posttoday

ชลประทานเผยน้ำท่วมภาคใต้เริ่มคลี่คลายหลายพื้นที่

22 มกราคม 2560

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้คลี่คลายแล้ว หลังฝนเริ่มน้อยลง กรมชลประทานเสริมเครื่องสูบน้ำ เข้าไปเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังเพิ่มเติม

สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคใต้คลี่คลายแล้ว หลังฝนเริ่มน้อยลง กรมชลประทานเสริมเครื่องสูบน้ำ เข้าไปเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังเพิ่มเติม

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์สภาวะอากาศระยะนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 22-25 มกราคม 2560 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ในภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

พล.อ.ฉัตรชัย  สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยพี่น้องในพื้นที่ภาคใต้ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอย่างมาก ได้มอบหมายให้กรมชลประทานนำเครื่องจักร เครื่องมือลงไปติดตั้งเพิ่มเติมจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังให้ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง ดังนี้ จ.สุราษฎร์ธานี  ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีบริเวณอ.เคียนชา และอ.พุนพิน มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จ.พัทลุง ยังคงมีน้ำท่วมที่ลุ่มต่ำบริเวณปากแม่น้ำต่างๆที่ไหลไปลงทะเลสาบสงขลา

จ.นครศรีธรรมราช ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำของลุ่มน้ำปากพนังตอนล่าง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือในพื้นที่ประมาณ 248 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปริมาณน้ำท่วมทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มลดลง ส่วนในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จากฝนที่ตกสะสมในพื้นที่เมื่อวานนี้(21 ม.ค. 60) ทำให้ยังมีปริมาณน้ำท่วมค้างอยู่ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองระบายน้ำบางส่วน กรมชลประทาน เร่งเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 17 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ  4 เครื่อง เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกในพื้นที่เพิ่มเติมจะเข้าสู่สภาวะปกติในตอนเย็นนี้(22 ม.ค. 60) ส่วนที่ จ.สงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำริมทะเลสาบสงขลา บริเวณอ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร แนวโน้มลดลง

จ.ปัตตานีและจ.ยะลา ฝนที่ตกหนักช่วงวันที่ 18 - 19 ม.ค.60 ทำให้มีน้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองปัตตานี อำเภอกะพ้อ อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอแม่ลาน อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอมายอ และอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี และมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งของอำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน และอำเภอยะหา จังหวัดยะลา โดยที่ลุ่มน้ำปัตตานี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น บริเวณบ้านบริดอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.85 เมตร ส่วนที่สะพานเดชานุชิต อ.เมือง จ.ปัตตานี ระดับน้ำต่ำกว่าระดับตลิ่ง 0.16 เมตร บริเวณอ.เมืองยะลา ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.59 เมตร ทางด้านลุ่มน้ำสายบุรี ระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่ง 0.47 เมตร และที่อ.รามัน จ.ยะลา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.76 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์น้ำจะเข้าสู่สภาวะปกติ 5-6 วัน

สำหรับเครื่องสูบน้ำที่กรมชลประทาน ได้ทำการติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะนี้กรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำจากส่วนกลางลงไปเพิ่มเติม รวมกับเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนทั้งสิ้น 279 เครื่อง ปฏิบัติงานอยู่ 169 เครื่อง สำรองไว้พร้อมปฏิบัติงาน 110 เครื่อง ส่วนเครื่องผลักดันน้ำ ออกปฏิบัติการไปแล้ว 112 ลำ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการระบายน้ำสายต่างๆ สามารถระบายลงสู่แม่น้ำสายหลักและลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น  พร้อมกันนี้ ได้ย้ำให้ทุกโครงการชลประทานในภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานสถานการณ์น้ำให้ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำได้อย่างทันท่วงทีต่อไปแล้ว