ไฟไหม้โรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซลยังคุมเพลิงไม่ได้

นครราชสีมา-เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบาดเจ็บ 1 ราย จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.60 เวลา 21.49น.พ.ต.ท.สังเวียน ตรวจนอก พนักงานสอบสวนสารวัตรเวร สภ.ขามสะแกแสง อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน บริษัท วี.เค.พี.เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 33 หมู่7บ้านดอนใหญ่ ต.พะงาด อ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา  ซึ่งเป็นโรงงานผลิตน้ำมันไบโอดีเซลจากยางรถยนต์เก่า  มี นายชัยณริน พันธ์ทประสิทธิ์ อายุ 60 ปี เป็นเจ้าของ โดยเพลิงได้ลุกไหม้อย่างรุนแรงภายในโรงงานบริเวณเตาหลอมยางรถยนต์เพื่อผลิตน้ำมันไบโอดีเซลและลุกลามอย่างรุนแรง ทางฝ่ายปกครองของอำเภอขามสะแกแสงได้วิทยุขอกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอำเภอขามสะแกแสงและพื้นที่ใกล้เคียงหลายแห่ง รวมมากกว่า 20 คัน รวมทั้งรถฉีดโฟมจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5นครราชสีมา มาฉีดสะกัดเพลิง  เนื่องจากภายในโรงงานมีถังน้ำมันเตาอยู่ 2 ถัง ซึ่งบรรจุถังละ100,000 ลิตร รวม 200,000 ลิตร  เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าไฟจะลามถึงและอาจจะเกิดเหตุถังน้ำมันเตาระเบิดขึ้นมาจะเกิดความเสียหายครั้งใหญ่  จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้โดยขณะเกิดเหตุมีคนงานถูกไฟคลอกบาดเจ็บสาหัส 1ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.ขามสะแกแสง เพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิตแล้ว

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้สั่งการให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมาและนายอำเภอขามสะแกแสง เข้าอำนวยการดับเพลิงอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยในเบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีคนงานเป็นชาย 1คน ได้นำยางรถยนต์เก่าเข้าหลอมในเตาซึ่งยังไม่ทันได้เวลาที่จะกำหนดแต่คนงานก็ไปเปิดฝาเตาหลอมก่อนทำให้ไฟพุ่งออกมาจนลุกลามอย่างรุนแรงเป็นเหตุให้คนงานถูกไฟคลอก 1 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพลิงได้ลุกลามไหม้ภายในโรงงานที่มีทั้งถังน้ำมันและยางรถยนต์เก่าจำนวนมากและผลจากเพลิงไหม้ส่งผลให้หลังคาอาคารของโรงงานเริ่มทรุดตัวลงแล้ว จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ส่วนค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.40 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เนื่องจากภายในโรงงานมียางรถยนต์เก่าที่ใช้ในการผลิตน้ำมันเตาอยู่เป็นจำนวนมาก  รถดับเพลิงจำนวน 4 คันได้เพียงฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปติดถึงน้ำมันเตาจำนวน 2 ถัง ที่บรรจุน้ำมันเตาถังละ 1 แสนลิตร รวม 2 แสนลิตร เพราะถ้าไฟลุกลามไปยังถังเก็บน้ำมันเตาดังกล่าวเกรงจะเกิดเหตุรุนแรงขึ้นมาได้