posttoday

ตร.กาญจน์จับ2นศ.เทคนิครุมทำร้ายโจ๋บาดเจ็บ เผยเหตุแค่เบิ้ลรถใส่กัน

24 กรกฎาคม 2560

ตำรวจประสานสถาบันการศึกษานำ 2 นักศึกษาเทคนิคก่อเหตุรุมทำร้ายวัยรุ่นต่างสถาบันจนบาดเจ็บ เผยเหตุแค่ไม่พอใจเร่งเครื่องรถใส่กัน

ตำรวจประสานสถาบันการศึกษานำ 2 นักศึกษาเทคนิคก่อเหตุรุมทำร้ายวัยรุ่นต่างสถาบันจนบาดเจ็บ เผยเหตุแค่ไม่พอใจเร่งเครื่องรถใส่กัน

จากกรณีผู้ปกครองของ นักศึกษาแผนกช่างยนต์ ระดับ ปวช.ที่ถูกนักศึกษาต่างสถาบันรุมทำร้ายภายในศูนย์การค้าตลาดผาสุก ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้พาบุตรชายเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังสถาบันของนักศึกษาผู้ก่อเหตุเพื่อให้มามอบตัว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปรับตัว 2 นักศึกษาผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีที่สภ.เมืองกาญจนบุรี

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้พูดคุยกับผู้ก่อเหตุทั้งสอง โดยเบื้องต้นทั้งสองให้การรับสารภาพ และ เล่าถึงสาเหตุที่ทำร้ายผู้เสียหายว่า เกิดจากการขับขี่รถจักรยานยนต์แล้วมีการเร่งเครื่องใส่กัน จึงเกิดความโมโหและตามมาลงมือทำร้ายผู้เสียหายที่ลานจอดรถหน้าห้างสรรพสินค้าตามภาพจากกล้องวงจรปิด

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เชิญ บิดามารดาของผู้เสียหายเข้ามารับฟังการสอบถามผู้ก่อเหตุด้วย  โดย 2 ผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ขอโทษต่อบิดามารดาของผู้เสียหาย พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "ผมขอโทษ และจะไม่ทำแบบนี้กับใครอีก" ซึ่งทางบิดามารดาของผู้เสียหายก็รับไหว้

พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากการที่มีการโพสต์ข้อความและมีคลิปภาพนักเรียนถูกรุมชกต่อยลงในโลกโซเชียล ทางตำรวจสภ.เมืองกาญจนบุรี ได้ทำการสืบสวนจนทราบตัวผู้ก่อเหตุ จึงประสานไปยังสถานศึกษาที่ผู้ก่อเหตุศึกษาอยู่เพื่อขอความร่วมมือตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิด พบว่า เป็นเยาวชน 2 คน จึงรับตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามระเบียบกฎหมาย แต่เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน พนักงานสอบสวนจึงต้องสอบปากคำร่วมกับสหวิชาชีพ และนำตัวส่งฟ้องฝากขังต่อสถานพินิจต่อไป

นอกจากนี้ได้กำชับให้ประสานกับทางสถานศึกษาเพื่อร่วมกำกับดูแลป้องกันมิให้เกิดปัญหาการทะเลาะวิวาทตีกันระหว่างนักเรียนหรือเยาวชนตามจุดเสี่ยงต่างๆ

ด้าน มารดาของผู้เสียหายเปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายทั้งตำรวจ ทหาร และสื่อมวลชนที่ติดตามเรื่องนี้ ในส่วนของคนเป็นแม่ต้องการให้ลูกได้รับความเป็นธรรม และต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างที่เยาวชนควรนำไปเป็นแนวคิดในการใช้ชีวิตต่อไป แต่ไม่ต้องการที่ทำร้ายใคร ถึงตอนนี้ก็จะพูดคุยกับสามีและลูกชายว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ก็สงสารเด็กทั้งสองคน โดยเข้าใจถึงหัวอกของพ่อแม่ของเขาเช่นกัน เราไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้าย แต่ในเมื่อลูกได้ความเป็นธรรมก็จะพิจารณาว่าควรดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร อยากให้คดีนี้เป็นบทเรียนต่อสังคม และไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดกับลูกใครอีก