posttoday

ตามรอยพระยุคลบาท มหาราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่

04 ธันวาคม 2559

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี

โดย...อณุสรา  ทองอุไร ภาพ : วีรวงศ์  วงศ์ปรีดี

ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีซี คอนซัลแทนส์ และสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี นอกจากงานหลักในฐานะบริษัทรับงานด้านประชาสัมพันธ์ให้องค์กรต่างๆ แล้ว เขายังทำสำนักพิมพ์และเขียนและแปลหนังสือเองอีกหลายเล่ม และเล่มที่เพิ่งได้รับรางวัลล่าสุดก็คือการเขียนงาน เรื่อง ตามรอยพระยุคลบาท ซึ่งเป็นงานเขียนที่ได้จัดพิมพ์ไปตั้งแต่เมื่อปี 2549 เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และได้รางวัลหนังสือดีเด่นเมื่อปี 2551 จากกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้รับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และกลับมาพิมพ์ซ้ำอีกครั้งปลายปีนี้

เขาเล่าถึงที่มาของการเขียนหนังสือในครั้งนั้นว่า เนื่องจากตอนนั้นบริษัทของเขารับทำงานประชาสัมพันธ์ฉลองครองราชย์ 60 ปี จึงได้ข้อมูลเรียนรู้เกี่ยวกับการทรงงานของในหลวงต่างๆ มากมาย เพราะต้องจัดนิทรรศการใหญ่มากที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีโครงการต่างๆ ของพระองค์มาแสดง รูป เรื่องราวต่างๆ มากมาย มีหลายเรื่องที่เพิ่งรู้ มีคนไปชมงานถึง 6 ล้านคน มีภาพฝีพระหัตถ์ของพระองค์มาแสดง มีภาพพระฉายาลักษณ์ของพระองค์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบัน

“พอเราทราบข้อมูลตรงนั้นแล้วคิดว่าเรื่องราวการทรงงานของพระองค์นั้นมีมากมายเหลือเกินและมีเป็นจำนวนมากที่คนไม่รู้ เราจึงอยากเขียนหนังสือตามรอยพระยุคลบาท ให้คนอื่นได้รับรู้ว่าพระองค์ทำงานหนักมากมายเพียงใด คือเสียดายข้อมูลที่ได้ไปทำมา และหนังสือเล่มนี้ใช้เวลาทำนานเกือบ 2 ปี ทำตามออร์เดอร์เนื่องจากทำอย่างดี อยู่ในกล่องผ้าไหม พิมพ์ 4 สี อาร์ตมันทั้งเล่ม ปกแข็ง ในราคาเล่มละ 4,990 บาท ทำเพียง 3,000 เล่มเท่านั้น ซึ่งปรากฏว่ายอดจองเข้ามาในเวลาอันรวดเร็ว และใช้เวลาทำนานเกือบ 2 ปี” เขาเล่าอย่างภาคภูมิใจ

ตามรอยพระยุคลบาท มหาราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่

 

และเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ก็มีผู้ที่สนใจอยากจะได้หนังสืออีกเพื่อเก็บไว้เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน ตอนนี้มียอดจองมา 2,000 ชุด เราจึงจะพิมพ์เพิ่มและออกสิ้นปีนี้ และลดราคาลงเหลือเพียงเล่มละ 3,500 บาท ซึ่งตอนนี้ทางเซเว่นอีเลฟเว่นขอมาช่วยรับจองให้ คาดว่ายอดน่าจะอยู่ที่ 5,000 เล่ม

สำหรับหนังสืออีกชุดที่อยากจะทำขึ้นมาและเป็นภาษาอังกฤษ ก็คือหนังสือชุด King ภูมิพล of Thailand ซึ่งเป็นชุด 3 เล่ม ใช้เวลาทำถึง 4 ปีเต็ม เล่มแรก From Prince to king เป็นเรื่องจากเจ้าชายสู่การเป็นกษัตริย์ เริ่มตั้งแต่ทรงพระเยาว์ อยากให้เด็กๆ ได้อ่านได้ฝึกภาษาอังกฤษ โดยใช้ภาษาที่อ่านง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก มีแบบทดสอบให้ทำการบ้านด้วย หัดให้เด็กได้ใช้ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ

เล่มที่ 2 Strength of the Land เป็นเรื่องของพระองค์เมื่อวัยหนุ่ม การที่พระองค์ทรงงานต่างๆ ให้เด็กมัธยมได้อ่าน ศัพท์ก็จะยากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง  ส่วนเล่มที่ 3 ก็คือ By the light your Wisdom เป็นเรื่องราวคำสอนแนวความคิดของพระองค์ที่ให้คนไทยใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต

โดยหนังสือภาษาอังกฤษ 3 เล่มดังกล่าว ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงเป็นผู้ตรวจต้นฉบับภาษาอังกฤษและตรวจทานเนื้อหาความถูกต้องอื่นให้ด้วยพระองค์เอง ซึ่งทำให้รับรู้ได้ว่าพระองค์ทรงมีความรักความผูกพันกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เป็นอย่างยิ่ง

ตามรอยพระยุคลบาท มหาราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่

 

“คือเราอยากให้คนไทยเด็กไทยได้อ่านได้ฝึกภาษาอังกฤษ ขณะเดียวกัน เวลาที่ฝรั่งถามถึงในหลวงบางทีเราตอบไม่ถูกรู้ว่าท่านทรงงานเยอะแต่ทำอะไรบ้าง ตอนที่เป็นนักเรียนทุน AFS เวลาจะไปพูดหน้าห้องให้เพื่อนฝรั่งฟังก็นึกศัพท์ไม่ออก เผื่อเด็กๆ จะเอาไว้ใช้ทำรายงาน เอาไว้เล่าให้เพื่อนต่างชาติฟัง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ให้คนต่างชาติรู้อย่างถูกต้อง ฝรั่งไม่ค่อยมี King และ King ฝรั่งก็ไม่เหมือนของประเทศไทย เราจึงมีความภาคภูมิใจในพระองค์ท่านต้องการให้ชาวโลกรู้ว่าท่านเป็นราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ไว้คุยกับฝรั่ง” เขากล่าวอย่างเชื่อมั่น

โดยหนังสือ 3 เล่มนี้ทำเป็นแบบปกอ่อน 3 เล่ม จากราคา 340 บาท ตอนสัปดาห์หนังสือลดเหลือ 3 เล่ม 199 บาท เพื่อต้องการให้ผู้อ่านซื้อได้แบบไม่ต้องคิดมาก ส่วนปกแข็งมีกล่องชุดละ 1,290 บาท โดยเงินส่วนหนึ่งเข้ามูลนิธิธรรมดี 

“เราเป็นคนไทย พระองค์ท่านดูแลประชาชนเหมือนพ่อดูแลลูก คนไทยโชคดีที่มีพระเจ้าอยู่หัวแบบในหลวงดูแลใส่ใจทุกเรื่องตั้งแต่อาหาร สุขภาพ อาชีพ เราจึงอยากให้คนทั่วโลกรู้ว่าท่านทรงงานมากมายและหนักเพียงไรเพื่อประชาชนของท่าน” เขากล่าวอย่างตื้นตันใจ