สอบเครียดสาวทอม-3โจ๋หาเบาะแสฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะ

ตำรวจขอนแก่นสอบเครียดสาวทอม พร้อมวัยรุ่นชาย 3 คน ทั้งคืน หาเบาะแสมือฆ่าหั่นศพสาวคาราโอเกะ

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 26 พ.ค. 60 พ.ต.อ.จรัสพัฒน์ สุตยสรณคม รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น  เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วม พ.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ คงสิริสมบัติ ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 , พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น รวมทั้งชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าการฆ่าหั่นศพ ก่อนถูกนำบรรจุไว้ในถุงดำและใส่ในถังพลาสติดอีกชั้นขุดหลุมทิ้งไว้ภายในป่าสาธารณะข้างทาง ในเขต อ.เขาสวนวกาง โดยมีผู้มาพบศพเมื่อวานที่ผ่านมา (25 พ.ค.) นั้น ชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีได้มีการประชุมเครียดตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา และยืนยันได้ว่าผู้ตายคือ น.ส.วาริสรา กลิ่นจุ้ย หรือน้องแอ๋ม  อายุ 22 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท ปัจจุบันทำงานเป็นสาวคาราโอเกะที่ร้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองขอนแก่น และพักอาศัยอยู้ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น เช่นกัน  ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวนนั้นขณะนี้ได้มีการเชิญตัวคนใกล้ชิดของน้องแอ๋ม ทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วยสาวทอมที่อยู่ในภาพกับผู้ตาย 1 คน และวัยรุ่นชายอีก 3 คน  โดยยังคงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆได้

ขณะเดียวกัน นาง สายรุ้ง กลิ่นจุ้ย อายุ 42 ปี มารดาของผู้ตายพร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูภาพถ่ายผู้ตาย สำหรับการยืนยันว่า ใช่ น.ส.วาริสรา หรือไม่   แต่ยังทำใจไม่ได้ต่อการจากไปของลูกสาว จึงยังไม่มีการชี้ภาพถ่ายใดๆ โดยจะขอเข้าพบเจ้าหน้าที่อีกครั้งในช่วงสายของวันนี้

ด้าน น.ส.องุ่น เพียแก่น อายุ 36 ปี น้าสาวของผู้ตาย ยืนยันภาพจากเฟซบุ๊ก Warisara Klinjui หรือ  Ammy ว่า เป็นเฟซบุ๊กของน้องแอ๋ม จริง โดยเพื่อนๆที่ทำงานเรียกว่า เอมมี่  และเป็นหญิงสาวที่ถูกฆ่าหั่นศพจริง   เพราะจำรอยสัก เสื้อผ้า ที่สวมใส่ได้ ทั้งนี้น้องแอ๋มเป็นชาวจังหวัดชัยนาท พ่อเสียชีวิตไปนานแล้ว จากนั้นก็มาทำงานกลางคืนที่จังหวัดขอนแก่น จนพบรักและแต่งงานกับสามีเมื่อประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา หลังแต่งงานสามี ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ก็ตระเวนทำงานตามต่างจังหวัด

"น้องแอ๋มรู้สึกเหงาและว่างงาน จึงขอสามีกลับมาทำงานที่ร้านคาราโอเกะ และมาพบรักกับสาวทอม ชาว อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งเรื่องนี้สามีก็ทราบ แต่ไม่ใส่ใจเพราะเห็นเป็นเรื่องผู้หญิงคบกัน ทั้งสามคนจึงไม่มีปัญหากัน และไปมาหาสู่กัน ก่อนจะกลายเป็นศพ ประมาณวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา สาวทอมโทรศัพท์บอกกับแม่คนตายว่า น้องแอ๋มหายตัวไป จะให้แจ้งตำรวจตามหาหรือไม่ แม่จึงแนะนำว่า ให้ครบ 24 ชั่วโมง ค่อยแจ้งคนหาย จนกระทั่งวันที่ 24 พ.ค. สาวทอมจึงแจ้งความที่สภ.เมืองขอนแก่นเรื่องคนหาย มาทราบเรื่องอีกทีก็ตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์แจ้งว่า น้องแอ๋มถูกฆ่าหั่นศพ ทิ้งศพที่ อ.เขาสวนกวาง ให้เดินทางมาดูศพ เพื่อยืนยันว่าใช่น้องแอ๋มหรือไม่ แต่แม่ของน้องยังทำใจไม่ได้ จึงยังไม่ชี้ภาพยืนยัน ทั้งนี้ทั้งนั้นมารดาก็บอกว่าเป็นน้องแอ๋มแน่นอน พร้อมจะตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ทราบตามขั้นตอนด้วย ซึ่งเมื่อขั้นตอนการพิสูจน์ศพทางนิติเวชเรียบร้อย มารดาก็จะนำศพน้องแอ๋ม กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ชัยนาทต่อไป"

รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า  การสอบปากคำนั้นทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี และให้การเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนอย่างมาก โดยยังไม่พบพิรุธ ส่วนชายวัยรุ่นอีกสามคนนั้น ยังเป็นเยาวชน การสอบสวนต้องเป็นไปตามลำดับขั้นตอนของกฏหมายที่คุ้มครองเด็ก อย่างไรก็ดีการฆาตกรรมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ตัดประเด็นใดๆทิ้ง ทั้งในเรื่องของการฆ่าชิงทรัพย์ แค้นส่วนตัวที่อาจจะเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น หรือเรื่องหนี้สิน แม้กระทั่งเรื่องธุรกิจอื่นๆที่คนใกล้ชิดไม่รู้  โดยจะทำการสืบสวนครบทุกประเด็น โดยคาดว่าไม่เกิน 7 วัน น่าจะปิดคดีได้

"พบว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีผู้ตาย และมีการกดเงินตามตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อบ่อยครั้งในช่วงที่หายตัวไปจนกลายเป็นศพ ซึ่งคนที่กดเอทีเอ็มของคนตาย ต้องเป็นคนที่รู้รหัสและใกล้ชิดกับคนตายพอสมควรนอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสืบสวนตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้บรรทุกถังและอุปกรณ์ไปขุดดินฝังถังบรรจุศพคนตายตามเส้นทางต่างๆในพื้นที่หมู่บ้านชุมชน เพราะเส้นทางที่นำศพคนตายไปฝังนั้นเป็นทางไปไร่นา แต่ก็สามารถใช้เป็นเส้นทางลัดไปได้หลายอำเภอ ซึ่งผู้ที่ใช้เส้นทางนี้ หรือจะเข้าไปในจุดที่ฝังศพคนตาย ต้องเป็นคนที่เคยสัญจรและรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดี"