posttoday

เพลิงไหม้ร้านขายอุปกรณ์เย็บผ้าหญิงชราสำลักควันดับ

30 สิงหาคม 2558

นนทบุรี-เพลิงไหม้ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เย็บปักคุณยายวัย 80 สำลักควันเสียชีวิตพร้อมสุนัข 3 ตัว

นนทบุรี-เพลิงไหม้ร้านจำหน่ายอุปกรณ์เย็บปักคุณยายวัย 80 สำลักควันเสียชีวิตพร้อมสุนัข 3 ตัว

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. เวลา 01.00 น. ร.ต.ท.สัญชาติ สวัสดิ์ผล พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ร้านมิตรชาย เป็นร้านจำหน่ายอุปกรณ์เย็บปักและผ้า ภายในตลาดศรีปากเกร็ด เบื้องต้นมีผู้ติดค้างอยู่ในตัวอาคาร จากนั้นจึงรายงานให้ พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธวงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.พิทยากร เพชรรัตน์ รอง ผกก.ป. และ พ.ต.ท.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผกก.สส. ให้ทราบและประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครปากเกร็ดให้นำรถน้ำร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 3 คูหาเลขที่ 71/40-41-42  ต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้นล่างเพลิงได้ลุกไหม้วัสดุอุปกรณ์เย็บปักและผ้าชนิดต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้นำรถนำจำนวน 7 คันระดมใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามห้องคูหาข้างเคียง โดยทางเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเข้าไปช่วยนำตัวนางชูศรี ศิริธนาภิรมย์ อายุ 80 ปี เจ้าของร้านที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้นทางขึ้นบันไดชั้นสองและเร่งนำตัวส่ง ร.พ.กรมชลประทาน แต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบสุนัขอีกจำนวน 3 ตัวนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้เคียงกันกับจุดที่พบนางชูศรี อีกด้วย

จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มาถึงเล่าวว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเพียงกลุ่มควันเกิดขึ้นจำนวนมากที่บริเวณชั้นล่างจากนั้นไม่กี่นาทีเริ่มมีแสงเพลิงเกิดขึ้นและโหมหนักจนเพลิงนั้นได้ลุกไหม้และลุกลามวัสดุภายในอาคาร ส่วนทางด้านนายฤทธิชัย พิศภิรมย์ อายุ 21 ปีเป็นผู้ดูแลและนอนเฝ้าอาคารดังกล่าวเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าระหว่างนอนหลับอยู่ที่บริเวณชั้น 3 ของตึกเลขที่ 71/42 หลังจากทราบว่าเพลิงได้กำลังลุกไหม้จึงได้ปีนออกมาที่หน้าต่างและพยายามข้ามไปยังห้องของนางชูศรี ที่พักอยู่บริเวณชั้น 2 ของห้องคูหาติดกันพร้อมทั้งเคาะและทุบหน้าต่างเรียกแต่ไม่มีการตอบรับจนกระทั้งเพลิงและกลุ่มควันเริ่มโหมหนักจึงได้ลงมาสู่พื้นล่างเพื่อขอความช่วยเหลือ

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าในเบื้องต้นได้เพียงบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้และในช่วงเช้าจะทำการสอบสวนกับบรรดาญาตและนายฤทธิชัย ฯ ผู้เฝ้าอาคารอีกครั้งรวมถึงจะต้องให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป