posttoday

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป

22 กรกฎาคม 2560

การเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ อาจดูเป็นเรื่องปกติที่ต้องทุ่มเทให้กับงานเพื่อบริษัทและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ จึงมีเวลาพักผ่อนหรือมุมส่วนตัวที่จะให้กับตัวเองน้อยมาก

เรื่อง : บงกชรัตน์ สร้อยทอง ภาพ สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์

การเป็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขนาดใหญ่ อาจดูเป็นเรื่องปกติที่ต้องทุ่มเทให้กับงานเพื่อบริษัทและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ จึงมีเวลาพักผ่อนหรือมุมส่วนตัวที่จะให้กับตัวเองน้อยมาก 

เช่นเดียวกับ สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ อายุ 43 ปี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ (ASIMAR) ประกอบธุรกิจซ่อมเรือและต่อเรือ รวมถึงกิจการก่อสร้างงานด้านวิศวกรรมอื่นๆ ที่เพิ่งได้รับการโปรโมทให้เป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ได้ประมาณ 1 ไตรมาสที่ผ่านมา

เขาเป็นทายาทผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทคนหนึ่ง หลังเพิ่งจบปริญญาตรี เอกการขนส่งระหว่างประเทศ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นไปเรียนปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจที่สหรัฐ กลับมาผ่านประสบการณ์การทำงานหลากหลาย ตั้งแต่ฝ่ายขายของรองเท้าบาจาบุกตลาดไฮเปอร์มาร์เก็ต จนกระทั่งผลิตภัณฑ์มีดโกนหนวด แชมพู ครีม ยาสีฟัน ฯลฯ บริษัท ยิลเลตต์ ประเทศไทย จนบริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) ซื้อกิจการยิลเลตต์ทั่วโลก จึงถือว่าเป็นคนหนึ่งที่ผ่านงานการตลาดและพัฒนาสินค้าอุปโภคทั้งฉบับผู้ชายและแม่บ้านที่ซื้อของให้สามี

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์  ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป

จนกลับมาช่วยธุรกิจ ASIMAR ในมุมมองที่ว่า เมื่ออายุมากขึ้นการขายไม่ใช่คำตอบ แต่คือ “งานบริหาร” ทั้งบริษัทและคน โดยทำให้เกิดวัฒนธรรมองค์กร “ต้องมองตัวเองในมุมที่เป็นลูกค้า” เพราะการซ่อมเรือหรือต่อเรือ 1 ลำ เป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก การรักษาและให้ลูกค้าไว้ใจเป็นเรื่องสำคัญ

ธุรกิจนี้มีการขึ้นลงตามเศรษฐกิจภาพใหญ่ทั้งของโลกและของประเทศ ทำให้ต้องจัดโครงสร้างลูกค้าใหม่และมีการบริหารความเสี่ยงมากขึ้น เพิ่มสัดส่วนรายได้จากแหล่งงานที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทมากขึ้น จนถึงวันนี้ 8 ปีที่กลับมาทำงานที่ ASIMAR และคิดว่าบริษัทกำลังจะกลับมาสร้างรายได้เติบโตมากขึ้น

เวลาว่างส่วนใหญ่ของสุรเดช จะแบ่งให้กับกีฬาเน้นที่ทำให้เหงื่อออก เริ่มจากเล่นโรลเลอร์เบลด แต่เล่นได้สักพักต้องเลิกเพราะทำให้เกิดข้อเท้าพลิก ขณะเดียวกับที่หมอแนะนำให้ลดน้ำหนัก 7 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน เพราะมีอาการตับโตจากไขมันไปเกาะ ถ้าทิ้งไว้นานเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งได้ และการควบคุมอาหารรู้สึกทรมาน หันไปเล่นกอล์ฟมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการตีกับลูกค้าจนน้ำหนักขึ้น

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์  ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป

จึงเริ่มหันไปขี่จักรยาน ขี่ประเภทเสือหมอบ น้ำหนักจาก 80 กิโลกรัม ลดเหลือ 73 กิโลกรัม จากนั้นก็กลายเป็นชอบและติดการขี่จักรยานเลย เรียกว่าบ้าปั่นมาก ปั่นไปเรื่อยๆ เป็น 100 กิโลเมตร จนรู้สึกเหนื่อยและเมื่อเหงื่อออกสดชื่นมาก แต่เมื่อร่างกายเผาผลาญมากก็ทำให้กินเยอะได้ แต่ก็พยายามควบคุมไม่ตามใจปากเกินไป

สุขภาพดีก็มีความคล่องตัว เมื่อไปทำงานที่อู่เรือใช้แรงเดิน ปีนเรือ รู้สึกตัวเบาและลุยงานได้มากขึ้น ส่วนทางจิตใจคือได้เพื่อนใหม่และสังคมที่จริงใจ ซึ่งเขาไปปั่นก่อนที่สกายเลนตรงสนามบินสุวรรณภูมิจะเปิด จนวันนี้ปั่นมาได้ 10 กว่าปีแล้ว

ปกติจะปั่น 2 รอบสกายเลน ประมาณ 47 กิโลเมตร ถ้ามีเวลาก็จะปั่น 3 รอบ ประมาณ 78 กิโลเมตร โดยปั่นให้จบทีเดียว ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ไปได้ช่วงเช้าวันเสาร์และอาทิตย์ ดีตรงที่ใช้เวลาน้อย เพราะถ้าเป็นกอล์ฟจะใช้เวลาครึ่งวัน แต่ขี่จักรยานเสร็จเอาเวลาที่เหลือให้ครอบครัวทั้งหมด

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์  ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป

“ชอบในการซื้อจักรยานมีคุณภาพที่ช่วยเทคนิคในการปั่นด้วย รวมถึงชุดในการออกกำลังกาย เลือกสีชุดให้เข้ากับจักรยานบ้าง บางครั้งก็เหมือนเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้มีความรู้สึกว่าอยากออกไปปั่น เมื่อก่อนเวลาปั่นก็จะมีความพยายามเอาชนะหรือแซงคนที่ปั่นอยู่ข้างหน้า แต่พยายามให้พอดี คอยคุมตัวเองอย่าขี่เร็วมากเพราะใช้แรงมาก พยายามคุมการปั่น ด้วยการวัดจากการเต้นหัวใจ (ฮาร์ทเรต) เป็นหลัก และตามอายุ ต้องคำนวณให้ดี เพราะกลัวจะน็อก”

ผู้บริหารคนนี้ยังชื่นชอบการถ่ายรูปอย่างมาก ตั้งแต่ใช้ฟิล์มเมื่อก่อนจะกดครั้งหนึ่งคิดแล้วคิดอีก แต่เมื่อเป็นกล้องดิจิทัลแล้วก็รู้สึกสนุกมากขึ้น โดยภาพที่ชอบถ่ายคือสัตว์ อย่างนกและสุนัข จะชอบมากเวลาไปถ่ายในงานประกวดสุนัข รวมทั้งวิวต่างๆ ซึ่งเมื่อก่อนถ้ามีเวลามักจะไปที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นหลัก เพราะชอบถ่ายอะไรที่เป็นธรรมชาติ

“การถ่ายนกไม่ใช่ถ่ายได้ง่าย เพราะไม่อยู่นิ่ง หรือบินมาให้ตั้งกล้องถ่ายง่ายๆ ทำให้ต้องศึกษาทำการบ้านเช่นกัน เพราะนกมีหลายสายพันธุ์ แต่ระยะหลังไม่มีเวลาไปแก่งกระจาน แต่ถ้ามีโอกาสไปสวนทั่วไป โดยเฉพาะไปนั่งเฝ้านกที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ถือเป็นมหาวิทยาลัยหนึ่งที่มีพันธุ์นกมากที่สุด

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์  ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป

“ถ้ามีโอกาสเที่ยวก็จะพกกล้องไปตลอด แต่ตอนนี้ได้ทำน้อยลง กล้องที่พกถูกมือกับยี่ห้อนิคอน เพราะใช้ยี่ห้อนี้มาตั้งแต่เด็ก พร็อพหรืออุปกรณ์ก็จะแน่นระดับหนึ่ง แต่ดิจิทัลทำให้การถ่ายภาพไม่ได้ใจเย็นเหมือนสมัยก่อน เป็นคนมีสองบุคลิก เวลาทำงานจะเป็นคนที่ใช้เหตุผลในการตัดสินใจทำด้วยหลักการ แต่ชีวิตส่วนตัวจะมีความอาร์ตในการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจชัดเจน”

สุรเดช กล่าวว่า มีเวลาไปปั่นจักรยานได้ถือว่าโอเคแล้ว เพราะงานเยอะมาก ถ้ามีเวลาจริงก็มักจะให้เวลากับครอบครัวเป็นหลัก ส่วนมุมพักผ่อนระหว่างวัน ถ้าไม่อยู่กับครอบครัวก็จะเปิดไอแพดหาข้อมูลอะไรที่สนใจและอยากศึกษาไว้

“สุขภาพที่แข็งแรงหาได้จากกิจกรรมกีฬา แต่ถ้ามีเรื่องเครียดที่ต้องคิด ส่วนใหญ่มักจะคิดให้จบและมองไปข้างหน้า เพราะเชื่อว่าปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ และความจริงคือ

“ปัญหาคือส่วนหนึ่งของงานเสมอ ไม่มีปัญหาแสดงว่าเราไม่ได้ทำงาน ซึ่งคือหลักการจริง แต่เวลาทำจริงมักจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องพยายาม เพราะเรื่องสุขภาพกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับตัวเราเอง และคิดว่าทุกคนก็คิดเหมือนกัน แต่วิธีการจะต่างกัน"

สุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์  ผู้บริหารที่ชอบกีฬาและการถ่ายรูป