posttoday

หนูน้อยท่องป่าใหญ่

15 กรกฎาคม 2560

ช่วงวันหยุดเทศกาลเป็นช่วงวันหยุดยาว ที่เราจะได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวและใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด

โดย...กั๊ตจัง

 “ช่วงวันหยุดเทศกาลเป็นช่วงวันหยุดยาว ที่เราจะได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวและใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้นานที่สุด และเป็นจังหวะดีที่น้องถิงถิงได้เรียนรู้ชีวิตกับผู้ใหญ่คนอื่นๆ ในครอบครัว และวิ่งเล่นในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม”

 จันทิมา ดาลัดจรัสแสง คุณแม่น้องถิงถิง (ด.ญ.ฟ้านำพร วัฒนาภิรมย์ อายุ 3 ขวบครึ่ง) เล่าเรื่องราวการเที่ยวของน้องถิงถิงกับครอบครัวใหญ่แสนอบอุ่น เธอเล่าต่อว่า

 “ส่วนมากของเราจะเป็นการเที่ยวกับครอบครัวใหญ่ มีคุณปู่คุณย่าน้าอา และครอบครัวเล็กๆ ของเราเอง รวม 10 กว่าชีวิต เวลาเที่ยวส่วนมากเราจะเดินทางกันไปช่วงเทศกาลปีใหม่ และดูก่อนว่าวันหยุดในปลายปีนั้น เราจะหยุดได้กี่วัน แล้วถึงค่อยจัดสถานที่เที่ยวที่เราอยากจะไป แต่ส่วนมากแล้วจะเป็นสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติ

 “อย่างก่อนหน้านี้เราจะไปเที่ยวกันภาคเหนือแบบไม่ซ้ำกันสักที่ อย่างเช่นปีนี้เราไปเชียงใหม่ ปีถัดมาเราก็จะไปเที่ยวที่เชียงรายกันต่อ ซึ่งเราก็จะไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวที่เขานิยมกัน ส่วนที่พักก็แล้วแต่ว่าถ้าเกิดเป็นสถานที่เที่ยวป่าแล้วก็จะไปกางเต็นท์ แต่ถ้าสถานที่นั้นคนน่าจะเยอะมากๆ เราก็จะจองรีสอร์ท แต่หลักๆ เราจะเน้นสถานที่เที่ยวทางธรรมชาติมากกว่า

 ปีล่าสุด จันทิมา บอกว่าไปเที่ยวกันที่เขาใหญ่ กางเต็นท์นอนกัน ที่เลือกเขาใหญ่เพราะคุณปู่คุณย่าอายุมากแล้ว จึงอยากเลือกสถานที่เที่ยวที่อากาศดี และไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่นัก เขาใหญ่จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด

 “ตอนแรกก็คิดว่าไปแล้วคนน่าจะเยอะ แต่จริงๆ แล้วพอไปถึงปรากฏว่าคนไม่เยอะอย่างที่คิด ไปถึงเราก็เริ่มกางเต็นท์ พาน้องเดินป่า ปลายปีที่แล้วจำได้ว่าคนน้อยกว่าที่คิด อาจจะเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนจึงออกมาเที่ยวน้อยกว่าที่คิด”

 จันทิมา ขยายความว่าที่ชอบเที่ยวกันแบบครอบครัวใหญ่ เพราะไปแล้วรู้สึกสนุก ได้พูดคุยกันระหว่างญาติพี่น้องแล้วก็ช่วยกันดูแลเด็กได้ดีกว่า

 "อย่างน้องถิงถิงเอง ก็จะได้ใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ที่สูงอายุกว่า อย่างเช่นรุ่นคุณปู่คุณย่าที่ช่วยดูแลสอนน้องในอีกแบบหนึ่ง อีกรุ่นอย่างคุณอาคุณน้าก็จะช่วยดูแลสอนน้องถิงถิงในอีกแบบ จะช่วยสอนน้องว่าต้องเจออะไร อันนี้ควรทำไหม มีสิ่งไหนควรทำและไม่ควรทำเวลาเข้าป่าบ้าง ตัวน้องเองนอกจากจะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากผู้ใหญ่แล้ว ยังเป็นการฝึกปรับตัว ใช้ชีวิตอยู่ในป่า ได้เจอผู้คนและสัมผัสกับธรรมชาติ"

 เคล็ดลับการพาเด็กไปนอนเต็นท์ในป่า สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก็คือเครื่องป้องกันแมลงและยุง แต่สิ่งที่จันทิมากลัวและกังวลมากที่สุด ก็คือเรื่องของสุขภาพ

 "เพราะเวลาอยู่ในป่ากลางวันจะร้อนมาก พอตกเย็นอากาศก็จะหนาว เด็กก็จะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยง่าย เลยเตรียมพวกยาสามัญประจำบ้านไป เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ไอ มีน้ำเกลือล้างจมูก อีกอย่างที่ต้องระวังก็คือพวกงู ตะขาบ สัตว์มีพิษ แต่ด้วยความที่เราไปเที่ยวครอบครัวใหญ่ ก็จะมีคนดูน้องค่อนข้างเยอะ เราก็ค่อนข้างจะวางใจได้ ไม่ค่อยกลัวอะไรมาก อีกอย่างหนึ่งก็คือเวลาที่เราไปเที่ยวป่า สัตว์มีพิษเหล่านี้ตัวเล็กมักจะกลัวคนที่มาพร้อมกันเยอะๆ ก็จะไม่ค่อยเข้ามายุ่มย่ามกับบริเวณที่มนุษย์อยู่

 “ถามว่าการไปนอนกางเต็นท์ในป่าแล้วเด็กๆ จะนอนลำบากไหม สำหรับตัวน้องถิงถิงเอง เราพาเขาเที่ยวตั้งแต่อายุได้ประมาณ 3 เดือน เด็กจะค่อนข้างปรับตัวได้ดี ไม่มีปัญหาเรื่องการออกนอกบ้าน แปลกที่แปลกทางแล้วนอนไม่หลับ ไม่มีปัญหาเหล่านี้”

 สุดท้าย จันทิมา บอกว่าการพาลูกมาเที่ยวนอกบ้านบ่อยๆ เป็นผลดีกับเด็กให้รู้จักดูแลธรรมชาติ และการที่ลูกได้อยู่กับคนที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า เวลาพูดคุยก็จะคุยกันด้วยเหตุผล เป็นเด็กที่มีเหตุผลในตัวเอง พูดคุยอธิบายได้ง่าย

 "เวลาไปเที่ยวจะสอนลูกให้ระวังอันตรายรอบตัว อย่างเช่นเจอคนแปลกหน้า รอบตัวบางคนก็เป็นคนดี บางคนก็เป็นคนไม่ดี ไม่มีทางรู้เลยว่าเขาจะคิดดีหรือหวังดีกับลูกแค่ไหน เวลามีข่าวเกี่ยวกับเรื่องการทำร้ายเด็ก ก็จะให้ลูกดูและอธิบายให้ลูกฟัง และสอนวิธีป้องกันให้กับลูก

 "โดยเฉพาะการเป็นเด็กผู้หญิงยิ่งต้องรู้จักระมัดระวังตัวให้มาก บางคนอาจจะบอกว่าเด็กไม่รู้เรื่องหรอก แต่ที่จริงแล้วลูกเรียนรู้จากพ่อแม่และคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการพาลูกไปเที่ยวนอกบ้านจึงเป็นห้องเรียนที่ดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ"