ชาวเชียงของจัดพิธีบวชป่าต้านเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เชียงราย-ชาวบ้านเชียงของจัดกิจกรรมสืบชะตาป่าชุ่มน้ำ 3,020 ไร่ ต้านเขตเศรษฐกิจพิเศษ

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 2 ต.บุญเรือง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ได้จัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำอิงและป่าชุ่มน้ำพื้นที่ 3,020 ไร่ ซึ่งที่ดินบริเวณดังกล่าวรัฐบาลเตรียมประกาศเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ชาวบ้านไม่เห็นด้วยเนื่องจากเป็นป่าชุมชน ภายในงานมีตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ และชาวบ้านกว่า 450 คนเข้าร่วมกิจกรรมบวชต้นไม้ ปล่อยปลา

นายถ่อง  ตะวีนะ อายุ 75 ปี  ชาวบ้านบุญเรือง กล่าวว่า ผืนป่าแห่งนี้เป็นที่พึ่งสำคัญของชาวบ้าน ทั้งใช้ไม้ หาเห็ด หาหน่อไม้ เป็นที่เลี้ยงวัวควาย ทุกคนต่างช่วยกันดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ร่วมกัน หากจะมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรมขึ้นที่นี่ ก็เหมือนกับเป็นการฆ่ากันผ่อนส่ง เพราะสารเคมีในแหล่งน้ำ อีกทั้งพื้นที่ทำมาหากินของชาวบ้านก็จะถูกจำกัดลงไปด้วย

ด้านนายหาญณรงค์  เยาวเลิศ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) กล่าวว่า พื้นที่ป่าชุมชนบ้านบุญเรืองเป็นหนึ่งในพื้นที่ชุ่มน้ำที่สำคัญซึ่งเหลืออยู่น้อยมากในประเทศไทย หากคิดมูลค่าที่ดินไร่ละ 1 ล้าน ป่าผืนนี้มีพื้นที่กว่า 3พันไร่ ราคาก็กว่า 3 พันล้านบาท แต่ขณะนี้ถูกตีมูลค่าเป็นศูนย์และจะนำไปแสวงหากำไรต่ออีกที ตามหลักกฎหมายในมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีการห้ามใช้พื้นที่ชุ่มน้ำหรือพื้นที่สาธารณะ หากจะใช้ต้องขอยกเลิกมติครม. และต้องประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาถึงจะนำพื้นที่ชุ่มน้ำไปใช้ได้  ในประเทศไทยมีเฉพาะที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงในการขอใช้พื้นที่สาธารณะ แต่กว่าจะผ่านการอนุมัติใช้เวลาเกือบ 10 ปี

สำหรับข้อกังวลของชาวบ้านเกี่ยวกับการใช้มาตรา 44 ยึดที่ดินไปเป็นของกรมธนารักษ์ นายนิวัฒน์  ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ควรนำมาตรา 44 มาใช้กับชาวบ้าน แต่ควรใช้แก้ไขปัญหาเรื่องการปราบปรามอิทธิพลต่างๆ หรือปัญหาที่ยังคาราคาซังมากกว่า  

“ผมเชื่อว่าเขาไม่ใช้มาตรา 44 กับชาวบ้านหรอก หากใช้จริงผมทำนายว่าประเทศนี้ล่มจมแน่  เราต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ พื้นที่นี้ไม่เหมาะแก่การสร้างนิคมอุตสาหกรรม เพราะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ต้องมีการถมดิน ซึ่งกีดขวางทางน้ำ จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมพื้นที่โดยรอบด้วย”ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของกล่าว