ปมขัดแย้ง กม.ลูก ชนวนเสี่ยงเลื่อนเลือกตั้ง
เส้นทางสู่การเลือกตั้งเริ่มเห็นเค้าลางและความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดไว้ ผ่านกลไกแม่น้ำทั้ง 5 สาย ที่กำลังเตรียมความพร้อมในแต่ละด้าน
โดย...ทีมข่าวการเมืองโพสต์ทูเดย์
เส้นทางสู่การเลือกตั้งเริ่มเห็นเค้าลางและความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามโรดแมปที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำหนดไว้ ผ่านกลไกแม่น้ำทั้ง 5 สาย ที่กำลังเตรียมความพร้อมในแต่ละด้าน
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความเป็นห่วงว่าจะมีการเลื่อนเลือกตั้งออกไป พร้อม “ดักคอ” เรื่องสัญญาณการยื้ออยู่ในอำนาจต่อไปจากกรอบเวลาที่กำหนดเดิมเพื่อประคับประคองสถานการณ์
ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.จะออกมาประกาศชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ซึ่งถือเป็น “สัญญาประชาคม” ที่ยากจะบิดพลิ้ว
แต่กระนั้นไม่อาจคลี่คลายสลายความเป็นห่วงในประเด็นเลื่อนการเลือกตั้ง จนฝ่ายการเมืองยังแวะเวียนออกมาแสดงความเป็นห่วงอยู่หลายระลอก
หากพิจารณาอย่างรอบด้านจะเห็นว่าการเลือกตั้งแม้จะเป็นไปได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้
ต้องยอมรับว่า หากไม่มีเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอย่อมทำให้การเลื่อนการเลือกตั้งมีปัญหา อันจะไปตอกย้ำข้อครหาเรื่องการยื้ออยู่ในอำนาจ สุดท้ายจะวนกลับมาเป็นแรงเสียดทานกดดัน คสช.ที่รุนแรงมากขึ้น ซ้ำเติมปัญหารอบด้านที่กำลังรุมเร้าเวลานี้
อีกทั้งในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังสงบ ปราศจากเหตุปัจจัยที่ชนวนให้ต้องเลื่อนการเลือกตั้ง ท่ามกลางกลไกเตรียมความพร้อมที่เดินหน้าไปตามกรอบเวลาทำให้โอกาสเลื่อนการเลือกตั้งแทบเป็นไปได้ยาก
ยกเว้นในกรณีที่ “กลไก” เตรียมความพร้อมไม่สามารถเดินไปตามกำหนดที่วางไว้ อันจะกระทบเป็นลูกโซ่ทำให้การเลือกตั้งไม่สามารถเดินหน้าต่อไป
ดังจะเห็นกระแสพูดถึงสัญญาณความขัดแย้งในร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ทยอยเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จนเป็นห่วงว่าอาจกระทบกับกำหนดการพิจารณา ที่จะส่งผลต่อกรอบเวลาการจัดการเลือกตั้งได้
เมื่อในบทเฉพาะกาลรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 267 กำหนดไว้ชัดเจนว่า ให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดทำร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ เสนอต่อ สนช.ภายในกรอบเวลา 240 วัน นับจากวันที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้
โดย พ.ร.บ.ทั้ง 10 ฉบับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) 2.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) 3.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 4.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 5.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
6.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง 7.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 8.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 9.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน และ 10.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ตามกรอบ สนช.จะมีเวลาพิจารณา 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่าง พ.ร.บ. เมื่อ สนช.พิจารณาแล้วก็ให้ส่งต่อไปตามกระบวนการเพื่อให้นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ ถวายภายใน 20 วัน
มาตรา 268 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ระบุว่า ให้ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สส.ให้แล้วเร็จใน 150 วัน นับตั้งแต่วันที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ได้แก่ 1.พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2.การได้มาซึ่ง สว. 3.กกต. และ 4.พรรคการเมือง มีผลใช้บังคับ
เมื่อประกาศใช้กฎหมายแล้วให้ จัดการเลือกตั้งภายใน 150 วัน หลังประกาศใช้กฎหมายเลือกตั้ง
ทั้งนี้ กระบวนการที่เป็นห่วงกันอยู่ในขั้นตอนกรณีหาก สนช.พิจารณาเสร็จแล้ว ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องและ กรธ.พิจารณา หากเห็นว่าไม่ตรงตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ให้ตั้ง กมธ.วิสามัญ 11 คนขึ้นมา เพื่อพิจารณาและเสนอต่อ สนช.ภายใน 15 วัน
ในกรณีที่ สนช.มีมติไม่เห็นชอบด้วยคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ ให้ร่าง พ.ร.บ.นั้นตกไป ในกรณีที่ สนช.มีมติไม่ถึง 2 ใน 3 ให้ถือว่า สนช.ให้ความเห็นชอบตามร่างที่ กมธ.วิสามัญเสนอ
หากดูความคืบหน้า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเวลานี้ ฉบับที่พิจารณาแล้วคือ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต. ซึ่ง สนช.พิจารณาแล้ว ต่อมาได้ตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาตามมาตรา 267 สุดท้าย สนช.มีมติไม่เห็นชอบไม่ถึง 2 ใน 3 ส่งต่อไปยังนายกฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนช.มีมติเห็นชอบและส่งให้นายกฯ เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป
พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สนช.เห็นชอบ ต่อมามีการตั้ง กมธ.ตามมาตรา 267 สุดท้ายที่ประชุม สนช.มีมติไม่เห็นด้วยไม่ถึง 2 ใน 3 ส่งต่อไปยังนายกฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายต่อไป
ขณะที่ กรธ.อยู่ระหว่างการพิจารณากฎหมายฉบับอื่นๆ รอคิวเข้าสู่การพิจารณาของ สนช. ตามกรอบเวลา แต่ที่ต้องจับตาคือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ซึ่งถือเป็นอีกฉบับที่น่าจะมีความเห็นแตกต่างกันอย่างมากจนอาจจะยากหาข้อสรุป
เสี่ยงจะเป็นเหตุให้กรอบการเลือกตั้งที่วางไว้ต้องเลื่อนออกไป