สตง.ฟัน "สุขุมพันธุ์"กรณีไฟ39.5ล้านหลังพบราคาจริงเเค่ 29 ล้าน
สตง.เอาผิด "สุขุมพันธุ์" พร้อมข้าราชการ 9 คน กรณีการติดตั้งไฟประดับหลังพบความผิดปกติหลายประการ เจ้าตัวเผยไม่หนักใจพร้อมแจงทุกประเด็น
สตง.เอาผิด "สุขุมพันธุ์" พร้อมข้าราชการ 9 คน กรณีการติดตั้งไฟประดับหลังพบความผิดปกติหลายประการ เจ้าตัวเผยไม่หนักใจพร้อมแจงทุกประเด็น
เมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาว ผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แถลงผลการตรวจสอบโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (Motif of Light)ของกรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้งบประมาณทั้งสิ้นจำนวน 39.5 ล้านบาท
นายพิศิษฐ์ กล่าวว่า ผลการตรวจสอบพบว่ามีการดำเนินโครงการที่ผิดปกติเอื้อประโยชน์ให้เอกชนผู้รับงาน ตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นประกวดราคา เพื่อดำเนินโครงการรวมถึง ความคุ้มค่าของโครงการ โดย กทม.มีการทำงานไม่ปฎิบัติตามแบบแผนราชการการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบส่งผลต่อความเสียหายต่อการเงิน การคลังของแผ่นดิน
ทั้งนี้ผลการตรวจสอบที่สำคัญ คือ 1.กทม.ได้อนุมัติงบกลาง เพื่อดำเนินโครงการอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งงบกลางนั้นเป็นงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายได้ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเท่านั้น แต่โครงการไฟประดับดังกล่าว เป็นโครงการที่ไม่ผ่านการพิจารณาอนุมัติงบประมาณจากสภา กทม. ดังนั้นการนำงบฉุกเฉินมาใช้งานจึงเป็นการปฏิบัติที่มิชอบด้วยระเบียบ
2.การจัดจ้างโครงการส่อพฤติการณ์ฮั้วประมูลเข้าข่ายเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ โดยพบผู้บริหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องมีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้รับงาน โดยการตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวไม่เคยประกอบกิจการในลักษณะงานตามโครงการที่กทม.กำหนดมาก่อนและได้จดทะเบียนเพิ่มวัตถุประสงค์ให้ตรงตามเงื่อนไขการประมูลราคาเพื่อเข้าเสนองาน อีกทั้งขอบเขตของงานตามทีโออาร์ที่กทม.กำหนดนั้น มิได้มีการสืบราคาที่ถูกต้อง เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทใดบริษัทหนึ่ง อีกทั้งบริษัทบางบริษัท ที่สนใจขอเอกสารการประมูลอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ทั้งนี้การตรวจสอบราคาไฟประดับของกทม. พบว่ามีราคาอยู่ที่ประมาณ 29 ล้านบาทเท่านั้น แต่กทม.ใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการจำนวน 39.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการดังกล่าวของ กทม.ยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากยังไม่ได้มีการตรวจรับงาน และการเบิกจ่ายงบประมาณ ซึ่งตนเห็นว่า การตรวจรับงานคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากไฟดับประดับจำนวน 5 ล้านดวง และมีข้อกัดการตรวจรับงานในหลายด้าน อย่างไรก็ตาม แม้ยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของแผ่นดิน แต่พฤติการณ์การดำเนินโครงการอย่างไม่ถูกต้อง ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความผิด ที่สร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นแล้ว
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินโครงการไม่เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ มีการทุจริต ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ. 2542 จึง มีมติเห็นชอบที่จะดำเนินการเอาผิดต่อผู้กระทำความผิดทั้งหมด ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการมีจำนวน 9 ราย ได้แก่ 1.ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้วาฯกทม. 2.นางปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว 3.นายธวัชชัย จันทร์งาม ผู้อำนวยการกองการท่องเที่ยว กทม. 4.นายยศศักดิ์ คงมาก ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ 5.นายสิโรตม์ แสงเจริญ คกก.ทีโออาร์ 6.น.ส.วันทนา เตชะสุวรรณ คกก.ทีโออาร์ 7.นายพงษ์พันธ์ ธัญญเจริญ คกก.ทีโออาร์ 8.นายมรกต ภูมิพานิช คกก.ทีโออาร์ 9.นายสิทธิโชค อภิบาล คกก.ทีโออาร์ ส่วนรองผู้ว่าฯกทม.ที่ปฏิบัติหน้าที่โดยตรงนั้น ได้มีการชี้แจงต่อสตง.ว่าดำเนินโครงการตามนโยบายของผู้ว่าฯกทม.จึงเป็นการปฏิบัติงานตามหน้าที่
นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ว่ากทม.นั้น ที่ผ่านมาในการตรวจสอบโครงการดังกล่าว สตง.ได้มีหนังสือเชิญให้เข้าชี้แจงถึง 2ครั้ง แต่ผู้ว่าฯกทม.ไม่สะดวกในการเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง แต่สตง.ก็ยืนยันว่า การตรวจสอบโครงการเป็นไปตามหน้าที่
จากนี้ สตง.จะดำเนินการ แจ้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับผู้ว่าฯกทม. รวมทั้งดำเนินการทางวินัยและอาญาแก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับความเสียหายที่จำเป็นจำนวนเงินนั้น ให้ดำเนินการหาผู้รับผิดชอบชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่กทม. โดยจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ความผิดกรณีดังกล่าว เบื้องต้นผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดตามคดีอาญา มีโทษปรับไม่เกิน 400,000บาท และจำคุกไม่เกิน 5ปี แต่ขณะนี้ในส่วนของผู้ว่าฯกทม.จะหยุดการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้นตนไม่อาจก้าวล่วง แต่หากป.ป.ช.มีการไต่สวนจนมีการชี้มูลว่าผู้ว่าฯกทม.มีความผิดจริง ก็จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ได้มีการทราบข้อมูลคร่าวๆแล้ว ขอดูรายละเอียดให้แน่ชัดก่อน ขอเรียนให้ทราบว่า กทม.ให้ความร่วมมือกับ สตง.มาโดยตลอด ในส่วนของการส่งรองผู้ว่าฯกทม.ไปชี้แจง รายละเอียด นั้น เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาและรายละเอียดของโครงการ ทั้งนี้จะจัดทำคำชี้แจงที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนทราบ
เมื่อสอบถามว่าผลสอบสวนของ สตง.ออกมานั้นสร้างความหนักใจหรือกระทบกับการทำงานหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวสั้นๆ ว่า “คำพูดเดียวทำให้ผิดเหรอครับ”
นายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกส่วนตัวของม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ผู้ว่าฯกทม.เองไม่มีความวิตกกังวลในเรื่องนี้ เนื่องจากการพิจารณา ของ สตง.นั้น ยังไม่ได้ถือว่าเป็นที่สุด ยังต้องมีกระบวนการทางกฎหมายอีกหลายขั้นตอนที่ต้องพิจารณา ซึ่งได้มอบนโยบายกับข้าราชการว่าให้ข้อมูลข้อเท็จจริง กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ส่วนการทำหนังสือชี้แจงอย่างละเอียดนั้น จะดำเนินการ เพื่อชี้แจงทุกประเด็นไม่ให้ตกหล่น ส่วนท่านจะออกมาแถลงเองหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาดูเพราะเห็นว่าการชี้แจงเป็นหนังสือน่าจะครอบคลุมแล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเห็นอย่างไร กรณีที่ในวันที่ 4 พ.ค. นี้ พรรคประชาธิปัตย์ ปชป. จะขอให้นายกรัฐมนตรี ใช้ ม.44 ออกคำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ ผู้ว่าฯกทม. นายวสันต์ กล่าวว่า การจะทำอย่างไรนั้นก็เป็นสิทธิ์ของ ปชป.ที่ทำได้ไม่มีปัญหาอะไร


