posttoday

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

20 ตุลาคม 2559

คมนาคมเตรียมระบบขนส่งฟรี รองรับวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ อำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความอาลัย

คมนาคมเตรียมระบบขนส่งฟรี รองรับวันหยุดยาวสุดสัปดาห์ อำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าร่วมแสดงความอาลัย

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร  ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การประชุมศูนย์ประสานงาน ศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ได้ร่วมกันวางแผนเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนที่จะเข้ามาร่วมถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช  บรมนาถบพิตร โดยเริ่มจาก ขสมก.ได้จัดรถเมล์เพื่อเตรียมอำนวยสะดวกให้กับประชาชนจำนวนทั้งสิ้น 620 คัน ในเส้นทางเดิมเส้นทางเดิมที่วิ่งไปและผ่านสนามหลวง มีทั้งหมด  25 เส้นทาง โดยแบ่งเป็นรถเมล์ธรรมดา (รถร้อน)  ที่ยกเว้นค่าบริการราว 390 คัน และรถเมล์ปรับอากาศอีก  230  คัน  อย่างไรก็ตามยังมีรถเมล์ฟรีที่วิ่งกระจายอยู่  17  เส้นทาง จากทั้งหมด 25 เส้นทาง อีกทั้งรถเอกชนร่วม ขสมก. ยังให้บริการตามปกติจำนวน  11  สาย อย่างไรก็ตาม ขสมก.ได้จัดรถบัสวิ่งวน  (Shuttle Bus) บริการฟรีเพื่อเชื่อมต่อระบบการขนส่งจำนวน  95  คัน  ตามจุดต่างๆดังนี้ สถานีหมอชิต  (จตุจักร) สถานีเอกมัย สถานีสายใต้ใหม่ สถานีรถไฟหัวลำโพง อนุสาวรีย์ชัย วงเวียนใหญ่ และบางใหญ่

ขณะที่ด้านกรุงเทพมหานครได้เตรียม จัดรถวิ่งวน (Shuttle Bus) ให้บริการรับ-ส่ง จากจุดจอดของ ขสมก.เข้าไปในบริเวณพื้นที่จัดงาน จำนวน 9 จุด สถานี 1 สวนสันติพร สถานี 2 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย (สตรีวิทยา) สถานี 3 ผ่านฟ้า สถานี 4 ร้านสกายไฮ สถานี 5 ศาลหลักเมือง สถานี 6 สวนเจ้าเชษฐ์ สถานี 7 สนามหลวงสถานี 8 อนุสาวรีย์ทหารอาสาฯ และสถานี 9 กองการท่องเที่ยว กทม.

ส่วนประชาชนที่โดยสารทางน้ำ สามารถนั่งเรือจากท่าสาทรมาลงที่ท่าช้าง โดยเรือจะเปิดให้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. –15 พ.ย. 2559ระหว่างช่วงเวลา 10.00 –16.00 น. ซึ่งเรือจะจอดเฉพาะท่าสาทรและท่าช้าง เท่านั้น ส่วนประชาชนที่เดินทางโดยเรือข้ามฟากสามารถนั่งเรือจากท่าวัดระฆังมาลงยังลงยังท่าพระจันทร์ใต้(มหาราชเหนือ) โดยจะให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 19ต.ค. 2559  ระหว่างช่วงเวลา 10.00 –20.00น.  นอกจากนี้ยังมีเรือโดยสารขนาดบรรทุกได้200-400 คน วิ่งให้บริการ จากท่าเขียวไข่กา มายังท่าปิ่นเกล้าอีกด้วย  โดยจะให้บริการฟรี ตั้งแต่วันที่ 28ต.ค. 2559  ระหว่างช่วงเวลา 09.00 –15.00น.

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า ส่วนผู้ที่เดินทางมาโดยรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที  สามารถนั่งมาที่สถานีหัวลำโพงเพื่อเชื่อมต่อ shuttle bus ไปลงยังจุดจอด บริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน(จุดจอดรถ ขสมก.จุดที่2)   ส่วนการเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส สามารถเดินทางต่อได้2เส้นทาง คือ 1.นั่งมายังสถานีสะพานตากสิน เพื่อนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าสาทรต่อไปยังท่าช้าง  หรือ2.นั่งมาลงที่สถานีรถไฟฟ้าอนุสาวรีย์ชัย เพื่อเชื่อมต่อรสบัสไปยังสนามหลวง

ส่วนประชาชนที่เดินทางมาโดยเครื่องบินแบ่งออกเป็น2เส้นทางคือ  ผู้ที่มายังสนามบินดอนเมือง สามารถเดินทางต่อได้ 2เส้นทาง คือ 1. นั่งรถเมล์สายA1 มาลงยัง หมอชิต2 เพื่อต่อรถชัตเติ้ลบัสฟรีไปลงยัง บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์(จุดจอดรถ ขสมก. จุดที่ 1)และ2.นั่งรถเมล์สายA2 มาลงยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อต่อรถชัตเติ้ลบัสไปลงยังจุดจอด  บริเวณ หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ (จุดจอดรถ ขสมก. จุดที่ 1)   โดยรถชัตเติ้ลบัสทั้ง2เส้นทาง  จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 -24.00 น.  รถออกทุก 10 นาที

ขณะที่ผู้ที่มายังสนามบินสุวรรรภูมิสามารถเดินทาง ได้ 2 เส้นทางเช่นกันคือ 1. นั่งชัตเติ้ลบัส  ของสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งจะเปิดให้บริการ ในช่วงเช้า เวลา 10.00 น.   และเย็น 16.00น.  จำนวนวันละ 2 คัน มาลงยังบริเวณใกล้ท้องสนามหลวง และ 2. นั่งรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์มาลงยังสถานีมักกะสัน เพื่อต่อรถชัตเติ้ลบัสมาลงใกล้บริเวณท้องสนามหลวง

นายจิรุตม์ เปิดเผยอีกว่า ด้านกระทรวงคมนาคม จัดเตรียมจุดจอดสำหรับประชาชน ที่เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว จำนวน  8  จุด  รองรับปริมาณรถได้ทั้งสิ้น 19,950 คัน  ประกอบด้วย จุดจอดบริเวณเมืองทองธานี รองรับได้  5,000  คัน จุดจอดบริเวณเซ็นทรัลพระราม 2  รองรับได้ได้  3,700 คัน จุดจอดบริเวณ เซ็นทรัลศาลายา  รองรับได้   1,800  คัน จุดจอดบริเวณลานพุทธมณฑลสาย 4 รองรับได้  5,000 คัน จุดจอดบริเวณเมกะบางนา  รองรับได้  1,500  คัน จุดจอดบริเวณสโมสรตำรวจ  รองรับได้  450  คัน จุดจอดบริเวณแอร์พอร์ตลิ้งมักกะสันรองรับได้  1,500 คัน    และจุดจอดบริเวณฟิวเจอร์พาร์ครังสิต รองรับได้  1,000  คัน  อย่างไรก็ตามในจุดจอดทั้ง  8  จุด จะมีบริการเชื่อมต่อการเดินทางไปยังสนามหลวงของ ขสมก. ซึ่งได้จัดเตรียมรถ ( shuttle  bus ) ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้กับ จำนวน  120  คัน  โดยรถทั้งหมดให้บริการรับ-ส่งที่บริเวณท้องสนามหลวง  ใน 4  จุดจอด ดังนี้ 1.หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์  (ร้านสกายไฮ)  2.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน  (วงเวียน  รด.) 3.บริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า  (ถนนพระอาทิตย์) 4.หน้ากองสลาก  (เดิม)

โดยสรุปข้อมูลได้ดังนี้ จุดจอดที่หนึ่งหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์  (ร้านสกายไฮ)  สายรถเมล์  2, 15, 47, 59, 60, 70, 503, 511 Shuttle Bus จากอนุสาวรีย์ชัยฯ / เอกมัย / หมอชิต 2 / สโมสรตำรวจ จุดจอดที่สองหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน  (วงเวียน  รด.) สายรถเมล์ 1, 12, 25, 82, 508 Shuttle Bus จากหัวลำโพง / วงเวียนใหญ่ จุดจอดที่สามบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า  (ถนนพระอาทิตย์)  สายรถเมล์ 3, 32, 53, 65 จุดจอดที่สี่หน้ากองสลาก  (เดิม)  สายรถเมล์ 42, 68, 79, 80, 91, 203, 509, 516, 556 Shuttle Bus จากสายใต้ใหม่ / บางใหญ่ (เซ็นทรัลเวสเกต) / เมืองทองธานี

อย่างไรก็ตามได้เตรียมจุดจอดรสบัสขนาดใหญ่สำหรับประชาชนในต่างจังหวัดที่เดินทางโดยรถบัสเช่าเหมาคัน เมื่อส่งผู้โดยสารบริเวณที่บริเวณสนามหลวงแล้วให้ไปจอดรถได้ จำนวน  4  จุด ดังนี้ 1.ถนนพุทธมณฑล  สาย 1  สามารถนำรถจอดได้จำนวน  400  คัน  2.ถนนพุทธมณฑล  สาย 2  สามารถนำรถจอดได้จำนวน  500  คัน 3.ถนนกาญจนาภิเษก  สามารถนำรถจอดได้จำนวน  500  คัน 4.ถนนไฟฉายตัดถนนกาญจนาภิเษก สามารถนำรถจอดได้จำนวน   500   คัน 5.บริเวณสายใต้เก่า สามารถนำรถจอดได้จำนวน   150   คัน

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมขอแนะนำให้ประชาชนงดนำรถส่วนบุคคลเข้ามาบริเวณท้องสนามหลวง ขอให้ใช้ระบบการขนส่งสาธารณะ โดยให้นำรถยนต์ส่วนบุคคล ไปจอดตามจุดต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ หากประชาชนต้องการสอบถามเส้นทางหรือมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่สายด่วน Hot Line ขสมก.1348 และสายด่วนHot Line กระทรวงคมนาคม 1356

อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมได้เตรียมจุดอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบนทางหลวง ดังนี้

จุดที่ 1    ทล.32 กม.4+000 บริเวณเกาะกลาง (หน้าสำนักงานหมวดทางหลวงบางปะอิน) แขวงทางหลวงอยุธยา

จุดที่ 2    ทล.1 กม. ขาเข้า (หน้าสำนักงานหมวดทางหลวงวังน้อย) แขวงทางหลวง อยุธยา

จุดที่ 3    ทล.1 กม.48+100 ขาเข้า (หน้า สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ1) แขวงทางหลวงปทุมธานี

จุดที่ 4    ทล.31 กม. 19+200 ขาเข้า (ใต้สะพานข้ามแยกหลักสี่) แขวงทางหลวงกรุงเทพ

จุดที่ 5    ทล.305 กม. ขาเข้า (หน้าสำนักงานแขวงทางหลวงนครนายก) แขวงทางหลวง นครนายก

จุดที่ 6     ทล.34 กม.15 ขาเข้า (หน้าสำนักงานหมวดทางหลวงบางพลี) แขวงทางหลวง สมุทรปราการ

จุดที่ 7     ทล.3 กม.40 ขาเข้า แขวงทางหลวงสมุทรปราการ

จุดที่ 8     ทางแยกต่างระดับ ทล.4 ตัด ทล.338   ขาเข้า  แขวงทางหลวงสมุทรสาคร

จุดที่ 9     ทล.35  ขาออก  (บริเวณหมวดมหาชัย)  แขวงทางหลวงสมุทรสาคร

จุดที่ 10   ทล.341 ถ.สิรินธร กม.0+271 ขาเข้า (หน้าสำนักงานหมวดทางหลวงตลิ่งชันตรงข้ามรพ.ตาหูคอจมูก) แขวงทางหลวงธนบุรี

นอกจากนี้ยังเตรียมจุดอำนวยความสะดวกในการให้ความช่วยเหลือแก่สำหรับประชาชนรอบกรุงเทพไว้อีก 19 จุด  ระหว่างเวลา 08.30 – 20.00 น. ทุกวัน (รอบเช้า  08.30 – 14.00 น.  รอบบ่าย 14.00 – 20.00 น.) อาทิ บริเวณจุดจอดรถ 4 มุมเมืองทั้งสี่จุด สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ทั้งสามแห่ง บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงและสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ตลอดจนจุดจอดรถขสมก.ทั้ง 4 จุด บริเวณสนามหลวง เป็นต้น

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด

 

คมนาคมเตรียมรถฟรีรับ-ส่งประชาชนร่วมแสดงความอาลัยช่วงวันหยุด