ตำรวจภาค4จับสินค้าหนีภาษีมูลค่ากว่า2ล้านบาท

ขอนแก่น-ตำรวจภาค 4 รวบแก็งลอบขนสินค้าหนีภาษีมูลค่าของกลางกว่า 2 ล้านบาท
               
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ธ.ค.2558 ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.มาโนชญ์  ศาตนันท์พิพัฒน์ ผบก.ประจำ ภ.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกษม  มุทาพร ผกก.2 บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา  ตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายคำมี  ภูจอมเดือน อายุ 43 ปี พร้อมของกลางรถตู้คอนเทนเนอร์ 18 ล้อ หัวลากหมายเลขทะเบียน 70-0692 กรุงเทพมหานคร ตู้คอนเทนเนอร์ทะเบียน 70-0693 กรุงเทพมหานคร  โดยภายในซุกซ่อนสินค้าหนีภาษี ประเภทหลอดไฟ,ของเล่น,อุปกรณ์เสริมสวย,อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ,เครื่องสำอาง รวมกว่า 2,000 ราย การ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตำรวจภูธรภาค 4 จับกุมตัวได้ ขณะขับรถผ่านด่านตรวจบริเวณสามแยกบ้านไผ่-มหาสารคารม ถ.มิตรภาพ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
               
จากการสอบสวน นายคำมี ให้การรับสารภาพว่า สินค้าทั้งหมดได้ขนส่งมาจาก จ.นครพนม เพื่อส่งให้กับ เจ๊ จ. ซึ่งเป็นผู้ค้าส่งและค้าปลีกรายใหญ่ในกลุ่มสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีที่พักสินค้าและกระจายสินค้าอยู่ในเขต กรุงเทพฯ ซึ่งลูกค้าที่มารับสินค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ที่อาศัยอยู่ใน กรุงเทพฯและเขตปริมณฑล ก่อนนำไปจำหน่ายให้กับร้านค้าต่างๆ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถให้กับบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งในเขต จ.นครพนม ซึ่งรับจ้างจากผู้ว่าจ้างให้นำสินค้าดังกล่าวทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ไปส่งให้กับ เจ๊ จ.เท่านั้น โดยไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับขบวนการนำเข้าหนีภาษีแต่อย่างใด
               
พล.ต.ต.มาโนชญ์  ศาตนันท์พิพัฒน์ ผบก.ประจำ ภ.4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นคนขับรถตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวไม่สามารถที่จะแสดงเอิกสารการเสียภาษีได้ถูกต้องและตรงกับสินค้าที่อยู่ภายในรถได้ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสินค้าหลายรายการไม่มีการแสดงเอกสารการนำเข้า และเสียภาษีศุลกากร และภาษีสรรพสามิตได้ตรงตามที่ปรากฏจึงได้ทำการจับกุมและควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 รวมทั้งการตรวจยึดสินค้าทั้งหมดที่มีมากกว่า 2,000 รายการมาทำการตรวจสอบแบบนับชิ้น เพื่อแยกสินค้าที่มีการเสียภาษีถูกต้องและที่ลักลอบนำเข้าประเทศให้ออกจากกัน ขณะที่จากกาตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีสินค้าที่ลักลอบนำเข้าประเทศโดยไม่เสียภาษีศุลกากรและภาษีสรรพสามิตรวมหลายรายการ
               
“รถตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าวรับสินค้าดังกล่าวทั้งหมดมาจากโกดังแห่งหนึ่งในเขต จ.นครพนมเพื่อนำส่งจำหน่ายให้กับ เจ๊ จ.ซึ่งเป้นที่รู้จักดันในวงการสินค้าหนีภาษีในเขต กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตั้งด่านตรวจบริเวณ ถ.มิตรภาพ เขต อ.บ้านไผ่ เพือตรวจสอบอย่างละเอียดจนพบการกระทำความผิดที่ชัดเจน ซึ่งในขณะนี้ได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การตรวจยึกสินค้าหนีภาษ๊ อีกจนวนมากที่กลุ่มขบวนการผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าสินค้าหนีภาษีเข้าประเทศไทยที่ยังคงพักสินค้าดังกล่าวไว้ในโกดังต่างๆในหลายจังหวัดที่มีเขตชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งการขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการในเครือข่าย เจ๊ จ. ซึ่งคาดว่าจะสามารถจับกุมตัวได้เร็วๆนี้”
               
พล.ต.ต.มาโนชญ์ กล่าวต่ออีกว่า หากสินค้าดังกล่าวทั้งหมดสามารถส่งไปยังกลุ่มขบวนการผู้ค้าสินค้าหนีภาษีได้จะมีมูลค่ามากถึงกว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงตั้งข้อกล่าวหาว่า ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จำนำ หรือรับไว้โดยประการใดๆซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังไม่ได้เสียภาษี หรือของต้องจำกัด หรือของต้องห้าม หรือเข้ามาในราชอาราจักรโดยไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง ก่อนทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางดังกล่าวทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไผ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป