การค้าช่องสายตะกูคลายตึงเครียดเขมรเลิกปิดด่าน

การค้าชายแดนช่องสายตะกูบุรีรัมย์กลับสู่ภาวะปกติ หลังกัมพูชายอมเปิดด่าน แต่ไทยยังยึดตามข้อตกลงอนุญาตเฉพาะคนในพื้นที่

บรรยากาศการค้าที่จุดผ่อนปรนบริเวณด่านช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้เกิดความตึงเครียดเนื่องจากไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยไม่อนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวจากนอกพื้นที่ อ.บ้านกรวด ผ่านแดนเข้าไปซื้อสินค้าและเข้าชมบ่อนกาสิโนของฝั่งช่องจุ๊บโกกี ต.อัมปึล อ.บันเตียอัมปึล จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา จนเกิดผลกระทบกับพ่อค้าแม่ค้าของทั้งสองฝั่งไม่สามารถซื้อขายของได้ตามปกติ ทำให้พืชผัก ผลไม้ และอาหารสดเน่าเสียจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดตัวแทนระดับพื้นที่ทั้งสองฝ่ายได้เจรจาหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน โดยทางกัมพูชาเสนอให้ไทยไม่ต้องจำกัดคนเข้าออกเฉพาะที่มีภูมิลำเนาใน อ.บ้านกรวด แต่ไทยไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเสนอได้ เนื่องจากขัดต่อข้อตกลงเมื่อครั้งมีการประชุมร่วมก่อนการเปิดจุดผ่านแดนเมื่อปี 2554 ซึ่งทางกัมพูชาเข้าใจพร้อมเปิดด่านให้ค้าขายตามปกติ สำหรับการขอขยายเวลาเปิดจุดผ่านแดนจากเดิมที่เวลา 08.00-15.00 น. เป็น 08.00-17.00 น. ฝ่ายไทยไม่สามารถปฏิบัติตามได้เพราะผิดต่อระเบียบ ครม. ส่วนกรณีที่ให้มีการใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว ผลการหารือ ฝ่ายไทยได้ส่งเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทยแล้ว ซึ่งต้องรอการตอบรับเพราะระดับพื้นที่ตัดสินเองใจไม่ได้

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ปัญหาเรื่องคนนอกพื้นที่เข้าไปไม่ได้นั้น เพราะในกระบวนกฎหมายยังไม่สามารถให้เข้าไปได้ เพราะช่องสายตะกูมีสถานะเป็นเพียงจุดผ่อนปรนทางการค้าการจะข้ามแดนต้องใช้พาสปอร์ต