posttoday

แปรความเศร้าให้เป็นพลัง

25 ตุลาคม 2559

เชื่อว่าหลายคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และไม่คลายจากไปได้โดยง่าย กับข่าวเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดย...บีเซลบับ ภาพ คลังภาพโพสต์ทูเดย์

เชื่อว่าหลายคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้า และไม่คลายจากไปได้โดยง่าย กับข่าวเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ในวารวันที่เป็นทุกข์ใหญ่หลวงของประชาชนและบ้านเมือง หากก็เป็นวาระที่ทำให้ได้เห็นความรักสามัคคีแห่งหมู่ชนในชาติ ได้กลับมาปลาบปลื้มตื้นตันในน้ำใจที่ต่างแสดงออกด้วยความรักอาลัยดุจเดียวกัน ปรากฏการณ์นี้สร้างความแปลกใจให้หลายคน ที่หน่ายเหนื่อยกับภาพความขัดแย้ง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพราะโหยหาและไม่ได้เห็นมานานแสน นอกจากชาวเราก็ยังรวมถึงชาวต่างประเทศที่ “งง” ไปทั่วโลก กับภาพความรักความภักดีของเราที่มีต่อพ่อหลวง

ปรากฏการณ์ที่ว่าได้ยินได้ฟังมา มีตั้งแต่รายงานข่าวคนไทยร่วมทำความดีถวายพ่อ ตั้งแต่เก็บขยะ แจกน้ำแจกข้าว อาหารอร่อยๆ ทอฟฟี่ กาแฟมีให้กินตลอดวันแบบฟรีๆ เรียกว่า ออกจากบ้านไปแสดงความไว้อาลัย ณ พระบรมมหาราชวัง ควักกระเป๋าจ่ายเงินแค่ 14 บาท เพราะค่ารถค่าเรือค่าเดินทางอีกค่าข้าวค่าอาหารฟรีตลอดวัน รับแจกแบบไม่อั้นและอิ่มหนำสำราญ เด็กแว้นพร้อมใจกันกลับตัว เลิกตีกันแล้วมาแว้นรับส่งคนที่เดินทางมาแสดงความไว้อาลัยแทน วินมอเตอร์ไซค์ทั่วกรุงสลับเวรกันมาช่วยวิ่งรับส่งผู้คนที่ท้องสนามหลวง แม้แต่แท็กซี่ก็มีให้บริการฟรีแก่คนแก่คนเฒ่า ฟังแล้วใครไม่ชื่นใจบ้าง ต่างประเทศงงมากเพราะไม่เคยเห็นที่ไหนในโลก

จิตใจของคน ถ้าพูดให้กำลังใจหรือมีเหตุการณ์พลิกเปลี่ยนให้เขาคิดหรือได้คิด แม้เพียงนิดเดียว ก็จะทำให้เขาคนนั้นมีทางเดินของชีวิต ไม่ต้องย่ำเดินอยู่กับร่องรอยปัญหาเก่าๆ ในทางจิตวิทยาแล้วการแปรความโศกเศร้าให้เป็นพลัง ถือเป็นการเสริมแรงอย่างหนึ่ง ถ้าคิดให้ดีพลิกให้ได้ก็เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ เหตุการณ์เข้าทุกข์ใหญ่ของประเทศไทยครั้งนี้ แม้จะไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็มีข้อดีที่ทำให้หลายคนได้คิด ซึ่งสำคัญมาก เพราะการจะพัฒนาสังคมชาติบ้านเมืองได้นั้น ต้องพัฒนาที่ตัวบุคคลก่อน หมายถึงต้องพัฒนาให้เป็นคนมีคุณธรรม มีคุณค่าของความเป็นคนที่มีคุณภาพ

คุณภาพของมนุษย์ก็อยู่ที่คุณธรรมนี่เอง สังคมของเรามีคนที่พูดคำว่า “ขอเป็นคนดี” ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อ ทำความดีถวายองค์พ่อหลวง เกิดเป็นกระแสเรื่องขอเป็นคนดีขึ้นมา นอกเหนือจากเรื่องเก็บขยะ แจกอาหาร หรือเด็กแว้นกลับใจที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็เห็นมีการกดแชร์คำสอนของพ่ออย่างมากมายทางโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก อ่านแล้วแชร์กันต่อไปเรื่อยๆ มองให้ดีก็ดี แต่มองให้ลึกซึ้งจะเห็นว่า เรายังสามารถทำอะไรได้อีกมาก

“วรวรรณ ธาราภูมิ” นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้กล่าวในรายการวิทยุเฉลิมพระเกียรติรายการหนึ่ง ให้ข้อคิดเรื่องกระแสขอเป็นคนดีเพื่อพ่อในช่วงนี้ แม้จะยังไม่ได้ขออนุญาตในการนำมาเผยแพร่ต่อ แต่ก็เชื่อว่าพี่ใหญ่แห่งวงการตลาดทุนจะไม่ว่าอะไร

วรวรรณ ระบุว่า แชร์คำสอนของพ่อแล้วไง อย่าแค่แชร์ต่อ ร้องไห้แล้วก็จบ แต่ต้องคิดให้ได้ตามคำสอน ไตร่ตรองด้วยสติปัญญา รวมทั้งนำมาประยุกต์กับตัวเอง วิชาชีพ ครอบครัว

“อย่าแค่แชร์ ร้องไห้ แล้วก็จบ ในที่สุดคำสอนของพ่อก็จะจืดจางไป แชร์มาแล้วต้องอ่าน และอ่านอย่างใส่ใจ คำสอนของพ่อนำมาปรับใช้ประยุกต์ใช้กับตัวเอง แปรความเศร้าโศกเป็นพลัง แล้วเดินหน้าต่อ” วรวรรณ กล่าว

นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า คำสอนของพ่อมีค่าแต่จะมีค่าที่สุด เมื่อทำให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสังคม ประชาชนชาวไทยผนึกกำลังกันและร่วมกันผลักดันประเทศชาติบ้านเมืองให้เดินหน้าได้ต่อไป ขณะเดียวกันก็สืบทอดปณิธานของพระองค์ท่าน

คำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ถูกนำมาแชร์ต่อๆ กันในระยะนี้มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นคำสอนใดเรื่องใดก็ถือเป็นสิ่งดีสิ่งมงคล ขอให้ปวงชนชาวไทยทุกคนตั้งสติและพิจารณากลั่นกรอง เลือกปรับใช้ให้เหมาะสมกับชีวิตของแต่ละคน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ข้อ ต้องทำให้ได้!

“การแปรความเศร้าโศกครั้งใหญ่ให้เป็นพลังครั้งนี้ ขอให้ใช้หลักความเพียร ความรู้และคุณธรรม ซึ่งเป็นหลักการที่พระองค์ท่านให้ความสำคัญมากที่สุด เชื่อว่าพวกเราชาวไทยจะผ่านทุกข์ใหญ่ในครั้งนี้ไปได้ อย่างสมประโยชน์และสมกับที่เป็นลูกของพ่อ” วรวรรณ กล่าว