posttoday

มิจฉาชีพหลอกขอซองกฐินวัดไปเรี่ยไรเงินก่อนเชิดหนี

29 พฤศจิกายน 2558

ฉะเชิงเทรา - มิจฉาชีพทำทีอาสาขอนำซองกฐินวัดไปแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชน ก่อนเชิดเงินหนีพร้อมวัตถุมงคล

ฉะเชิงเทรา - มิจฉาชีพทำทีอาสาขอนำซองกฐินวัดไปแจกจ่ายให้พุทธศาสนิกชน ก่อนเชิดเงินหนีพร้อมวัตถุมงคล

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. พระครูเวฬุ รัตนพิทักษ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนเจ้าอาวาสวัดไผ่แก้ว ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า ได้ถูกมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาอาสานำซองกฐินสามัคคีของทางวัดจำนวนกว่า 300 ซอง ที่เตรียมนำมาใช้บูรณะซ่อมแซมเปลี่ยนเสาศาลาการเปรียญที่ผุพัง ออกไปเรี่ยไรเงินจากพุทธศาสนิกชน ก่อนจะเชิดเงินหนีไป พร้อมวัตถุมงคลที่ทางวัดจัดทำขึ้นเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ร่วมบริจาค

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีชาย อายุประมาณ 40 ปี ผิวขาวคล้ายชาวไทยเชื้อสายจีน รูปร่างสันทัด ได้เข้ามาทำทีบอกกับทางวัดว่า ต้องการอยากที่จะช่วยทางวัดในการหาเงินบริจาคเพื่อนำมาช่วยในการซ่อมแซมศาลาไม้เก่าแก่ที่กำลังผุพัง ด้วยการขอนำซองกฐินไปทำการแจกจ่ายเพื่อเป็นตัวแทนจากทางวัด นำมาช่วยบูรณะซ่อมแซมวัด ก่อนที่ชายคนดังกล่าว จะขอหยิบนำซองกฐินพร้อมของที่ระลึกและวัตถุมงคลจากทางวัดไปจำนวนกว่า 300 ชุด จากนั้นได้หายหน้าไปอย่างไร้วี่แวว จนกระทั่งเมื่อถึงวันงานทอดกฐินสามัคคีของทางวัด ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวก็ไม่ได้นำเงินบริจาคจากซองกฐินจำนวนกว่า 300 ซองเข้ามาร่วมงานบุญแต่อย่างใด

พระครูเวฬุ กล่าวว่า สาเหตุที่ทางวัดไม่ได้สอบถามในรายละเอียดภูมิหลังของตัวบุคคลที่ได้เข้ามาติดต่อเพื่อขออาสานำซองกฐินจากทางวัดไป เพื่อขอรับบริจาคนั้น เพราะผู้ก่อเหตุได้อาศัยช่วงจังหวะเวลาที่มีชาวบ้านได้เดินทางเข้ามาติดต่องานประกอบพิธีกรรมต่างๆ กับทางวัด และยังเป็นช่วงที่ทางวัดกำลังมีการเตรียมการงานบุญกฐินดังกล่าว จึงมีความวุ่นวายหลายด้าน มิจฉาชีพรายนี้จึงได้สบโอการณ์เข้ามาก่อเหตุได้ง่าย 

"อยากฝากเตือนไปยังวัดอื่นให้ระมัดระวังบุคคลที่จะเข้ามาขออาสาที่จะนำเอาซองกฐินขอรับบริจาคของทางวัดไปหาประโยชน์ โดยที่เงินจากผู้ที่ได้ร่วมทำบุญและมีจิตศรัทธาบริจาคมานั้น ไม่ได้ถูกนำมาร่วมงานบุญจริงๆ จนอาจนำไปสู่ความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนาได้"พระครูเวฬุกล่าว