posttoday

เกษตรอินทรีย์ ชีวิตเรียบง่าย ของพนักงานออฟฟิศ รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์

22 กรกฎาคม 2560

หนุ่มพนักงานออฟฟิศวัย 29 ปี อุ้ย-รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์ ช่วงจันทร์ถึงศุกร์เขาทำงานเป็นเซลส์ในบริษัทเอกชน

โดย...วราภรณ์

หนุ่มพนักงานออฟฟิศวัย 29 ปี อุ้ย-รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์ ช่วงจันทร์ถึงศุกร์เขาทำงานเป็นเซลส์ในบริษัทเอกชน แต่วันเสาร์อาทิตย์ เขาเปลี่ยนโหมดกลับบ้านที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยพ่อกับแม่ทำไร่ทำสวนแนวเกษตรอินทรีย์ หารายได้อีกทางหนึ่ง

แถมยังทำให้ผู้บริโภคได้รับประทานพืช ผัก ผลไม้ กินไข่ไก่ที่เกิดจากแม่ไก่อารมณ์ดีปลอดสารพิษ เพราะรัชพงศ์จะปล่อยให้ไก่ได้วิ่งเล่น ไม่กักบริเวณ และข้าวที่ผ่านการปลูกแบบออร์แกนิก ภายใต้แบรนด์ “ธัญชาติ ฟาร์ม” ที่ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพทั้งตนเองและผู้อื่น

รัชพงศ์ เริ่มต้นเล่าถึงความสนใจในการเป็นเกษตรกรเริ่มตั้งแต่เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขาทำโครงการเลี้ยงไส้เดือนส่งอาจารย์ ที่เขาได้แรงบันดาลใจจากโครงการหลวงที่มีทำงานวิจัยเกี่ยวกับไส้เดือน อีกทั้งว่างๆ อยู่บ้านย่านปทุมธานี ก่อนที่จะย้ายมาอยู่พระนครศรีอยุธยา เขาก็ชอบปลูกผักรับประทานเองรอบๆ บ้าน

เกษตรอินทรีย์ ชีวิตเรียบง่าย ของพนักงานออฟฟิศ รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์

“จบมัธยม 6 ผมเลือกเรียนวิทยาศาสตร์เคมีอุตสาหกรรม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พอเรียนจบมาก็เข้าทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ที่ทางบริษัทส่งฝึกงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ประเทศญี่ปุ่นนาน 3 สัปดาห์ ทำให้ผมได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในละแวกนั้น ที่แม้เทคโนโลยีก้าวไปไกลมาก แต่ชาวบ้านก็ยังนิยมปลูกข้าวไว้รับประทานเองในพื้นที่เล็กๆ ทำให้ผมจำไว้เป็นต้นแบบ”

พอรัชพงศ์กลับมาเมืองไทยได้ทำงานอีกปีกว่าๆ เขาตัดสินใจไปศึกษาด้านภาษาที่นครแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่แต่กว่า 90% ยังนำเข้าสินค้าประเภทอาหารเข้ามาในประเทศ ทำให้เขารู้สึกว่าวิถีเกษตรกร การปลูกพืชได้เองในประเทศเป็นสิ่งที่มีค่าและจำเป็นมาก

“อาหารเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องกิน บ้านเราดีที่ปลูกพืชไว้กินเองได้ แต่ที่แคนาดาบ้านเขาเมืองหนาวปลูกพืชได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น บ้านเราจึงได้เปรียบ แต่ก่อนที่ผมจะไปแคนาดา ผมเคยไปเรียนทำนาที่มูลนิธิขวัญข้าวที่สุพรรณบุรี สิ่งที่ผมได้เรียนจากมูลนิธิคือ การปลูกข้าวแนวเกษตรอินทรีย์ในภาคทฤษฎี เชิงคุณธรรม เราไม่ใส่สารพิษ เราก็ไม่ทำร้ายผู้บริโภคในทางอ้อม”

ประสบการณ์จากการเรียนรู้ในการปลูกข้าว เขานำมาปลูกในที่ดินแปลงใหม่ของพ่อที่ซื้อไว้ที่พระนครศรีอยุธยา จำนวนนับ 20 ไร่

เกษตรอินทรีย์ ชีวิตเรียบง่าย ของพนักงานออฟฟิศ รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์

“ผมเคยปลูกข้าวในที่ดิน 7 ไร่ที่ปทุมธานี ปรากฏว่าผลผลิตไม่ดี เพราะดินไม่สมบูรณ์ เคยมีการขุดหน้าดินไปขาย พอมาทำไร่ทำสวนที่อยุธยา เราเริ่มจากพ่อแม่นำไก่ไข่มาเลี้ยงก่อน แล้วลงพืชไว้ด้วย พอพ่อแม่เห็นว่าผมอยากทำสวน อยากขายอาหาร อีกทั้งพ่อแม่อายุเยอะแล้วไม่อยากทำธุรกิจโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าที่มีความเครียด จึงหันมาทำการเกษตรดีกว่า

พอพืชผลที่ลงเจริญเติบโตดี ที่เริ่มเลี้ยงไก่ไข่เพราะพืชผลต้องรอเวลาให้ต้นไม้โต แต่ไก่ไข่เลี้ยงเพียง 2 อาทิตย์ก็ออกผลแล้ว ครั้งแรกเลี้ยงไก่ไข่ 500 ตัว ให้ผลผลิตวันละ 300 ฟอง/วัน ซึ่งน่าพอใจมาก เราเลี้ยงแบบอินทรีย์ ให้ไก่กินอาหารสำเร็จรูปที่ทำมาจากพืชผักที่ปลูกแบบอินทรีย์ เช่น ข้าวโพดและรำอินทรีย์ทั้งหมด เราเลี้ยงแบบปล่อย ไม่ได้เลี้ยงในกรง”

นอกจากนี้ รัชพงศ์ยังปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจู กับฝรั่งแป้น และยังปลูกมะนาวที่เริ่มให้ผลผลิต โดยปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ จึงสามารถทำราคาได้ดี เช่น ฝรั่งจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท จากราคาตลาดทั่วไป 25 บาท

“การปลูกแบบอินทรีย์ทำให้ได้ผลผลิตโตช้า แต่รสชาติดีกว่า ก็เลยขายได้ดี แม้ผิวไม่สวย แต่ลูกค้าก็ชอบ ลูกค้าบอกว่ากินแล้วอร่อย เขาก็สั่งซื้อทุกอาทิตย์ ฝรั่งปลูกแบบอินทรีย์คือใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ห่อแบบใช้ถุง ไม่ฉีดยา ป้องกันแมลงก็ใช้แบคทีเรียมากำจัดศัตรูพืช หรือน้ำที่ได้จากการเผาถ่านก็เอามาราดช่วยป้องกันแมลง เป็นต้น”

นับ 1 ปี 3 เดือนแล้ว ที่รัชพงศ์ทำการเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน บริหารที่ดิน 4 ไร่ จากทั้งหมด 20 ไร่ เพราะไม่มีกำลังที่มากพอ

เกษตรอินทรีย์ ชีวิตเรียบง่าย ของพนักงานออฟฟิศ รัชพงศ์ ชาติเจริญสิทธิ์

“หลักๆ คือพ่อกับแม่ที่ดูแลไร่สวน ในอนาคตอยากปลูกให้มากขึ้น แต่ต้องหาตลาดให้ได้ก่อน แต่ตอนนี้ผมเริ่มปลูกผักมากขึ้น ผักพื้นบ้าน เช่น คะน้า กวางตุ้ง ข้าวโพดอ่อน ตอนนี้ต้องลงไก่ไข่ใหม่ เพราะเล้าเดิมเพิ่งโดนโรคระบาด ต้องรออีก 2 อาทิตย์ให้ไก่โตพอจะออกไข่ก่อน

อีกทั้งปลูกข้าวพันธุ์หอมมะลิปทุมธานีราวๆ 1 ไร่ครึ่ง นำปลายข้าวที่เหลือจากการสีมาส่งไปร้านผลิตอาหารไก่เพื่อให้เขาทำรำที่ปลอดสาร เราจะได้ความมั่นใจว่าอาหารไก่ปลอดสารอย่างแท้จริง เพราะเราปลูกผลิตผลที่ใช้ไปทำอาหารไก่เอง ลูกค้าก็มั่นใจได้ว่า ผลผลิตของเราปลอดสารจริงๆ เรามีลูกค้าที่เคยเป็นมะเร็งมาเป็นลูกค้าเราเป็นจำนวนมาก เหมือนเราเป็นความหวังของเขา”

ข้อดีของการปลูกผลผลิตปลอดสารพิษก็คือ สามารถกำหนดราคาเองได้ แต่ก็ตั้งราคายุติธรรมแถมยังปลอดภัย และราคาไม่ตกอีกด้วย

“อย่างไข่ออร์แกนิกขายลูกละ 4 บาทไซส์เล็กสุด ด้วยความที่ไก่ได้ออกกำลังกาย ไก่เลยผลิตไข่ได้ลูกเล็กลง แต่ให้รสชาติดีกว่าซึ่งตรงนี้ลูกค้าบอก รสชาติอร่อยเขาเลยมาซื้อซ้ำ ลูกค้าของผมส่วนใหญ่มีทั้งคนไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่นครับ”

สำหรับช่องทางที่สินค้าจากธัญชาติฟาร์มจะได้พบกับผู้บริโภค รัชพงศ์มักไปออกบูธย่านเอกมัย โดยรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่ทำเกษตรอินทรีย์เหมือนกันอีก 3 ราย รวมกลุ่มกันออกตามงานอีเวนต์ต่างๆ หรือสามารถติดต่อซื้อสินค้าออร์แกนิกของเขาได้ที่เบอร์โทร 08-0588-3355 และเฟซบุ๊ก thanyachart ได้เลย

เขามีกำหนดจะส่งออกถึงมือลูกค้าแบบเดลิเวอรี่ทุกๆ วันอาทิตย์ คิดค่าส่ง 150-200 บาท ย่านราชพฤกษ์ สุพรรณบุรี เอกมัย รามอินทรา เป็นพื้นที่ที่เขาส่งสินค้าอยู่แล้ว