posttoday

บริหาร กทม.ต้องคิดเชื่อมโยง ‘เกรียงพล’ กุนซือวัยเกษียณ

01 กรกฎาคม 2560

บทบาทหน้าที่ในการทำงานข้าราชการ มีจุดมุ่งหมายเพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน

โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ

บทบาทหน้าที่ในการทำงานข้าราชการ มีจุดมุ่งหมายเพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน โดยเฉพาะเมื่อเป็นหน้าที่ของผู้บริหาร กรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงมีความสำคัญที่ต้องทำงานหนักและเข้าถึงปัญหาได้อย่างรวดเร็วที่สุด ทว่ายุคสมัยนี้การเป็นผู้บริหารที่ดี จะทำ “เช้าชาม เย็นชาม” ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ด้วยวิสัยทัศน์มองการไกลที่ว่า กรุงเทพฯ เป็นมากกว่าแค่เมือง แต่เป็น “มหานคร” ดังนั้นหน้าที่ของ กทม.จึงควรมีมากกว่าแค่ล้างถนน ลอกท่อ เก็บขยะ เพราะยังต้องมีความสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศ เข้ามาร่วมลงทุน สร้างอาชีพ พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมให้ได้ นั่นคือผลงานที่ เกรียงพล พัฒนรัฐ รองปลัด กทม. เคยทำจนกระทั่งประสบความสำเร็จมาแล้ว ขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ เมื่อปี  2545 ด้วยการเปิดตลาดการท่องเที่ยวในประเทศจีนและอินเดีย ให้เดินทางมายังกรุงเทพฯ มากกว่าเลือกเดินทางไปสิงคโปร์ได้สำเร็จ

รองปลัด กทม.ผู้นี้ขยายความว่า เมืองหลายแห่งทั่วโลก เช่น ลอนดอน โตเกียว และโซล เวลานี้ไม่ได้ทำภารกิจพื้นฐานเพียงอย่างเดียว เขาเริ่มทำหน้าที่เกี่ยวกับการค้า ท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้คนในเมือง โดยไม่ต้องรอให้มีนโยบายจากรัฐบาลสั่งลงมา แต่ประเทศไทยยังต้องรอนโยบายจากรัฐบาล ซึ่งช้าไปแล้ว

“เราจะทำแต่พื้นที่สีเขียวไม่ได้ หากเบื้องหลังต้นไม้มีผู้คนตกงาน หลังพุ่งไม้เต็มไปด้วยปัญหายาเสพติด ปล้นจี้ ชิงทรัพย์เพราะคนไม่มีงานทำ ดังนั้นการพัฒนาเมือง พัฒนาคน ต้องพัฒนาเศรษฐกิจด้วย ในชีวิตรับราชการของผมทำงานมาหลากหลาย และทำในสิ่งที่หลุดออกจากกรอบของงานประจำให้มากที่สุด เพราะโลกสมัยใหม่เป็นยุคของเมืองที่มีการพัฒนาในทุกด้าน” เกรียงพล กล่าว

เกรียงพล เล่าอีกว่า สมัยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเขตพระโขนง ปี 2549 สิ่งที่ภูมิใจอีกเรื่องหนึ่ง คือ การให้ความรู้กับผู้ประกอบการร้านค้าจำหน่ายอาหาร นำน้ำมันพืชที่ใช้ทอดอาหารจนมีสีดำแล้วมาขายให้กับโรงกลั่นน้ำมันบางจาก เพื่อนำไปผ่านกรรมวิธีที่ถูกต้อง ปลอดภัยให้กลายเป็นไบโอดีเซลต่อไป ทั้งยังให้ราคารับซื้อสูงมากกว่าขายน้ำมันพืชเก่าให้พ่อค้าคนกลาง ที่รับซื้อแล้วนำไปฟอกใส ก่อนกลับมาย้อมแมวขายใหม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเพิ่มมากขึ้น

โดยโครงการนี้มีจุดเริ่มต้นจากแนวพระราชดําริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องไบโอดีเซล แต่หลายองค์กรมุ่งที่จะสร้างโรงกลั่นไบโอดีเซลของตัวเองในพื้นที่ แต่เกรียงพล มองว่าหน้าที่ของ กทม.มีภารกิจที่ต้องส่งเสริมและรักษาสุขภาพให้กับประชาชนเป็นสำคัญ แนวทางนี้เป็นการเชื่อมโยง รัฐ เอกชน และประชาชน เข้ามามีประโยชน์ร่วมกันอย่างลงตัว

รองปลัด กทม.กล่าวอีกว่า ความหวังที่อยากเห็นในอนาคตนับจากนี้หรือกระทั่งเมื่อเขาเกษียณไปแล้ว คือ ต้องการให้ข้าราชการ กทม.ทุกคนวิ่งตาม “มหานคร” แห่งนี้ให้ทัน เพราะเมืองมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากภาคเอกชน มีจีดีพีเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นหน่วยงาน กทม. ต้องก้าวตามให้ทัน การจะตอบว่าต้องสรรหาบุคลากรที่เก่งเข้ามาทำงาน เป็นคำตอบที่ง่ายเกินไป ซึ่งต้องหันกลับมาดูว่า ข้าราชการได้ทำบทบาทอำนาจหน้าที่ของตนเองดีแล้วหรือไม่ เพราะการตอบสนองแก้ปัญหาให้ประชาชนต้องรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาไม่รู้จบสิ้น

เกรียงพล บอกว่า เส้นทางหลังเกษียณแล้ว จะขอทำหน้าที่สอนหนังสือระดับปริญญาเอก บริหาร รัฐประศาสนศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะอาจารย์ทางด้านนี้ยังมีไม่เพียงพอ ประกอบกับอยากให้ประสบการณ์รับราชการผ่านตำแหน่งงานหลากหลายกว่า 30 ปี ผสมผสานกับวิชาการ เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจมากยิ่งขึ้น

เขาทิ้งท้ายว่า การดูแลสุขภาพของคนวัยเกษียณนั้นสำคัญมาก และเขาเลือกออกกำลังกายด้วยการวิ่งนาน 30 นาทีเป็นอย่างน้อย ทำเช่นนี้ทุกวัน เพราะเชื่อว่าการออกกำลังกายยังช่วยพัฒนาความเป็นผู้นำ เพิ่มความมั่นใจ การคิดและตัดสินใจดีขึ้น ถือเป็นส่วนสำคัญที่คนรับราชการควรปฏิบัติ เพราะในประเทศสิงคโปร์ เวลาสมัครงานเข้าบริษัทใด เขาจะขอดูว่าคุณเคยผ่านการแข่งขันกีฬาใดมาบ้าง เพราะกีฬาต้องฝึกซ้อมให้เก่งและชำนาญ หัวใจคือเขาต้องการคนมีความรับผิดชอบ ฉะนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดมากกว่าผลการเรียนสูงลิ่ว