posttoday

สุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล รักการถ่ายทอดการทำอาหาร

28 กรกฎาคม 2560

สาวหมวยสวยใสน่ารักคนนี้ เชื่อว่าคุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยทางหน้าจอโทรทัศน์อยู่แล้ว สุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล หรือ เชฟน้ำฝน

โดย...วรธาร ทัดแก้ว ภาพ กิจจา อภิชนรจเรข

สาวหมวยสวยใสน่ารักคนนี้ เชื่อว่าคุ้นหน้าคุ้นตาคนไทยทางหน้าจอโทรทัศน์อยู่แล้ว สุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล หรือ เชฟน้ำฝน หนึ่งในผู้แข่งขันรายการท็อปเชฟไทยแลนด์ซีซั่นแรก ซึ่งจบไปเรียบร้อยโดยเธอผ่านเข้าถึงรอบ 6 คนสุดท้าย

น้ำฝน ยอมรับว่า เพราะการใส่ใจน้อยเกินไปทำให้พลาดโอกาสในการไปต่อ แต่นั่นก็ถือเป็นประสบการณ์อันสูงค่า ให้เรียนรู้ว่าถ้าต้องการไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องไม่พลาดอะไรง่ายๆ โดยเฉพาะในการทำอาหารยิ่งพลาดไม่ได้เลย นอกจากการมีทักษะในการทำอาหารที่ดีแล้วต้องใส่ใจรายละเอียด เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
“ฝนเคยมีประสบการณ์ไปแข่งขันทำอาหารในระดับนานาชาติ เขาจะกำหนดเลยว่า ในจานสมมติต้องมีเนื้อสัตว์ 65% คาโบไฮเดรต 25% ผัก 15% เราต้องทำให้ได้ตามนี้ แต่ท็อปเชฟไม่ได้ให้โจทย์แบบนี้ แต่ให้เราทำอาหารออกมาหน้าตายังไงก็ได้ โดยใช้วัตถุดิบที่เขากำหนดให้ มันเลยดูแปลกใหม่จากที่แข่งขันมา ทำให้รู้สึกตื่นเต้น เร้าใจ และท้าทาย” 
เชฟวัยเบญจเพสจากกรุงเทพฯ กล่าวต่อว่า ท็อปเชฟได้ดึงตัวตนความเป็นเชฟของเธอออกมาได้มากที่สุด ทำให้รู้สึกว่ามีความเก่งขึ้นในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะทักษะด้านการคิด การวางแผน การรู้จักพลิกแพลงและประยุกต์ใช้ความรู้และวัตถุดิบได้อย่างมั่นใจและมีเอกลักษณ์
“ฝนชอบการทำอาหาร ทุกครั้งที่เข้าครัวฝนสนุกและมีความสุขกับมัน โดยเฉพาะอาหารยุโรปเป็นแนวที่ฝนถนัดเพราะฝนเคยไปทำงานเป็นเชฟที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออต ออสติน ที่รัฐเทกซัส สหรัฐ และมีโอกาสได้ทำอยู่ในครัวไฟน์ไดนิ่ง (Fine Dining) ก็ได้ประสบการณ์ตรงนั้นมา แต่แนวอื่นๆ ไม่ว่าฟิวชั่นหรืออาหารไทยก็ทำได้ แต่ส่วนใหญ่เวลาทำอาหารฝนก็จะทำตามโจทย์มากกว่าค่ะ”  

สุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล รักการถ่ายทอดการทำอาหาร

นอกจากจะรักการทำอาหารแล้ว น้ำฝนยังรักการถ่ายทอดความรู้เรื่องการทำอาหารด้วย ปัจจุบันเธอเป็นอาจารย์สอนการทำอาหารยุโรป ที่คณะโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  
“เพิ่งเริ่มสอนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาค่ะ การสอนหนังสือก็เป็นงานที่ฝนชอบ แรงผลักดันมาจากสมัยเป็นนักศึกษาเรียนศิลปะการประกอบอาหารที่วิทยาลัยดุสิตธานี มีรุ่นพี่คอยแนะนำให้คำปรึกษา พอวันหนึ่งตัวเองได้เรียนรู้จนเต็มที่และมีประสบการณ์ทำงาน ก็อยากถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นบ้าง อีกอย่างบุคลิกฝนเป็นคนที่ชอบพูดและพูดมากด้วย (หัวเราะ) แต่ในรายการท็อปเชฟอาจไม่ได้พูดอะไรเยอะ เพราะเราสวมหมวกอาจารย์อีกใบ ถ้าพูดมากกลัวหลุดคำไม่เหมาะสมออกไป แต่นั่นก็เป็นสไตล์การสอนของเรา” เชฟน้ำฝน กล่าว
นอกจากเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยแล้ว เธอยังเปิดสอนทำอาหารในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วย สำหรับคนที่อยากเรียนทำอาหาร หรือถ้าใครอยากจะชิมอาหารเมนูพิเศษฝีมือของเธอในรูปแบบเชฟส์เทเบิล ก็สามารถติดต่อได้ และก็เป็นช่องทางเดียวที่จะได้ชิมอาหารฝีมือของเธอ เนื่องจากยังไม่มีร้านอาหารของตัวเอง
“ปัจจุบันฝนยังไม่มีร้านอาหาร แต่แพลนไว้ในอนาคตเหมือนกัน รูปแบบร้านที่คิดไว้ก็จะเป็นร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ธรรมดาแต่เน้นฟิวชั่นค่ะ” เชฟฝน พูดถึงการเปิดร้านอาหารในอนาคต 
สำหรับใครที่ต้องการติดต่อและติดตามผลงานของเธอสามารถติดต่อได้ 2 ช่องทาง คือ เฟซบุ๊ก Fon BluesnOw และไอจี FonBluesnOw
ปิดท้ายที่เมนูข้าวผัดสเปน น้ำฝน บอกว่า เป็นเมนูที่มีความหลากหลาย มีทั้งเนื้อหมู ทั้งซีฟู้ดในจานเดียวกัน รสชาติเหมือนข้าวผัดทั่วไป แต่มีกลิ่นซีฟู้ด กลิ่นแซฟฟรอน (saffron) และตัดเปรี้ยวด้วยน้ำเลมอน เวลารับประทานจะไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด

สุชารัตน์ ปิยะโชคไพศาล รักการถ่ายทอดการทำอาหาร

ข้าวผัดสเปน

ส่วนผสม

- น่องไก่ 4 ชิ้น

- เนื้อหมูหั่นเต๋าเล็ก 120 กรัม

- น้ำมันมะกอก 40 กรัม

- ไส้กรอกโชริโซสไลซ 120 กรัม

- ปลาหมึกสไลซ 80 กรัม

- หอมใหญ่สับ 40 กรัม

- กระเทียมสับ 10 กรัม

- พริกระฆังสามสีหั่นเต๋า 50 กรัม

- มะเขือเทศ 80 กรัม

- ข้าวอะบอรีโอ้ 200 กรัม

- แซฟฟรอน 0.5 กรัม

- ไวน์ขาว 80 กรัม

- น้ำสต๊อกไก่ 1 ลิตร

- ถั่วลันเตา 80 กรัม

- หอยแมลงภู่ 200 กรัม

- กุ้ง 120 กรัม

- เลมอน 2 ลูก

- เกลือ พริกไทยดำป่น

วิธีทำ

- จี่น่องไก่กับหมูในกระทะจนขึ้นสี

- ใส่โชริโซและปลาหมึก ตามลงไป

- ใส่หอมใหญ่ กับกระเทียมสับ และพริกระฆัง ตามด้วยข้าวลงผัด

- ใส่แซฟฟรอนแล้วเฟรมด้วยไวน์ขาว

- ใส่น้ำสต๊อกไก่ ตามด้วยหอยแมลงภู่และกุ้ง

- ปิดฝา เคี่ยวไฟเบาจนข้าวใกล้สุก จึงใส่มะเขือ เทศหั่นเต๋ากับถั่วลันเตาลงไป ปรุงเกลือ พริกไทย

- เสิร์ฟพร้อมกับเลมอน