posttoday

รวบ2โจรแสบปาดคอผู้เสียหายปล้นรถจยย.

10 ตุลาคม 2558

ปทุมธานี-รวบ2โจรแสบปาดคอปล้นรถจยย.เอาไปขายหาเงินซื้อยาบ้าเสพ ล่าตัวอีก1ยังหลบหนี

ปทุมธานี-รวบ2โจรแสบปาดคอปล้นรถจยย.เอาไปขายหาเงินซื้อยาบ้าเสพ ล่าตัวอีก1ยังหลบหนี
             
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 58 พล.ต.ต.มนตรี  ยิ้มแย้ม  ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน นำนายประวิทย์ หรือหนึ่ง แซ่ตัน อายุ 23 ปี  นายปู หรืออ๊อฟ สิมมา 24 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุปล้นทรัพย์ประชาชนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในข้อหา ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นผิด
          
เหตุการณ์นี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 00.15 น. มีคนร้าย จำนวน 3 คน ได้ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ปล้นเอาทรัพย์รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีขาว หมายเลขทะเบียน 4กจ-6826 กรุงเทพมหานคร และคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกาย นายธีรพล ถนอมพร โดยการปาดที่บริเวณลำคอได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่เอารถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากนั้นได้นำ จยย.คันดังกล่าว ไปก่อเหตุปล้นทรัพย์เอากระเป๋าถือของ น.ส.ณัฏฐพร บรรดิษฐ์ ภายในทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 25,000 บาท ที่บริเวณหน้าปั้มน้ำมัน ปตท.คลองสอง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี สอบสวนผู้เสียหายทราบว่า รถที่ก่อเหตุเป็นรถคันเดียวกับที่คนร้าย ปล้นทรัพย์มาจากนายธีรพล

กระทั่งต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 2558 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจชุดสืบสวนได้รับการประสานจากเจ้าพนักงานตำรวจ สภ.วังน้อย โดยแจ้งให้ทราบว่าว่า จะมีคนนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีขาว  ที่เป็นของผู้เสียหาย มาเสนอขายให้ในราคา 3,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนทำการล่อซื้อรถจักรยานยนต์ คันดังกล่าว โดยนัดหมายให้ไปรับรถจักรยานยนต์ในซอยพยอม2 หมู่ที่ 5 ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. นายประวิทย์ฯ ได้นำรถจักรยานยนต์มาส่งมอบให้ ตามนัด ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม จากการสบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกับ นายดีเลิศ หรือฟลุ๊ค  ใหม่ปิยะ อายุ 22 ปี (อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุม) ร่วมกันปล้นเอารถจักรยานยนต์มาจากผู้เสียหายจริง รถที่ได้จากการปล้นไปขายเพื่อนำเงินมาซื้อยาบ้ามาแบ่งกันเสพ
        
พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า คดีนี้นับว่าคนร้ายมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเป็นภัยต่อสังคมอย่างมากไม่ได้มีความโกธรแค้นกับผู้เสีย หรือรู้จักกันมาก่อน แต่ถึงกับใช้มีดปาดคอ แต่โชคดีไม่ถึงแก่ความตาย เพราะมีดไม่คม เมื่อได้จยย.แล้วก็จะนำรถไปปล้นทรัพย์ กระชากกระเป๋า แล้วนำไปขาย คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.