posttoday

ปลัดสธ.เผยเร่งฟื้นฟูรพ.บางสะพาน คาดเปิดบริการ13ม.ค.

12 มกราคม 2560

ปลัด.สาธารณสุข เผยเร่งฟื้นฟู รพ.บางสะพาน เตรียมเปิดบริการปกติพรุ่งนี้ 13 ม.ค. พร้อมแนะ 7 วิธีบำบัดเครียด

ปลัด.สาธารณสุข เผยเร่งฟื้นฟู รพ.บางสะพาน เตรียมเปิดบริการปกติพรุ่งนี้ 13 ม.ค. พร้อมแนะ 7 วิธีบำบัดเครียด

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.  นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการกู้โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนี้เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันสูบน้ำออกจากโรงพยาบาล และทำความสะอาดตึกผู้ป่วยนอก เพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการประชาชนวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขระบบประปาในโรงพยาบาล

สำหรับการจัดบริการประชาชน วันนี้โรงพยาบาลบางสะพานเปิดจุดบริการเพิ่มอีก 3 จุดที่ อบต.กำเนิดนพคุณ  อบต. พงษ์ประสาท และอบต.ทองมงคล รวมกับของเดิม 3 จุด ที่โรงเรียนบางสะพานวิทยา โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลร่อนทอง และที่วัดธงชัยธรรมจักร บ้านกรูด โดยมีทีมแพทย์พยาบาลสนามหรือทีมMERT จากนอกพื้นที่เข้าร่วมจัดบริการ ส่วนการออกเยี่ยมประชาชนผู้พิการ ผู้ป่วยเรื้อรังมอบให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขเข้าไปดำเนินการให้ได้รับการดูแลต่อเนื่อง ไม่ขาดยา

ส่วนการดูแลประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในภาพรวม  ได้ดูแลครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมทั้งด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ป้องกันควบคุมโรค โดยโรคทางกายมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้รวม 148 ทีม มีผู้รับบริการ 22,505 คน ด้านจิตใจมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต หรือทีม MCATT ลงไปดูแลประชาชนร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ มีผู้รับบริการ 2,230 คน พบมีภาวะเครียด 152 คน ให้คำแนะนำวิธีปฏิบัติตัว ทั้งนี้ กำชับให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น ผู้มีปัญหาโรคทางจิตเวช ผู้ประสบความเสียหายหรือสูญเสียรุนแรง  

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แนำนำว่า การดูแลทางด้านสุขภาพจิต ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดูแลจิตใจตนเองในระยะนี้ ดังนี้ 1.ขอให้ตั้งสติ มองทุกปัญหาว่ามีทางแก้ไข 2.หากรู้สึกท้อใจให้ค้นหาแหล่งสร้างกำลังใจให้กับตนเอง เช่น ความรัก ความผูกพันในครอบครัว ความศรัทธาทางศาสนา 3.หาวิธีผ่อนคลายความเครียด ด้วยวิธีต่างๆ เช่น บริหารร่างกาย นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฝึกหายใจคลายเครียดและทักษะผ่อนคลายอื่นๆ พูดคุยกับคนใกล้ชิด 4.แปลงวิกฤตให้เป็นโอกาสในการสร้างความผูกพันใกล้ชิดต่อกันในครอบครัวและชุมชน  5.มองหาโอกาสในการช่วยเหลือผู้อื่นเปลี่ยนความรู้สึกจากการตกเป็นเหยื่อเป็นผู้กอบกู้วิกฤต 6.ศึกษาและปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา 7.หลีกเลี่ยงการใช้สุราหรือสารเสพติดในการจัดการกับความเครียด ความทุกข์ใจ ทั้งนี้หากพบว่ายังมีความเครียด ไม่สบายใจ ที่ไม่สามารถจัดการด้วยตนเองได้ สามารถขอคำปรึกษาได้จากบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง