posttoday

ธนากร บุตรตะวงศ์ แข่งรถ = ฝึกสมาธิขั้นสูง

19 พฤษภาคม 2559

ผู้ชายวัยหนุ่มกับรถและความเร็วนั้นถือว่าเป็นของคู่กันจริงๆ บางคนชอบความเร็วบนถนนทั่วไป

โดย...อณุสรา ทองอุไร

ผู้ชายวัยหนุ่มกับรถและความเร็วนั้นถือว่าเป็นของคู่กันจริงๆ บางคนชอบความเร็วบนถนนทั่วไป แต่บางคนชอบความเร็วจัดในสนามแข่งเพื่อความปลอดภัย เช่นเดียวกับหนุ่มน้อยคมเข้มวัย 22 ปีคนนี้ เบียร์-ธนากร บุตรตะวงศ์ นักแข่งรถรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ขับรถวีออส วันเมคเรซ จากการแข่งขันโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต ปี 2009 ขณะอายุ 17 ปี และเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เขาได้รางวัลชนะเลิศ รุ่นโคโรลล่า อัลติส วันเมคเรซ จากการแข่งขันโตโยต้า มอเตอร์สปอร์ต ปี 2015 ขณะอายุ 22 ปี

รวมทั้งผ่านรอบคัดเลือกในรายการ NetZ Cup VitZ Race ที่สนามฟูจิ สปีดเวย์ ประเทศญี่ปุ่น และในปีนี้เขาได้เข้าเป็นนักแข่งสังกัดโตโยต้า ทีมไทยแลนด์ ขณะมีอายุ 23 ปี และเตรียมจะแข่งขันในรายการไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ และ RAAT Thailand Endurance Championship นอกจากนี้เขายังตั้งเป้าหมายไว้ในอนาคตอันใกล้นี้ภายใน 2 ปี ต้องการลงไปแข่งขันในสนามใหญ่อย่าง ADAC Zurich 24 Hours Race at Nurburgring ที่ประเทศเยอรมนี

เขาเล่าว่าเริ่มชีวิตการเป็นนักแข่งรถอย่างจริงจังเมื่ออายุ 17 ปี ขณะเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายชอบรถเป็นชีวิตจิตใจ ประกอบกับที่บ้านของเขานั้นคุณพ่อทำธุรกิจเต็นท์รถมือสอง เขาจึงเห็นและคลุกคลีกับรถมาตั้งแต่เด็กๆ พอเข้าสู่วัยรุ่นก็อยากจะขับรถ พอขับรถคล่องก็อยากจะประลองความเร็ว ชอบความท้าทาย คุณพ่อของเขาเป็นห่วงไม่อยากให้ลูกมาพิสูจน์ความเร็วบนท้องถนนเพราะห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็เลยแนะนำว่าให้ไปฝึกหัดให้เป็นเรื่องเป็นราว และที่สำคัญอย่ามาขับเร็วบนท้องถนน ให้ไปลงสนามแข่งอย่างถูกต้อง มีกฎ มีกติกา มีความปลอดภัยรองรับ

ธนากร บุตรตะวงศ์ แข่งรถ = ฝึกสมาธิขั้นสูง

 

สนามแรกที่เขาไปลงแข่งขันความเร็วก็คือที่พัทยาเซอร์กิต ซึ่งคุณพ่อของเขาซื้อรถแข่งให้อย่างเป็นทางการเพื่อแข่งในสนามนี้ ซึ่งการแข่งในระยะเริ่มต้นของเขาก็ไม่มีสปอนเซอร์ มีคุณพ่อเป็นผู้ออกทุนให้อย่างเป็นทางการ และมีคุณพ่ออีกเช่นกันคอยเป็นพี่เลี้ยงให้อยู่เกือบ 2 ปีเต็ม ตอนนั้นอายุเพียง 16 ปี จนเขาเริ่มมีฝีมือมากขึ้นเริ่มชนะบ่อยๆ ก็มีบริษัทเล็กๆ มาช่วยเป็นสปอนเซอร์ให้ จนได้แชมป์บ่อยขึ้นถึงจะมีสปอนเซอร์จากบริษัทใหญ่เข้ามาในช่วง 3-4 ปีหลัง

“ผมก็เลยมาแข่งในสนามแข่งตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายเลยครับ ฝึกหัดอย่างถูกต้องมีหลักการ และคิดไว้ในใจเลยว่าอยากเป็นนักแข่งรถ เริ่มฝึกในสนามตั้งแต่อายุ 15-16 ปี จนถึงวันนี้ก็ 7-8 ปีแล้วครับ การขับรถสำหรับผมคือความสุข ได้ผ่อนคลาย ได้ฝึกสติสมาธิครับ เพราะขับในสนามเรื่องปลอดภัยนั้นสูงมาก เพราะมีระบบต่างๆ รองรับเป็นอย่างดี มีทีมงานคอยดูแลช่วยเหลือเซฟตี้สูงมาก ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย (หัวเราะ) การแข่งรถคือการฝึกสมาธิขั้นสูงสำหรับผมครับ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเขาถึงได้มาสังกัดโตโยต้า ทีมไทยแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการอีกขั้นของเขามาสู่รุ่นที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาไม่เคยสังกัดทีมใหญ่มาก่อน นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้สังกัดทีมกับบริษัทใหญ่ๆ เช่นนี้ โดยปีที่แล้วเขาเคยได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นระดับหัวกะทิของภูมิภาคมาแข่งกัน นับเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก หลังจากที่เขาได้เป็นนักแข่งสังกัดโตโยต้า ทีมไทยแลนด์แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ถือว่าเขาเป็นนักแข่งอาชีพอย่างเป็นทางการ มีเงินเดือน และหากชนะก็จะมีรางวัลเพิ่มขึ้น โดยการเป็นนักแข่งอาชีพเช่นนี้จะมีการแข่งเกือบทุกเดือน ประมาณ 10 สนาม/ปี ซึ่งเราจะต้องฝึกให้หนักเตรียมพร้อมไว้เสมอ

ธนากร บุตรตะวงศ์ แข่งรถ = ฝึกสมาธิขั้นสูง

 

เขากล่าวว่า การเป็นนักแข่งรถที่จริงเงินเดือนไม่ได้มากมายอะไร แต่คนที่เข้ามาในวงการนี้เหตุผลสำคัญเพราะมีใจรักและส่วนใหญ่ก็มีงานอย่างอื่นทำด้วย ไม่ได้เป็นนักแข่งเพียงอย่างเดียว เพราะอาจจะอยู่ยากและมีเวลามากพอที่จะให้นักแข่งไปทำงานอย่างอื่น ตรงนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตที่เราชื่นชอบ

“อย่างตัวผมเองก็ยังเรียนไม่จบ ก็เรียนไปด้วย แข่งรถไปด้วย อีกส่วนหนึ่งก็คือช่วยธุรกิจที่บ้านที่ทำเต็นท์รถ ผมก็มีหน้าที่รับผิดชอบที่ชัดเจน ช่วยดูแลเรื่องการตลาดและการจัดการ มีหน้าที่หาทะเบียนเลขสวย เลขหายาก มาบริการลูกค้าตามสั่ง

“พวกเลขตัวเดียว สองตัว เลขตอง ซึ่งยังเป็นที่ต้องการของลูกค้ากระเป๋าหนัก โชคดีที่เป็นธุรกิจของที่บ้านเลยทำให้เราแบ่งเวลาได้อย่างสะดวก ด้วยการทำงานที่บริหารเวลาจัดการได้อย่างสะดวกนี่เองที่ทำให้นักแข่งรถส่วนใหญ่อยู่กันนาน อายุไม่ใช่ข้อจำกัด บางคน 50 กว่าแล้วยังแข่งอยู่เลยก็มี ซึ่งตัวผมเองก็คิดว่าจะแข่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแข่งไม่ไหวล่ะครับ” เขากล่าวอย่างมุ่งมั่น

ธนากร บุตรตะวงศ์ แข่งรถ = ฝึกสมาธิขั้นสูง

 

ธนากร บอกว่า เขาอายุน้อยสุดในทีมขณะนี้ เพราะไต่ระดับมาตั้งแต่รุ่นเล็กสุด คือ วีออส (วันเมคเรซ) มาสู่อัลติส เครื่อง 2,000 ซีซี และเริ่มขยับไปที่รุ่นใหญ่ขึ้น โดยในปีนี้จะมีการแข่งขันไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์ ที่สนามพีระเซอร์กิต และที่บางแสนเลียบชายหาด ซึ่งเขาก็หวังจะประกาศฝากฝีมือเอาไว้อย่างเต็มที่ เพื่อเตรียมพร้อมไปสนามที่ใหญ่ขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเก็บคะแนนเก็บชั่วโมงสะสมประสบการณ์เพื่อไต่ไประดับใหญ่ขึ้นเป็นสนามอินเตอร์ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทางโตโยต้าจะหาสนามใหญ่ๆ ให้ได้ลง แต่ที่เขาฝันเอาไว้และถือว่าเป็นสนามสูงสุดที่เขาอยากไปมากก็คือสนามระดับโลกที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นความฝันอันสูงสุดของนักแข่งรถมืออาชีพทุกคน

เขาฝากถึงน้องๆ วัยรุ่นที่ชอบความเร็วและอยากเป็นนักแข่งรถว่า ควรฝึกหัดอย่างเป็นเรื่องเป็นราว อย่าไปฝึกเอง ซึ่งมีโรงเรียนสอนแข่งรถมีชื่อหลายแห่ง อย่างของโตโยต้าก็มีสอนตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นพื้นฐานเลย จนไปถึงขั้นแอดวานซ์ที่ต้องการไปเป็นนักแข่งระดับเรซซิ่ง ที่สำคัญต้องมาแข่งในสนาม อย่าไปประลองความเร็วบนถนนซึ่งไม่มีความปลอดภัย ไม่มีเซฟตี้ที่ดีพอ จะทำให้ตัวเองและเพื่อนร่วมถนนเดือดร้อนได้ เพราะเราไม่รู้ใครเป็นใคร เจอคนใจร้อนคนเมา ต่อให้ขับรถดีและระวังแค่ไหนก็อันตราย

ถ้าเป็นในสนามทุกอย่างมีการควบคุมมาเป็นอย่างดี ทุกคนในสนามมีการเตรียมมาอย่างดี มีความเป็นมืออาชีพ ทุกอย่างควบคุมได้เกือบทั้งหมด การแข่งในสนามทำให้เรามีสมาธิมุ่งมั่นกับการขับอย่างเดียวไม่ต้องไปกังวลเรื่องอื่น แล้วสนามแข่งของไทยปัจจุบันก็มีสนามดีได้มาตรฐานเยอะขึ้น

สำหรับธนากร หากเรียนจบก็คงทำธุรกิจที่บ้านต่อไป ขยายงานด้านเต็นท์รถให้มากขึ้น อาจมีสาขาเพิ่มขึ้น ควบคู่กับการเป็นนักแข่งมืออาชีพ