posttoday

ดันจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านแดนถาวร

17 พฤศจิกายน 2559

บุรีรัมย์-หลายหน่วยงานร่วมเดินหน้าผลักดันจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านผ่านแดนถาวรเผยปีที่ผ่านมามียอดซื้อขายสะพัดกว่า300ล้านบาท

บุรีรัมย์-หลายหน่วยงานร่วมเดินหน้าผลักดันจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านผ่านแดนถาวรเผยปีที่ผ่านมามียอดซื้อขายสะพัดกว่า300ล้านบาท

นายประภาส รักษาทรัพย์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมประชุมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดผังในการตั้งตู้คอนเทนเนอร์สำหรับปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนช่องสายตะกู ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด รองรับการยกระดับจากจุดผ่อนปรนเป็นด่านผ่านแดนถาวร หลังจากที่มีความพยายาม ผลักดันมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปีซึ่งขณะนี้ทุกฝ่ายก็มีความพร้อมรับการยกระดับเป็นด่านผ่านแดนถาวร แต่ยังรอเพียงการอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวทั้งหมด 250 ไร่จังหวัดจะได้นำข้อสรุปที่ร่วมกันกำหนดแผนผังครั้งนี้ เสนอต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ ในวันที่ 25 พ.ย.เพื่อขอความเห็นชอบอนุญาตใช้พื้นที่

สำหรับช่องสายตะกูดังกล่าวได้เปิดให้ประชาชนทั้งสองฝั่งซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าแบบมนุษยธรรม มาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2554 สัปดาห์ละ 1 วัน ก่อนจะยกระดับเป็นจุดผ่อนปรนพร้อมขยายวันเป็นสัปดาห์ละ 3 วัน คือ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ในวันที่ 14 มิ.ย. 2557 กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2557 ได้ขยายเปิดทำการค้าขายตลอดทั้งสัปดาห์มาจนถึงปัจจุบัน จากการเก็บสถิติพบว่าเมื่อปีที่ผ่านมา มียอดการจำหน่ายสินค้าที่จุดผ่อนปรนช่องสายตะกูดังกล่าวกว่า 300  ล้านบาท

นายประภาส  รักษาทรัพย์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  กล่าวว่าหากมีการยกระดับจากจุดผ่อนปรนช่องสายตะกูเป็นด่านผ่านแดนถาวรจะส่งผลดีทั้งด้านการค้า
การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างไทยกับกัมพูชาโดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวหากเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรอย่างเป็นทางการแล้วจะเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ใช่เฉพาะนักท่องเที่ยวจากกัมพูชาเท่านั้นแต่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกหลายประเทศจะเดินทางมาเที่ยวเพิ่มมากขึ้นเชื่อว่าในอนาคตเศรษฐกิจการค้าช่องสายตะกูดังกล่าวจะสะพัดเพราะปัจจุบันก็มีมูลค่าการค้าขายเดือนละกว่า 25 ล้านบาท