posttoday

เปิดใจเจ้าของ "แล้วแต่ กะเพราแท้" โดนใจลูกค้าด้วยภาชนะสุดแปลก

22 กุมภาพันธ์ 2559

คุยกับ จักรพล ศรีตระกูล เจ้าของ “แล้วแต่ กะเพราแท้” ร้านอาหารจอมเกรียน ที่เลือกเสิร์ฟด้วยภาชนะสุดแปลก ไม่เหมือนใครในโลก

คุยกับ จักรพล  ศรีตระกูล เจ้าของ “แล้วแต่ กะเพราแท้” ร้านอาหารจอมเกรียน ที่เลือกเสิร์ฟด้วยภาชนะสุดแปลก ไม่เหมือนใครในโลก

โด่งดังเเละถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างมาก สำหรับ "แล้วแต่ กะเพราแท้" ร้านสุดเกรียน ที่เสิร์ฟอาหารด้วยภาชนะสุดแปลก ไล่ตั้งเเต่ หม้อหุงข้าว ครก ตาชั่ง แม้กระทั่งเครื่องปั่นผลไม้ ทำเอาบรรยากาศช่วงเที่ยง หลังมหาวิทยาลัยขอนเเก่นโซนที่พักของกลุ่มนักศึกษาและชาวบ้านบ้านโนนม่วง เเน่นขนัดไปด้วยผู้คนทุกเพศทุกวัย เข้าเเถวต่อคิวลิ้มลองรสชาติกะเพราบนพาชนะสุดเเหวกนี้กันอย่างคึกคัก

จักรพล ศรีตระกูล วัย 28 ปี เจ้าของร้าน "แล้วแต่ กระเพราแท้" บอกด้วยรอยยิ้มว่า เปิดร้านแห่งนี้มาได้กว่า 2 ปีแล้ว โดยเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนเเก่น และกลุ่มนักเล่นดนตรีอินดี้

“ที่มาของร้าน เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนนักศึกษาและเพื่อนในวงดนตรี ชื่อ the clock ครับ ที่ผ่านมาเราตระเวนเล่นตามเวทีคอนเสริต์ต่างๆ และตามร้านอาหารทั่วไปทั้งในจังหวัดและภาคอีสาน พอถึงช่วงว่างเว้นจากคอนเสิร์ต ด้วยความที่คนในวงและกลุ่มเพื่อนนั้นทำอาหารอร่อย โดยเฉพาะเมนูข้าวผัดกะเพราซึ่งเป็นอาหารจานด่วนยอดนิยมของคนไทย เลยตัดสินใจกันว่า เฮ้ย เปิดร้านอาหารตามสั่งกันดีกว่า ขายเฉพาะข้าวผัดกะเพราเท่านั้น ปรากฎว่าได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษารุ่นน้องที่มาใช้บริการเป็นประจำทุกวัน”

จักรพล บอกว่า “แล้วแต่” เป็นประโยคที่ทุกคนมักพูดเสมอ เมื่อถูกถามว่าวันนี้จะกินอะไรดี จากเหตุผลดังกล่าวจึงเลือกนำมาใช้เป็นชื่อร้านเสียเลย ขณะที่คำว่า "กะเพราแท้" และนิยามของร้านที่ว่า เราคือโลกของผัดกะเพรา เกิดจากความมั่นใจในตัวของพ่อครัว ที่ผัดกะเพราในเมนูเครื่องเคียงต่างๆ ได้อร่อยเหาะมาก

“ผัดกะเพราของร้านเรา เป็นกะเพราแท้ ใช้ใบกะเพราเป็นวัตถุดิบหลักเพียงอย่างเดียว ผัดกับพริกและกระเทียม ก่อนที่จะปรุงรส ตามแบบฉบับของกะเพรา ที่รสชาติต้องจัดจ้านและเผ็ดร้อน”

เจ้าของร้านหนุ่ม พูดถึงแนวคิดการใช้ภาชนะสุดแปลกเสิร์ฟอาหาร จนกลายเป็นกระแสในโลกออนไลน์ให้ฟังว่า เริ่มมาจากการรับประทานกันเองในหมู่พรรคพวกเพื่อนฝูงและรุ่นน้อง ที่นำครก หม้อหุงข้าว เครื่องปั่นผลไม้ กระถางดอกไม้ เขียง ปิ่นโต ฝาหม้อหรือแม้กระทั่งถ้วยขนาดใหญ่มาเป็นภาชนะ ก่อนจะเริ่มต่อยอดลองใช้กับกลุ่มลูกค้าดูบ้าง

“จากตอนแรก เราทำกินกันเองในกลุ่มเพื่อนและรุ่นน้องนักศึกษา ก็เริ่มทำให้ลูกค้าบ้าง จนมีการถ่ายภาพการเสิร์ฟอาหารด้วยเมนูจานแปลกๆ ที่ลูกค้าไม่ทราบว่าจะได้รับจานอะไรนั้นลงในเฟซบุ๊ก ทำให้เกิดเป็นกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด มีลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัดมาใช้บริการ อุดหนุนข้าวผัดกะเพราของเราจนแน่นร้านทุกวัน”

หนุ่มอินดี้ บอกทิ้งท้ายว่า นอกจากความแปลกแหวกแนวของภาชนะและรสชาติที่จัดจ้านของกะเพราแล้ว “ราคาและความสะอาด” ยังเป็นสิ่งที่ทางร้านให้ความสำคัญและจะยืนหยัดต่อไป

“เราเน้นเรื่องความสด ความสะอาด และไม่เอาเปรียบลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่มีรายได้น้อย โดยจะจำหน่ายในราคาจานล่ะ 39 บาทต่อไป หากเพิ่มไข่ คือ ไข่ดาวและไข่เจียวใบละ 7 บาท ไข่ออนเซน 10 บาท และไข่ข้น 20 บาท ปัจจุบันนอกจากกะเพราะราดข้าวแล้ว ยังมีเมนูพิเศษอื่นๆ อีก คือมาม่ากะเพรา , สปาเก็ตตี้กะเพรา , กะเพราโดนัท , กะเพราคลุก และเนื้อวัว ที่จะให้บริการเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์และนักขัตฤกษ์”

“แล้วแต่ กะเพราแท้" เปิดให้บริการเพียง 15 โต๊ะเท่านั้น ตั้งแต่วันจันทร์-ศุกร์เวลา 11.30-21.00 น. ส่วนเสาร์และอาทิตย์ ให้บริการตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น.  ทุกจานร้านจะเสริฟด้วยช้อนสั้นด้ามยาว เพื่อให้ลูกค้าย้อนวัยสู่ความเป็นเด็กอีกครั้ง ซึ่งถืออีกหนึ่งเสน่ห์ของทางร้าน