posttoday

เริ่มออมเงิน เพื่ออนาคตลูก

03 สิงหาคม 2560

ได้เวลาจ่ายค่าเทอมลูกหลานกัน (อีกแล้ว) เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเงินเพียงพอเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน

เรื่อง ราตรีแต่ง

ได้เวลาจ่ายค่าเทอมลูกหลานกัน (อีกแล้ว) เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีเงินเพียงพอเพื่อการศึกษาของบุตรหลาน ครอบครัวยุคใหม่มีการวางแผนออมเงินเพื่อการศึกษาตั้งแต่แรกเกิด เพราะจะช่วยลดจำนวนเงินที่ต้องออมในแต่ละเดือนให้น้อยลง ใครมีลูกน้อยให้เริ่มกำหนดเป้าหมายการศึกษาของลูกว่าตั้งใจจะให้ลูกเข้าเรียนในสถานศึกษาแบบไหน เช่น ต้องการให้เรียนโรงเรียนรัฐบาล เอกชน หรือต้องการให้ศึกษาต่อต่างประเทศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไปอย่างแน่นอน และการคำนวณรวบรวมค่าใช้จ่ายจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย โดยหาข้อมูลจากสถานศึกษานั้นๆ

ระดับอนุบาล ประถม และมัธยม อาจเลือกลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้ พันธบัตร หรือหุ้นกู้ ที่มีอายุ 3-5 ปี ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก

ระดับอุดมศึกษา เช่น ปริญญาตรีและปริญญาโท ซึ่งมีระยะเวลาลงทุนนาน 10 ปีขึ้นไป ก็สามารถลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เช่น กองทุนรวมผสมที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้

การเริ่มวางแผนการออมตั้งแต่แรกเกิดจะส่งผลให้จำนวนเงินในการออมต่อเดือนน้อยกว่า และยังประหยัดจำนวนเงินที่ใช้ในการออมอีกด้วย ขอเริ่มระดับชั้นอนุบาลกันก่อนอย่าเพิ่งมองไกลให้หนักใจ การเรียนอนุบาลในปัจจุบันเรียน 3 ปี ถ้าเป็นโรงเรียนรัฐบาล มีค่าใช้จ่ายราว 8 หมื่นบาท ส่วนระดับเอกชน 3 แสนบาท นานาชาติ 8 แสนบาท และใน ต่างประเทศ 1.5 ล้านบาท

เมื่อรู้ตัวเลขค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูก จึงควรกันเงินสำรองของครอบครัวไว้ได้แล้ว ก็มาเริ่มออมเงินให้ลูกน้อยกันเลย แต่จะออมวิธีไหน อย่างไรดี มีให้เลือกหลากหลายวิธี เช่น การแบ่งการออมเงินด้วยประกันชีวิตเพื่อสะสมทรัพย์ โดยเลือกทำประกันชีวิตแบบมีเงินคืนและให้ความคุ้มครองชีวิต เพื่อสร้างความมั่นคงทางการศึกษาให้กับลูกให้คุณมั่นใจได้ว่าลูกหลานของเราจะได้รับการศึกษาตามที่วางแผนไว้ไม่ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม และในระดับอนุบาลแนะนำให้เลือกแหล่งออมเงินให้เหมาะกับระยะเวลาใช้เงิน

ถ้ามีเวลาออมน้อยก็ควรออมในสินทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำ แต่ถ้ามีเวลาออมนานก็สามารถออมในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นได้ เช่น ระดับอนุบาล ควรออมด้วยเงินฝากประจำ 12 เดือน หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีสภาพคล่องสูง

การลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น ลงทุนในสลากออมสินเป็นรูปแบบหนึ่งของการออมเงิน ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายๆ กับการฝากเงินแบบฝากประจำ เน้นฝากระยะยาว เป็นเงินเย็น ซึ่งจะแตกต่างจากเงินฝากทั่วไปตรงที่ผู้ฝากจะมีสิทธิลุ้นรางวัลในทุกๆ เดือนคล้ายกับการออกรางวัลลอตเตอรี่ นอกจากนี้ผู้ฝากยังจะได้รับดอกเบี้ยตามอัตราที่ธนาคารออมสินเป็นผู้กำหนด และเมื่อครบกำหนดก็จะได้เงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ย

ขณะที่การลงทุนมีลักษณะคล้ายกับสลากออมสิน เป็นการซื้อสลากออมทรัพย์ ทวีสิน ธ.ก.ส. มีอายุการรับฝาก 3 ปี กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน โดยเมื่อฝากครบกำหนด ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยให้ตามที่ระบุไว้ แต่จะไม่จ่ายดอกเบี้ยในกรณีที่ผู้ฝากถอนเงินคืนก่อนครบกำหนด

เลือกการเก็บเงินระยะสั้น การออมเงินโดยฝากออมทรัพย์เป็นการออมเพื่อรักษาสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เช่น ค่าขนม ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเรียนพิเศษ เป็นต้น ถ้าเราไม่อยากให้รายจ่ายตรงนี้เป็นภาระมากเกินไป ควรสร้างวินัยให้ลูกรู้จักการประหยัด รู้คุณค่าของเงินและจัดสรรเงินเองได้ ถ้าจะขอเพิ่มมากกว่านี้ก็ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ

เลือกซื้อกองทุน LTF ครั้งที่ 1 ขณะที่ลูกอายุ 1 ขวบ เมื่อครบ 5 ปีจึงขายกองทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษา ขณะที่ลูกอายุ 5 ขวบ ซื้อ LTF ครั้งที่ 2 ขณะที่ลูกอายุ 2 ขวบ เมื่อครบ 5 ปีจึงขายกองทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษาขณะที่ลูกอายุ 6 ขวบ ซื้อและขาย LTF ลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆ

การมอบอนาคตที่ดีด้านการศึกษาแก่บุตรหลาน ถือเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุด ช่วยตอบโจทย์ทุกความฝันของลูกให้เป็นจริง ไม่ว่าโตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร เพียงเริ่มต้นวางแผนการออมให้เขาตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าตลอดช่วงวัยเรียนของลูกจะไม่สะดุด แม้ต้องเผชิญกับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น

เมื่อรู้แล้วว่าควรออมเงินยังไง สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ก็คือ วินัยการออม โดยออมทุกเดือน และต้องไม่เอาเงินเพื่อเป้าหมายการศึกษาของลูกไปปนกับเป้าหมายอื่น แยกบัญชีออมเงินในแต่ละเป้าหมายออกจากกัน จะได้ไม่ส่งผลกระทบกับเงินออมเพื่ออนาคตของลูก n