posttoday

ปฏิเวช สันตะวานนท์ ‘ตีกอล์ฟต้องมีกลยุทธ์สไตล์แบงก์เกอร์’

29 เมษายน 2560

ขึ้นชื่อว่าทำงานด้านการเงิน ย่อมมีความเครียดกับความเป๊ะของตัวเลข แต่สิ่งที่กล่าวมาไม่ได้มีผลกับการใช้ชีวิตของ ปฏิเวช สันตะวานนท์

โดย...ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์

Inside Out

ขึ้นชื่อว่าทำงานด้านการเงิน ย่อมมีความเครียดกับความเป๊ะของตัวเลข แต่สิ่งที่กล่าวมาไม่ได้มีผลกับการใช้ชีวิตของ ปฏิเวช สันตะวานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงไทย แม้แต่น้อย

ปฏิเวช อยู่ในแวดวงการเงินมากว่า 30 ปี เป็นลูกหม้อของธนาคารกรุงไทยอย่างแท้จริง คลุกคลีกับลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มาตลอด

ไต่เต้ามาตั้งแต่เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อที่สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2529 ด้วยเงินเดือน 3,690 บาท ในวุฒิปริญญาโท จบด้านไฟแนนซ์โดยตรง จากมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ สหรัฐอเมริกา และเติบโตขึ้นเป็นลำดับชั้นเป็นหัวหน้าส่วน ผู้จัดการสำนักงานธุรกิจ ผู้อำนวยการฝ่าย ผู้ช่วยผู้บริหารกลุ่ม และก้าวขึ้นมาเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสในปัจจุบัน

ปฏิเวช ไม่ได้อยู่สำนักงานใหญ่ มี 2 ครั้งคือ ตอนเป็นผู้จัดการสำนักงานธุรกิจที่สุรวงศ์ และเป็นผู้บริหารกลุ่มภาคใต้ 2 ปี ฐานอยู่ที่ภูเก็ต แต่ดูแลลูกน้องตั้งแต่ชุมพรถึงยะลา เป็น 2 ปีที่สนุกสนานกับการเดินทางพบปะลูกน้อง ลูกค้า และใช้ชีวิตของคนใต้

ปฏิเวช สันตะวานนท์ ‘ตีกอล์ฟต้องมีกลยุทธ์สไตล์แบงก์เกอร์’

ปรัชญาในการประกอบอาชีพคือ ความสุขรู้สึกว่าเป็นรางวัลชีวิตเมื่อลูกค้าและงานได้รับการอนุมัติ ได้รับการยอมรับจากผู้บังคับบัญชาและรับฟังเหตุผล อนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าเรา นั่นถือเป็นรางวัลทุกครั้งที่ทำงาน

“แต่ก่อนที่จะนำไปเสนอ ทุกอย่างต้องผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี อุปสรรคปัญหาเป็นเรื่องปกติ แต่ทุกเคสที่ได้รับอนุมัติจะถือเป็นความสำเร็จเสมอ ไม่ว่าจะเล็กแค่ไหนก็ตาม ล้มเหลวมีบ้าง แต่ผิดหวังได้แป๊บเดียวก็มาสู้ใหม่”

สาเหตุที่ทำงานกรุงไทยมานาน ปฏิเวช บอกว่า เป็นที่อุปนิสัยส่วนตัวที่ไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยาน คาแรกเตอร์ส่วนตัวเป็นคนเฉยๆ รักเดียวใจเดียว และพอเพียง หลายสิบปีที่ผ่านมาเราทำงานโดยไม่ดูว่าเงินเดือนเท่าไหร่ หรืออยากมีเท่าไหร่ เงินในบัญชีมีเท่าไหร่ก็รูดเอทีเอ็มใช้ไปเท่านั้น

ปฏิเวช สันตะวานนท์ ‘ตีกอล์ฟต้องมีกลยุทธ์สไตล์แบงก์เกอร์’

ปฏิเวช เผยหนึ่งในสิ่งที่เรียนรู้จากการทำงานจนเป็นผู้บริหารระดับสูง คือ ต้องตัดสินใจเด็ดขาดภายใต้เหตุผล แม้ว่าการตัดสินใจนั้นอาจไม่ได้ถูกทั้งหมดก็ตาม เพราะเคยเจอคนที่ไม่ตัดสินใจมาแล้ว กลายเป็นเรื่องเยอะขึ้นและงานไม่เดิน เมื่อถามว่าระหว่างตัดสินใจผิดกับไม่ตัดสินใจ

“คุณต้องตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ถ้าผิดก็ต้องแก้ไข ต้องยอมรับแก้ไขได้” ปฏิเวช ตอบ

Outside In

“นอกเวลาทำงานส่วนใหญ่จะอยู่บ้านเป็นวันพักผ่อนสบายๆ และมีกิจกรรมที่ทำประจำคือตีกอล์ฟ เราเป็นคนชอบมีความสุข และอยากให้คนรอบข้างเรามีความสุขด้วย เพราะฉะนั้นเวลาทำงานหนักเราเหนื่อย เราตั้งใจ แต่เวลาสนุกเราสนุกเต็มที่ ก๊วนกอล์ฟมีทั้งเพื่อนทำงานและลูกค้า”

ปฏิเวช สันตะวานนท์ ‘ตีกอล์ฟต้องมีกลยุทธ์สไตล์แบงก์เกอร์’

ก่อนมาเล่นกอล์ฟ ปฏิเวช ถือว่ามาสายกิจกรรมกีฬาตลอด เป็นนักตะกร้อโรงเรียน พอเข้าเรียนคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็เป็นนักวอลเลย์บอล และนักบาสเกตบอลของคณะด้วย

ส่วนกอล์ฟเริ่มมาเล่นตั้งแต่เรียนเมืองนอกและกลายเป็นกีฬาที่ชอบมากที่สุด ตอนนี้อยู่แฮนดี้แคป 9 แล้ว

“กอล์ฟเป็นกีฬาที่มีเสน่ห์ กอล์ฟมีไม้อยู่13 อัน ตีได้ระยะไม่เท่ากัน มีไม้สั้น ไม้ยาว จะใช้ไม้ไหนต้องวางกลยุทธ์ เมื่อเจอภูมิประเทศต่างกัน มีอุปสรรคขวาง คุณมีศักยภาพพอที่จะตีข้ามไปได้ไหม ถ้ามีศักยภาพก็ตีข้ามไป แต่ถ้าไม่มีละก็ จะต้องวางกลยุทธ์ อาศัยปัจจัยรอบด้าน ทั้งสภาพสนาม ทิศทางลม กะระยะการเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟ

“คุณตีกอล์ฟอยู่ในสนามเดิมทุกวันลูกกอล์ฟของคุณจะไม่อยู่ที่เดิมตลอด บางวันอยู่ซ้าย บางวันอยู่ขวา อันนั้นคือความซับซ้อนของมัน ที่บอกว่าเป็นกีฬาที่ซับซ้อนที่สุดในโลก และใช้ทุกอย่างที่ตัวเองมี สมอง สกิลร่างกาย”

ปฏิเวช สันตะวานนท์ ‘ตีกอล์ฟต้องมีกลยุทธ์สไตล์แบงก์เกอร์’

นอกจากนี้ กอล์ฟเป็นกีฬาที่เล่นได้ทุกวัยคนอายุ 80 ปีก็ยังตีได้ แต่ไม่ได้สมบุกสมบันอย่างวัยหนุ่มสาว ซึ่งตอนนี้ ปฏิเวชเป็นสมาชิกอยู่ที่สนามกอล์ฟปัญญาและเลควู้ด ที่ไปเป็นประจำ โดยมีก๊วนกอล์ฟเพื่อนหลากหลาย ทั้งพนักงาน ลูกค้า เพื่อนฝูงไปตีเดือนละ 2 ครั้งโดยเฉลี่ย

วันหยุดของปฏิเวช มีกติกาอยู่ เพราะส่วนตัวเป็นคาทอลิก วันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวไปโบสถ์ตอนเช้า จากนั้นก็ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน หรือช็อปปิ้ง บ่ายพักผ่อน นวดสปา

“ช่วงเย็นก็หาเมนูเด็ดเข้าครัวทำอาหารกินวันเสาร์เป็นเวลาทำกิจกรรมของตัวเอง แต่ไม่ถึงขั้นตั้งเป็นกฎของชีวิต ยืดหยุ่นได้ ถ้าวันไหนมีกิจกรรมกับลูกค้าก็ต้องไป ซึ่งทางครอบครัวเข้าใจกับวิถีชีวิตนี้ดี”

มองโลกอย่างปฏิเวช ขอมองโลกในแง่บวก“เชื่อว่าใช้ได้กับทุกอย่างในชีวิตเรา เหมือนมีความทุกข์กับความสุขอยู่ตรงหน้า อยากจะเลือกอันไหนคุณได้เป็นเจ้าของทันที เราก็เลือกเอาความสุขดีกว่า”