posttoday

อุตุฯยันพายุ 2 ลูก ไม่ถล่มไทยซ้ำเซินกา

31 กรกฎาคม 2560

พายุ2ลูกที่ตามหลังเซินกามาได้เคลื่อนผ่านพ้นประเทศไทยไปแล้วและไม่ส่งผลกระทบต่อไทยอีก

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ภายหลังจาก สมิทธ ธรรมสโรชประธานมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่ามีพายุตามมาอีก 2 ลูกในทะเลจีนใต้ เป็นพายุไต้ฝุ่น ลูกแรกคือ “เนสาท” ส่วนลูกที่ 2 เป็นพายุดีเปรสชั่น “ไห่ถาง” มีแนวโน้มสูงที่จะเข้ามาถล่มภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต่อจาก “เซินกา” นั้น วันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่าพายุ 2 ลูกดังกล่าว ขณะนี้ได้เคลื่อนตัวผ่านไปยังประเทศไต้หวัน ซึ่งได้ผ่านพ้นประเทศไทยไปแล้วและไม่ส่งผลกระทบต่อไทยอีก ดังนั้นประชาชนชาวไทยไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมซ้ำเติมอีก เพราะในช่วง 1-2 วันนี้ปริมาณฝนตกไม่หนัก

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วม จ.สกลนคร วัชรพงศ์ ศรีสำราญ หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานสกลนคร กล่าวว่า หากฝนไม่ตกมาซ้ำอีกคาดว่าไม่เกิน 10 วัน จะคลี่คลายกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากขณะนี้กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 26 เครื่อง เร่งระบายน้ำจากหนองหารและลำน้ำก่ำลงสู่แม่น้ำโขงที่ จ.นครพนม โดย 4 เครื่องติดตั้งที่ประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต ส่วนอีก 22 เครื่อง ติดตั้งที่บริเวณประตูระบายน้ำลำน้ำก่ำ ได้แก่ ประตูระบายน้ำบ้านนาขาม ประตูระบายน้ำบ้านนาคู่ บริเวณสะพานด่านม่วงคำ ประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง และประตูระบายน้ำสุรัสวดี ซึ่งจะทำให้ความเร็วการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากปกติวันละ 30 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) เป็นวันละ 40-50 ล้าน ลบ.ม.

“ระดับน้ำหนองหารเมื่อวันที่ 30 ก.ค. วัดที่ประตูระบายน้ำสุรัสวดีอยู่ที่ระดับ 158.52 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปริมาณน้ำฝน 40.30มิลลิเมตร ซึ่งยังคงมีระดับที่เพิ่มขึ้นจากเช้าวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา 1.50 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก แนวโน้มระดับน้ำจะทรงตัวและลดลงตามลำดับ คาดว่าน้ำท่วมจะคลี่คลายไม่เกิน 10 วัน” วัชรพงศ์ กล่าว

จากอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในปีนี้ ทำให้ วิทยา จันทร์ฉลอง ผวจ.สกลนคร ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินน้ำท่วมทั้งจังหวัด 18 อำเภอ คือ อ.เมืองสกลนคร กุสุมาลย์ กุดบาก พรรณานิคม พังโคน วาริชภูมิ นิคมน้ำอูน วานรนิวาส คำตากล้า บ้านม่วง อากาศอำนวย สว่างแดนดิน ส่องดาว เต่างอย โคกศรีสุพรรณ เจริญศิลป์ โพนนาแก้ว และภูพาน

ด้านความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.สกลนคร และหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้น พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างทั่วถึงและเข้าไปกู้สถานการณ์ในแต่ละพื้นที่จนกว่าจะกลับสู่สภาวะปกติ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) สั่งการให้ส่งเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบ MI-17V5 จากศูนย์การบินทหารบกเดินทางไปสนับสนุนการคลี่คลายสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่วิกฤตแล้ว โดยเฉพาะที่ จ.สกลนคร ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดูแลประชาชนต่อเนื่อง ทั้งจัดเรือท้องแบน 50 ลำ แบ่งเป็น 6 สาย ออกแจกจ่ายถุงยังชีพในเขตเทศบาลนครสกลนคร จัดกระสอบทรายป้องกันเครื่องปั่นไฟของโรงพยาบาล

เช่นเดียวกับมณฑลทหารบกที่ 29 ได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลค่ายกฤษณ์สีวะรา บริการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่โรงเรียนอนุบาลสกลนคร ซึ่งมีผู้พักอาศัย 400 ครัวเรือน ส่วนชุดบรรเทาสาธารณภัยกองพันพัฒนาที่ 2 เข้าช่วยเคลื่อนย้ายประชาชนจากตัวเมืองมายังศูนย์อพยพชั่วคราว ณ ศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์อพยพทั้ง 5 ศูนย์จังหวัดสกลนคร จำนวน 821 คน

ไม่เพียงแต่กองทัพไทยเท่านั้นที่ระดมกำลังพลเข้ากอบกู้สถานการณ์น้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้นำคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ลงพื้นที่ จ.สกลนคร พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือดูแลประชาชน กำชับแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พร้อมจัดตั้งโรงครัวตำรวจเพื่อจัดอาหารและเครื่องดื่ม ดูแลประชาชนที่ประสบภัย พร้อมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการด้านสุขภาพแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยด้วย

สถานการณ์น้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง เช่นที่ จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนลำปาวระบายน้ำ 5 อำเภอรับน้ำเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน คือ เมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย ร่องคำ และฆ้องชัย เช่นเดียวกับ จ.นครพนม มวลน้ำจาก จ.สกลนคร กำลังไหลจากหนองหารไปยังลุ่มน้ำก่ำ อ.นาแก น้ำเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตรเสียหายหลายพันไร่

ที่ จ.เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักทะลักท่วมชุมชนและย่านเศรษฐกิจ อ.หล่มสัก จมบาดาลแล้วกว่า 3,000 หลังคาเรือน เดือดร้อนกว่า 5,000 คน และเกิดเหตุสลดไฟฟ้าชอร์ตชาวบ้านใหม่ ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก เสียชีวิต 1 ศพ ที่ จ.พิจิตร ฝนยังตกหนักและมวลน้ำจาก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ไหลบ่าเข้าท่วม 9 อำเภอ 22 ตำบล 153 หมู่บ้าน ทำให้พื้นที่การเกษตรเสียหายแล้วกว่า 4 หมื่นไร่

ทั้งนี้ อิทธิพลพายุ “เซินกา” ทำให้เกิดฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 5-29 ก.ค.ที่ผ่านมา ฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ได้เกิดอุทกภัยทั้งหมด 42 จังหวัด ซึ่งคลี่คลายแล้ว 23 จังหวัด ยังเหลือ 19 จังหวัด