posttoday

‘นิธาร’ กับ ‘ใจปัจจุบัน’ 2 เล่มรวมบทกวีของกุดจี่-พรชัย แสนยะมูล

24 กรกฎาคม 2559

การทำงานอยู่บนถนนสายเขียนหนังสือมา 22 ปี มีผลงานรวมเล่มทั้งบทกวี เรื่องสั้น นิยาย บทความ

โดย...เพรงเทพ

การทำงานอยู่บนถนนสายเขียนหนังสือมา 22 ปี มีผลงานรวมเล่มทั้งบทกวี เรื่องสั้น นิยาย บทความ ไม่ต่ำกว่า 80 เล่ม มีนิทานภาพไม่ต่ำกว่า 170 เล่ม สำหรับหนังสือรวมบทกวี “นิธาร” เคยได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประะเภทกวีนิพนธ์ เซเว่นบุ๊คอวอร์ด ครั้งที่ 11 ประจำปี 2557 มาแล้ว อีกเล่ม “ใจปัจจุบัน” ได้รับรางวัลชมเชย กลุ่มหนังสือกวีนิพนธ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ปี 2559 ซึ่งทั้ง 2 เล่มส่งเข้าประกวดรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไทยหรือซีไรต์ในปีนี้

 กุดจี่-พรชัย แสนยะมูล เป็นนักเขียนที่โด่งดังเป็นพลุแตกมาตั้งแต่ปี 2539 หนังสือ “อยากให้เธออารมณ์ดีตลอดปีตลอดชาติ” ของเขาเป็นหนังสือขายดีในปีนั้นมียอดขายแตะเหยียบแสนเล่ม ปัจจุบันนอกจากเป็นนักเขียนแล้ว เขายังเป็นเจ้าของและบรรณาธิการสำนักพิมพ์ไม้ยมก รวมถึงบรรณาธิการพิเศษให้กับหนังสือพิมพ์เคล็ดไทย และขยายกิจการเปิดสำนักพิมพ์ Love Smile พิมพ์หนังสือเด็กและเยาวชน

 ในฐานะเป็นกวีรุ่นคาบเกี่ยวในยุคเพื่อชีวิตกับโพสต์-โมเดิร์นแบบไทยๆ ที่ไถลทะลักสู่ความเป็นกวียุคใหม่ อยู่กับความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา กุดจี่มองวงการกวีและวงการนักกลอนร่วมสมัยว่า

 “ผมไม่สามารถบอกแน่ชัดได้ว่าวงการนี้ล้ำหรือล้าเพียงใด ล้าในที่นี้ไม่ได้หมายถึงล้าสมัย แต่หมายถึงเหนื่อยล้า แม้ว่าจะมีนักกลอนและกวีที่ล้าสมัยอยู่บ้างก็ตาม ซึ่งหลายจังหวะกุดจี่ก็ล้านะ ทั้งล้าทั้งเพลีย ทั้งล้าสมัย ความล้าสมัยคือความลงตัวชนิดหนึ่ง ความล้าสมัยคือความคลาสสิกชนิดสอง”

‘นิธาร’ กับ ‘ใจปัจจุบัน’ 2 เล่มรวมบทกวีของกุดจี่-พรชัย แสนยะมูล

 

 กุดจี่ บอกว่า เท่าที่ตามซื้อหนังสือรวมบทกวีนิพนธ์ของกวียุคปัจจุบันมาอ่าน ทั้งหนังสือที่พรินต์ออนดีมานด์ขายทางเฟซบุ๊ก ทั้งหนังสือที่ขายผ่านสำนักพิมพ์ไม่กี่สำนักพิมพ์ ทั้งตัวบทกวีนิพนธ์และบทกลอนที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก

 “ในด้านของเนื้อหาผมว่าเป็นเรื่องของปัจเจกชน บ้างก็ขีดเขียนถึงความงามของชีวิตและสังคม บ้างก็ขีดข่วนขบกัดชีวิตและสังคม บ้างก็ขับขานเสียงข้างในที่ก้าวไปสัมผัสรสพระธรรม บ้างก็ขบขันและดื่มด่ำกับมิตรภาพและความรัก บ้างก็ต่างๆ นานา อะไรก็ไม่รู้ ในด้านของรูปแบบ มีทั้งเขียนตามขนบ มีทั้งสร้างสรรค์ตามถนัด ในส่วนของยอดขาย กวีนิพนธ์คนเขียนเยอะมาก มีทั่วทุกระแหง แต่คนซื้อมีอยู่แค่หยิบมือเดียว”

 รวมเล่มเล่มบทกวีที่ส่งเข้าประกวดรางวัลซีไรต์ในปีนี้ของกุดจี่-พรชัย แสนยะมูล มีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันอย่างไร? เขาบอกว่า “นิธาร” เป็นกวีนิพนธ์ที่มีเนื้อหาสะท้อนสังคม

 “ลดความขรึมขลังด้วยการนำสัตว์มาเป็นตัวละครบ้าง ผู้คนและเมืองในจินตนาการบ้าง ด้านรูปแบบไม่ได้ยึดตามขนบเป๊ะเฟ่อร์เวอร์วังอลังการ หลายๆ บทเขียนตามแบบความพึงพอใจ ‘ฉันทลักษณ์ของฉันเอง’ เล่มนี้มีอาจารย์สกุล บุณยทัต ให้เกียรติเป็นบรรณาธิการร่วม เคยได้รับรางวัลเซเว่นบุ๊คอวอร์ดปี 2557 มาแล้ว แต่ฉบับที่ส่งประกวดซีไรต์ได้มีการปรับปรุงเพิ่มเติมเนื้อหาเข้ามาอีกราวสิบบทใหม่ บางคนบอกว่า ‘นิธาร’ อ่านง่าย แต่ความหมายลึกซึ้ง

 “พอมาถึงเล่ม ‘ใจปัจจุบัน’ ในส่วนของรูปแบบ ผมเขียนด้วยกลอนสุภาพทั้งหมด ยึดตามขนบโบราณเลย ความยากประการต่อมาก็คือแต่ละบทผมเขียนยาวมาก และพยายามไม่ให้คำลงท้ายในแต่ละบทซ้ำเสียงสระหรือเสียงมาตราตัวสะกดเดียวกัน ผมเรียนรู้มาจาก ‘ครูน้ำหมึก’ ว่า ถ้าเจ๋งจริงอย่าซ้ำเสียงสระและเสียงมาตราตัวสะกดในแต่ละบท การเขียนด้วยฉันทลักษณ์แบบโบราณ แต่จะทำอย่างไรถึงจะให้คนร่วมสมัย ‘อิน’ ผมก็เลยเขียนเรื่องความงามขณะชีวิตสัมผัสในแต่ละห้วงเวลา ทั้งอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้ เข้าร้านกาแฟ ร้านตัดผม โรงหนัง ร้านขายต้นไม้ ท่องเที่ยวริมทะเล กระทั่งในงานศพของเพื่อนร่วมวงการ ชีวิตที่แวดล้อมด้วยครอบครัว มิตรภาพ สิ่งแวดล้อม ข่าวสารภัยธรรมชาติ ภัยก่อการร้าย กระทั่งข่าวนอกโลกอย่างเรื่องการสำรวจอวกาศ ซึ่งแน่นอนสิ่งที่คนรุ่นนี้และคนรุ่นโน้นกำลังแสวงหา ก็คือสภาวะ ‘ปัจจุบันขณะ’ เมื่อละเลียดอ่านดีๆ จะรับรู้ได้ว่า ในภาษาง่ายๆ ผู้เขียนได้เขียนแต่ละบทขึ้นขณะใช้ชีวิตอยู่กับ ‘ใจปัจจุบัน’ จริงๆ เล่มนี้มีกวีซีไรต์ อย่าง ‘อังคาร จันทาทิพย์’ ให้เกียรติมาเป็นบรรณาธิการร่วม ในแต่ละบทผมเขียนไม่นาน เขียนสดๆ แต่ขัดเกลาเป็นปี หลายคนบอกว่า อ่านง่ายแต่ความหมายลึกซึ้ง”

‘นิธาร’ กับ ‘ใจปัจจุบัน’ 2 เล่มรวมบทกวีของกุดจี่-พรชัย แสนยะมูล

 

 แรงบันดาลใจและการกระตุ้นที่สร้างพลังในการเขียนบทกวีของกุดจี่ในวิถีชีวิตปัจจุบัน เขาบอกว่ามาจากยุคสมัยของบ้านเมือง เพราะติดตามข่าวสารบ้านเมืองไม่ขาด เขียนบทกวีสะท้อนสังคมและใช้การเสียดสี ซึ่งคืออาวุธอย่างหนึ่งของกวี รวมถึงการได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับตัวกับใจ อยู่กับลมหายใจ อยู่กับธรรมชาติที่พาใจ

 “ทุกวันนี้ ผมเขียนจากภาวะข้างใน นานๆ พาใจไปเที่ยวข้างนอกที เขียนแล้ว อ่านแล้วมีความสุขดี ความสุขคือสิ่งที่ผมพอใจ”

กุดจี่มองโลกการเขียนบทกวีในยุคโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะหนังสือที่มีการขายและประชาสัมพันธ์ในเฟซบุ๊ก ถือว่าเป็นทางออกของคนเขียนบทกวี

 “บทกวีพิมพ์ออกมาในปีที่ไม่ใช่ซีไรต์แต่น้อยมาก แค่ครึ่งหยิบมือ แต่ปีนี้กวีนิพนธ์ออกมาเยอะมาก คลอดกันเป็นว่าเล่น ส่งร่วมประกวดถึง 88 เล่ม มีของซีไรต์เก่าถึงสาม มีของซีรองอีกหลายนาม มีทั้งมือเก่าและมือใหม่ มีทั้งที่พิมพ์ผ่านสำนักพิมพ์ใหญ่ ซึ่งยอดพิมพ์ขนาดผ่านสำนักพิมพ์ใหญ่ยังพิมพ์ไม่กี่เล่มเอง ไม่ถึงพันเล่มเสียด้วยซ้ำ! ส่วนกวีอิสระก็เขียนเอง พิมพ์เอง แต่ไม่ขายเอง เพราะพรินต์ออนดีมานด์ออกมาในจำนวนที่พอดีกับที่ส่งเข้าประกวด ผมมองว่านี่คือทางไปของกวีนิพนธ์ครับ กวีนิพนธ์ย่อมมีทางไป”

 สุดท้ายเขาฝากบทกวีแบบแต่งสดๆ ซึ่งไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนมาให้ เพื่อสาธิตให้เห็นว่า กวีเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา

 “โลกข้างนอกร้อนรุ่มสุมไฟรบ

โลกข้างในใจสงบพบคุณค่า

ติดตามใจติดตามโลกตลอดมา

ต่างเยียวยาโดยวิถีที่เรารัก” 

 สำหรับรวมบทกวีทั้ง 2 เล่มของกุดจี่ สามารถสั่งซื้อโดยตรงได้ที่เฟซบุ๊ก “พรชัย แสนยะมูล” หรือที่แฟนเพจ “กุดจี่” พรชัย แสนยะมูล