posttoday

ภูริต ภิรมย์ภักดี สนามแข่งมีแรงดึงดูด

17 เมษายน 2559

เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการธุรกิจนันแอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เล่าว่า เขาชอบกีฬาแข่งรถ

โดย...

เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการธุรกิจนันแอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง เล่าว่า เขาชอบกีฬาแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก เพราะคุณพ่อเคยเป็นนักแข่งรถ รวมทั้งมีทีมแข่งรถ สิงห์ มอเตอร์ สปอร์ต เขาจึงได้รับการปลูกฝังให้รักกีฬาแข่งรถและชอบความเร็วมาตั้งแต่นั้น

“ด้วยความที่คุณพ่อผมเคยเป็นนักแข่งรถและมีทีมแข่งรถมาก่อน จึงมีนักแข่งดังๆ ในยุคนั้นที่ผมกับน้องชาย (ต๊อด ปิติ) ได้คลุกคลีกันมา พวกเขาจึงสอนให้เรารู้จักการแข่งรถที่แท้จริงตั้งแต่ตอนนั้น จำได้ว่าผมเริ่มต้นลงสนามแข่งรถตอนอายุ 17 ปี ด้วยการแข่งมอเตอร์ครอสแรลลี่สนามดินเป็นครั้งแรก แล้วจึงขยับมาแข่งรถคอนเซ็ปต์คาร์ซึ่งคล้ายกับฟอร์มูลา 3 หลังจากแข่งได้ 2-3 ปีผมก็ได้ตำแหน่งแชมป์คอนเซ็ปต์คาร์ จากนั้นก็มาแข่งรถฮอนด้ารุ่นซีวิค วันเดอร์กริช 1 ปี ตามด้วยซูเปอร์คาร์ ไทยแลนด์ อีก 3 ปี ซึ่งทุกช่วงที่ผมแข่งมักจะได้รางวัล ที่ 1 หรือที่ 2 ติดมือมาด้วยเสมอ”

เต้บอกว่า พอแข่งรถในนามของทีมสิงห์ฯ ได้ 5-6 ปีก็รู้สึกว่าไม่ค่อยท้าทายและอยากไปทำอย่างอื่นบ้าง เขาจึงหยุดแข่งรถไปพักใหญ่ และไปทำในสิ่งที่ตัวเองรักคือตั้งวงดนตรี “กรุงเทพมาราธอน” และออกอัลบั้มกับค่ายเพลงแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นก็ก้าวเข้าสู่ชีวิตการทำงานอย่างจริงจังที่บริษัทของครอบครัว แต่ในระหว่างนั้นเขาก็เล่นกีฬาเอ็กซ์ตรีม เช่น สโนว์บอร์ด และอื่นๆ อยู่ตลอด เรียกว่าเป็นสปอร์ตแมนที่รักกีฬาก็ว่าได้

ภูริต ภิรมย์ภักดี สนามแข่งมีแรงดึงดูด

 

“หลังจากได้ทำหลายอย่างที่อยากทำและบริหารงานจนอยู่ตัวแล้ว ผมก็รู้สึกว่าตัวเองเริ่มมีเวลามากขึ้น แล้วบังเอิญผมได้ไปดูการแข่งรถในสนามอีกครั้ง ญาติผมก็แข่ง น้องผมก็แข่ง ก็เลยรู้สึกฮึกเหิมและอยากกลับมาแข่งรถในสนามแข่งอีกครั้ง (หัวเราะ)

ตอนนี้ผมกลับมาแข่งรถประเภทดีทีเอ็ม ซึ่งรายการที่แข่งไปก็คือ ‘ไทยแลนด์ ซูเปอร์ ซีรี่ส์’ ซึ่งสนามแข่งอยู่ที่บุรีรัมย์ รวมทั้งที่พัทยาและบางแสนด้วย หลังจากกลับมาแข่งรถในสนามเมืองไทยอีกครั้ง ผมก็ค่อยๆ ไต่อันดับจากที่ 10 มาเป็นที่ 7 ที่ 3 และที่ 1 ผมจึงคิดว่าอยากหาความท้าทายในการไปลงสนามแข่งที่ต่างประเทศบ้าง ซึ่งในเอเชียนอกเหนือจากไทยก็มีสนามแข่งรถที่ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และมาเลเซีย ล่าสุดผมได้ส่งรถที่จะใช้ลงแข่งในสนามจริงในวันที่ 13-14 พ.ค. 2559 ไปไว้ที่สนามแข่งในเกาหลีเรียบร้อยแล้วครับ”

เต้บอกว่า หลังจากหยุดไปนาน พอกลับมาแข่งรถอีกครั้งก็ต้องปรับตัวและต้องฝึกซ้อมในสนามเยอะขึ้น แม้ใจเขาจะเต็มร้อย แต่ความสำคัญอยู่ที่ฝีมือต้องนิ่ง ต้องขับได้ดี เพราะถ้าฝีมือไม่ชัวร์แล้วลงแข่งก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและเกิดอันตรายกับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้

“คือผมเป็นคนใจเร็วไง กลัวว่าหากทำพลาดไปจะเกิดผลกระทบกับคนอื่

ภูริต ภิรมย์ภักดี สนามแข่งมีแรงดึงดูด

นได้ ผมจึงค่อยๆ กลับมาลงแข่งและฝึกฝีมือจนไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ อย่างที่บอก แต่สำหรับสนามแข่งที่เกาหลีซึ่งก็คือรายการ GT Asia นี้ ถือเป็นการแข่งในสนามนอกประเทศครั้งแรกของผมและเพื่อนร่วมทีม แบงค์-กันตศักดิ์ กุสิริ นักแข่งหนุ่มจาก ‘ทีมสิงห์ แพลน บี มอเตอร์ สปอร์ต’ ซึ่งรับหน้าที่โปรเฟสชันแนล ไดรเวอร์ และตัวผมรับหน้าที่ เจนเทิลแมน ไดรเวอร์

แน่นอนว่าการแข่งในครั้งนี้พวกเราก็คาดหวังว่าจะได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับมา แต่ด้วยความไม่ชินสนาม แถมผู้จัดการแข่งขันให้เวลาซ้อมแค่ 2 วันก่อนแข่งเท่านั้น ก็คงต้องลุ้นกันหน่อยครับ แต่ยังไงพวกเราก็จะพยายามอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด”