ออกหมายจับแล้ว! 5คนร้ายปล้นเต็นท์รถที่สงขลา
ตำรวจออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาปล้นเต้นท์รถที่สงขลา เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่รอยต่อชายแดน สงขลา-ปัตตานี
ตำรวจออกหมายจับ 5 ผู้ต้องหาปล้นเต้นท์รถที่สงขลา เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวก่อเหตุในพื้นที่รอยต่อชายแดน สงขลา-ปัตตานี
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าคดีกลุ่มคนร้ายบุกปล้นเต็นท์รถยนต์มือสอง วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อ.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รถยนต์ไปทั้งหมด 6 คัน และของคนร้ายอีก 1 คัน ที่ปล้นมาจาก จ.ปัตตานี มาใช้ก่อเหตุ รวมทั้งยังจับเจ้าของเต็นท์ และลูกน้อง รวม 4 คน ไปเป็นตัวประกัน และใช้อาวุธปืนจ่อยิงเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 1 คน และรอดมาได้ 2 คน ส่วนคนร้ายถูกวิสามัญ 1 ศพ ขณะขับรถแหกด่านหลบหนี ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรกนั้น
ล่าสุดพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ประชุมติดตามความคืบหน้า และตรวจสอบสำนวนคดี โดยมี พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ. 9 พร้อมกับชุดสืบสวนคลี่คลายคดีที่มีการแต่งตั้งขึ้น รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์ที่ถูกปล้นทั้ง 6 คัน และรถยนต์ของคนร้าย ซึ่งขณะนี้ถูกนำมาเก็บเอาที่สนามหน้า สภ.นาทวี
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก และสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดจังหวัดนาทวี ออกหมายจับผู้ต้องหาชุดแรกในวันนี้ได้จำนวน 5 ราย ซึ่งมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดีเอ็นเอ ที่พบในรถที่ปล้นไป และประจักษ์พยานบุคคล และจะต้องขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือ ซึ่งเชื่อว่ายังคงกบดานอยู่ในพื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอชายแดนสงขลา กับ จ.ปัตตานี และหลังจากนี้ก็จะมีการติดตาม และวางมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยง ให้มีความรัดกุมมากกว่านี้ด้วย
หลังจากนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมคณะ ยังได้เดินทางไปเยี่ยม นายธานีศักดิ์ ยี่จิน เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง วังโต้คาร์เซ็นเตอร์ อ.นารทวี จ.สงขลา เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งยังคงมีขวัญกำลังใจดี และขณะนี้ยังคงต้องให้อยู่ในที่ปลอดภัย และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาชุดแรกจำนวน 5 ราย ที่ถูกออกหมายจับมีนายบูคอรี หลำโซ๊ะ นายรอซารี หลำโซ๊ะ นายสุไลมาน สาเมาะ นายซารีซานฮัมรี ดือราแม และนายอัสนัน สาอิ ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่รอยต่อชายแดน จ.สงขลา และ จ.ปัตตานี