posttoday

เสียงจากชาวนาต้องฝืนห้ามสูบน้ำประทังชีวิตข้าว

17 กรกฎาคม 2558

"ตอนนี้รัฐบาลห้ามสูบน้ำทำนา ก็ต้องฝืนคำสั่งเพราะไม่อยากเห็นข้าวตาย"

โดย...ทีมข่าวภูมิภาคโพสต์ทูเดย์

ทันทีที่รัฐบาลมีคำสั่งห้ามเกษตรกรลุ่มแม่น้ำเจ้าพระสูบทำนาหรือสูบน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าวมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อป้องกันขาดแคลนน้ำอุโภคบริโภคทำให้ชาวนาถึงกับกลืนไม่เข้าคายไม่ออกได้แต่นอนก่ายหน้าผากเพราะข้าวที่กำลังออกรวงอาจจะต้องตายเพราะขาดน้ำ

เช้า เนียมสังข์ ชาวนา ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หนึ่งในจำนวนชาวนาหลายร้อยคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายงดสูบน้ำบอกว่า ขณะนี้ข้าวกำลังออกรวงถ้าไม่ได้รับน้ำช่วงนี้ข้าวที่กำลังตั้งท้องก็จะยืนต้นตายทั้งหมด

"ผมทำนา 2 แปลง แปลงแรกอยู่ในพื้นที่ตำบลไผ่ขวาง 7 ไร่ ส่วนพื้นที่ตำบลสนามชัย จำนวน 18 ไร่ ขณะที่รัฐบาลประกาศให้หยุดสูบน้ำนั้นผมเองก็ทราบข่าวและติดตามข่าวสารมาอย่างตลอดต่อเนื่อง แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อข้าวของผมหว่านเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ตามที่ทางรัฐบาลและชลประทานประกาศให้ชาวนาทำนา ซึ่งผมก็เริ่มทำนาตามนั้นจนวันนี้ต้องอดหลับอดนอนมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวมีความจำเป็นต้องใช้น้ำเป็นอย่างมาก ข้าวแปลงแรกที่ ต.ไผ่ขวาง ผมต้องขอน้ำจากบ่อทรายมาประทังชีวิตข้าว ตอนนี้รัฐบาลห้ามสูบน้ำทำนาก็ต้องฝืนคำสั่งเพราะไม่อยากเห็นข้าวตาย หากทหารเอาปืนมาจ่อหัวผม ผมก็ขอสูบน้ำเข้านา"ชาวนารายนี้ระบุ

ขณะที่ข้าวในพื้นที่ ต.สนามชัย ต้องใช้น้ำจากคลองชลประทานบ้านกิโลแปด ซึ่งสภาพของคลองในปัจจุบันก็แห้งขอด ชาวนาต้องพยายามสูบน้ำที่มีเพียงเล็กน้อยนั้นขึ้นมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวแบบพอให้เปียก

เช้า กล่าวว่า หากข้าวตายคงถึงกับหมดตัวแน่ๆ เพราะข้าวจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในต้นเดือนส.ค.นี้ วันนี้ราคาข้าวลดต่ำลง ขณะที่ชาวนามีต้นทุนค่าสูบน้ำเข้ามาเพิ่ม บางรายต้องจ้างสูบน้ำคิดชั่วโมงละ 90 บาทต่อเครื่องก็เท่ากับเพิ่มต้นทุนอีกมากมาย ตรงข้ามข้าวที่ราคาตกต่ำ

"กลางคืนต้องนอนเฝ้าเครื่องสูบน้ำเพราะขโมยชุกชุม แฝงตัวเข้ามาขโมยเครื่องสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง ช่วงนี้ชาวนานอกจากเครียดไม่มีน้ำทำนาแล้ว ยังเครียดกลัวเครื่องมือทำการเกษตรหายไป ซึ่งที่ผ่านมาชาวนาในย่านนี้ ถูกลักไปแล้วหลายเครื่อง คืนหนึ่งหายกันที 3- 4 เครื่องเป็นอย่างต่ำ ทำนาช่วงนี้แสนเหนื่อยต่อสู้เรื่องน้ำ เรื่องหนูระบาด เรื่องราคาตกต่ำ สุดท้ายให้มาสู้กับทหารอีกผมว่าชาวนามีแต่แย่กับแย่ สุดท้ายข้าวราคาถูกไม่คุ้มต้นทุน ชาวนามีแต่ตายกับตายไม่ให้สูบน้ำเข้านาฆ่ากันเสียให้ตายซะยังดีกว่าผมว่านะ วันนี้สุดทนสุดกลั้นแล้ว"เช้ากล่าว

วัชชรินทร์ เกิดเอี่ยม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า เห็นใจชาวนามาก โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ตลิ่งชัน ไม่มีน้ำให้สูบมานานแล้ว ต้นข้าวทยอยแห้งตาย ชาวนาต้องปล่อยให้วัวควายลงกินต้นข้าวแทนหญ้า ดีกว่าไถกลบทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

"ชาวนา ต.ตลิ่งชัน ทำนากว่า 6  พันไร่กำลังยืนตาย ก็ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงที่เห็นอยู่ตรงหน้า ที่ต้องโทษก็โทษฟ้าดินกลั่นแกล้งเท่านั้น ไม่มีใครจริงใจช่วยเหลือชาวนา"

ขณะที่ ชาวนาจาก 6 ตำบลของอ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 300 คน รวมตัวประท้วงหน้าประตูระบายน้ำลาดชะโด ขอให้ชลประทานเปิด ประตูระบายน้ำลาดชะโด ช่วยเหลือพื้นที่นาหลายหมื่นไร่ โดยกลุ่มชาวนาระบุว่า แปลงนาของเกษตรกรได้รับความเสียหายจำนวนมาก พร้อมตั้งคำถามว่า หากข้าวตาย ใครจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในการทำนาทั้งหมด ซึ่งได้ลงทุนไปแล้วไร่ละไม่ต่ำ 6 พันบาท

นี่คือเสียงสะท้อนจากชาวนาไทยกระดูกสันหลังของชาติ..เอาหลังสู้ฟ้า เอาหน้าสู้ดิน 

เสียงจากชาวนาต้องฝืนห้ามสูบน้ำประทังชีวิตข้าว