ่ง

แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร ว่าจะชี้ขาดเลือกใครระหว่าง พล.อ.พิสิทธิ์ และ พล.อ.เฉลิมชัย โดยมองหลายปัจจัยและช่างน้ำหนักหาจุดสมดุลที่สุด

มองข้ามช็อตต่อไปหลังจากนั้นเก้าอี้ ผบ.ทบ.น่าจะตกเป็นของ​บิ๊กเข้​ พล.ท.เทพพงศ์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งใน “บูรพาพยัคฆ์” ที่แนบแน่นทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์

พล.อ.เทพพงศ์ เติบโตจากผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เสนาธิการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และเข้าสู่เส้นทางรองแม่ทัพภาคที่ 1  แม่ทัพน้อยที่ 1 และแม่ทัพภาคที่ 1 ตามลำดับ

ส่องดูตำแหน่งที่คาดว่าจะขึ้นไลน์ 5 เสือ รอบนี้ เริ่มจากผู้ช่วย ผบ.ทบ. 2 ตำแหน่ง ทั้งบิ๊กเข้ พล.ท.เทพพงศ์ และ พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.)  ขณะที่ พล.ท.สสิน ทองภักดี รองเสนาธิการทหารบก จ่อขึ้นตำแหน่งเสนาธิการทหารบก ​

ถัดมาที่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ​​เป็นตำแหน่งสำคัญในกองทัพบกที่ถูกจับตา เพราะถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่จะก้าวสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ต่อไป

เวลานี้มีคู่ชิงแคนดิเดต 2 คน ได้แก่ บิ๊กแดง-พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพน้อยที่ 1 ​ที่ถือว่ามีผลงานโดดเด่น เคยได้รับความไว้วางใจให้มาควบคุมกองสลาก และบิ๊กตู่-พล.ต.กู้เกียรติ ศรีนาคา รองแม่ทัพภาคที่ 1 ที่ยังตัดสินใจได้ยากว่าผลสุด

ระยะหลัง พล.ต.กู้เกียรติ ดูจะมาแรงเป็นพิเศษด้วยผลงานที่เข้าตา พล.อ.ประวิตร ​แต่กระนั้นก็ไม่ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอีกหลายอย่าง

ดังนั้น ตำแหน่งนี้จึงยังเป็นไปได้ทั้งสูตรให้ พล.ต.กู้เกียรติ ขึ้น แม่ทัพภาคหนึ่งและให้​ พล.ท.อภิรัชต์ ขึ้นเป็น พล.อ.​ ไปเป็น รอง เสธ.ทหาร ที่กองทัพไทย ​หรืออีกสูตรให้ พล.ท.อภิรัชต์ ขึ้นแม่ทัพภาคหนึ่งและให้ พล.ต.กู้เกียรติ ขึ้น พล.ท. ในตำแหน่งแม่ทัพน้อยที่ 1

ทั้งหมดจึงต้องรอดูโผสุดท้ายที่จะออกมาว่าจะจัดวางกำลังกันอย่างไร​ โดยทั้งหมดเพื่อทำให้เกิดความเป็นเอกภาพไม่เกิดรอยร้าวที่จะสร้างแรงกระเพื่อมในอนาคต

รวมทั้งเป็นขุมกำลังสำคัญที่จะช่วยประคับประคองรัฐบาล คสช.ที่จะก้าวลงจากอำนาจเปิดให้มีการเลือกตั้งในปี 2560 อันจะทำให้รัฐบาล คสช. อยู่ในสภาวะขาลอย จำเป็นต้องสร้างหลักประกันในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมือง