posttoday

เคล็ดลับ ‘ความสุข’ ของคนมีลูก

17 มิถุนายน 2560

ยกโขยงเที่ยวกันแบบครอบครัวใหญ่ นำทีมโดย มิ้ม-จินุชนันท์ สุขสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ "เคทีซี"

โดย...ฤดูกาล ภาพ : จินุชนันท์ สุขสวัสดิ์

 ยกโขยงเที่ยวกันแบบครอบครัวใหญ่ นำทีมโดย มิ้ม-จินุชนันท์ สุขสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและธุรกิจสัมพันธ์ "เคทีซี" หญิงเก่งและแม่ของลูกทั้ง 3 คน ถิงถิง ซนซน และซันซัน ซึ่งกลายเป็นนักเดินทางตัวน้อยที่ได้เห็นโลกกว้างตั้งแต่อายุ 4 เดือน

 เธอเล่าว่า เพราะเธอนั้นไม่อยากให้ลูกเรียนพิเศษวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่อยากให้ลูกท่องเที่ยวมากกว่า จึงเป็นที่มาของทริปหรรษาที่เธอและสามีได้พาลูกไปเปิดหูเปิดตาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกห้องเรียน

 "ทุกคนจะถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ คำตอบคือเหนื่อย แต่เราอยากให้ลูกได้ประสบการณ์มากกว่า"

 เมื่อลูกยังเล็ก เธอต้องเตรียมตัวหลายอย่าง ทั้งกระเป๋านม กระเป๋ากางเกงผ้าอ้อมเด็ก เครื่องนึ่งขวดนม เสื้อผ้าเด็ก ตะกร้าใส่นมที่ชงไว้แล้วสำหรับระหว่างทาง ขวดน้ำร้อน ขวดนมเปล่า เป็นต้น

เคล็ดลับ ‘ความสุข’ ของคนมีลูก

 "การพาลูกไปเที่ยวจะให้ประสบการณ์แก่พวกเขามาก ทำให้ลูกได้เรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้ธรรมชาติ ซึ่งเราไม่ต้องจ่ายเงินค่าเรียนว่ายน้ำ แต่ลูกทั้งสามคนว่ายน้ำเป็นจากสระว่ายน้ำที่โรงแรม ดังนั้น ทุกครั้งเราจะเลือกโรงแรมที่ดีหน่อย หนึ่งคือ มีสระว่ายน้ำ ใกล้ทะเล มีคิดส์คลับ มีร้านอาหารในโรงแรม ซึ่งแม้ว่าจะจ่ายค่าโรงแรมแพงแต่ก็คุ้มมาก"

 มิ้ม เล่าต่อถึงทริปเปิดประสบการณ์ลูกคือ ทริปนอนเต็นท์ริมเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก ซึ่งนอกจากประสบการณ์นอนที่ไม่เหมือนเดิมแล้ว ลูกๆ ยังได้ช่วยกันกางเต็นท์เป็นครั้งแรก ได้นอนดูดาวเป็นครั้งแรก และได้เล่นน้ำเขื่อนเป็นครั้งแรก หรือทริปนั่งรถไฟไปเชียงใหม่ที่ผ่านมา ก็เป็นทริปที่สนุกสนานกันทั้งครอบครัว

 "ลูกยังไม่เคยนั่งรถไฟกับเครื่องบิน เลยอยากให้ลูกได้ลองสักครั้ง จึงตัดสินใจจองตั๋วรถไฟไปเชียงใหม่แบบตู้นอน ซึ่งเรารู้เลยว่าลูกมีความสุข เขาวิ่งขึ้นวิ่งลงและไม่บ่นเลยตลอด 12 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางเราก็จะเล่าเรื่องราวให้เขาฟังอย่างเรื่องอุโมงค์ขุนตานว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ส่วนขากลับเราเลือกนั่งเครื่องบินให้ลูกได้สัมผัสครบทุกอย่าง ซึ่งเด็กๆ ตื่นเต้นมาก อยากนั่งริมหน้าต่างมองเมฆข้างนอก มันเป็นเวลา 1 ชั่วโมงกว่าที่ลูกแฮปปี้ และเป็นประสบการณ์ใหม่ที่หาไม่ได้จากห้องเรียนแน่นอน"

 แม้ตอนนี้เธอจะไม่ต้องเตรียมสัมภาระสำหรับเด็กเล็กเหมือนแต่ก่อน แต่ต้องเจอกับเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างความซน ซึ่งเป็นธรรมชาติของเด็กวัยกำลังโต ดังนั้นการดูแลเขาไม่ให้คลาดสายตาจึงเป็นเรื่องจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการเดินข้ามถนน หรือการเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ ก็ไม่สามารถละเลยได้แม้แต่วินาทีเดียว

เคล็ดลับ ‘ความสุข’ ของคนมีลูก

 เคล็ดลับการพาลูก 3 คนเที่ยวนั้น เธอจะให้ลูกใส่เสื้อสีเดียวกันเพื่อง่ายต่อการมองหา และเธอกับสามีต้องช่วยกันดูแลตลอดเวลาไม่ให้ลูกออกนอกสายตา

 "การท่องเที่ยวช่วยให้ลูกมีพัฒนาการไว" มิ้ม กล่าวต่อถึงผลลัพธ์ของการท่องเที่ยว

 "เพราะเวลาลูกเห็นอะไรจะมีคำถามต่อทุกอย่าง ซึ่งเราจะพยายามตอบในภาษาที่ลูกเข้าใจได้ง่าย จึงทำให้ลูกพูดเร็ว รู้จักตั้งคำถาม ช่างสังเกต กล้าแสดงออก มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ที่สำคัญคือ ครอบครัวของเราจะไม่เลี้ยงลูกด้วยไอแพดหรือมือถือจนลูกอายุ 10 ขวบ เพราะการเล่นแบบนั้นเป็นการสื่อสารทางเดียว ทำให้เด็กมีพัฒนาการช้า ซึ่งมิ้มกับพี่ป๊อปเองก็จะพยายามไม่เล่นมือถือในบ้านหรือต่อหน้าลูกๆ แต่เราจะใช้เวลาร่วมกัน ฟังว่าวันนี้ลูกๆ เจออะไรมาบ้าง และให้เขาเขียนเป็นไดอารี่

 "เพราะเราเชื่อว่าการใช้เวลาร่วมกับลูก ไม่จำเป็นต้องไปเที่ยวก็ได้ แต่การให้เวลากับเขาที่บ้าน เช่น ตื่นเช้าขึ้นมาอาบน้ำให้ลูก แต่งตัวให้เขา พอกลับจากทำงานก็มาเล่นเกมด้วยกัน กอดเขาบ่อยๆ หอมเขาทุกวัน ก็จะสามารถสร้างช่วงเวลาที่ดี ซึ่งพ่อแม่จะทำแบบนี้กับเขาได้ไม่นานหรอก ดังนั้นต้องสร้างเวลาดีๆ ทุกวันและใกล้ชิดกับเขาก่อนลูกจะโต" เธอกล่าวทิ้งท้าย

 นอกจากนี้ คุณแม่ลูกสามยังสนับสนุนให้ทุกครอบครัวมีลูก เพื่อที่จะได้รับรู้ถึงความสุขที่แท้จริงของคำว่า "ครอบครัว" อย่างที่เธอกำลังมีอยู่ในตอนนี้