posttoday

เทรนด์ ‘โสด’ ครองโลก

06 กุมภาพันธ์ 2559

คุณรู้ไหมว่า ประเทศไทยมีคนโสด 40% หรือประมาณ 17 ล้านคน จากข้อมูลสถิติของ MeetNLunch (มีตแอนด์ลันช์) เว็บไซต์หาคู่

โดย...ชัตน์วรี

คุณรู้ไหมว่า ประเทศไทยมีคนโสด 40% หรือประมาณ 17 ล้านคน จากข้อมูลสถิติของ MeetNLunch (มีตแอนด์ลันช์) เว็บไซต์หาคู่

ไม่ต้องตกใจ เพราะแนวโน้มทั่วโลกจะมีคนโสดมากขึ้น

“ความโสด” เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่เลือกด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่ก้มหน้าก้มตารับชะตากรรมแห่งความโสด เพราะไม่มีใครมาสนใจ และมีไลฟ์สไตล์แบบคนโสด หรือ “โสด” อย่างมีความสุข

1.โปรแกรมตัวเองใหม่ การเป็นโสดอย่างมีความสุขต้องเริ่มตั้งค่าโปรแกรมตัวเองเสียใหม่ อย่าไปหวั่นไหวใครจะมาแซวโสดหรือขึ้นคาน ต้องยอมความโสดอย่างสมัครใจให้ได้ก่อน กล้ายอมรับความจริง

พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส คิดว่า “เราจะโสดอย่างมีความสุขอย่างไร เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสร้างพลังงานเชิงบวกขึ้นในใจ เมื่อเรารู้สึกดีกับตัวเองอย่างแท้จริง รู้สึกตระหนักถึงคุณค่าที่มีอยู่ในตัวเอง

2.ใช้เวลาแห่งการถือครองความโสด ชีวิตโสด ให้มากที่สุดด้วยการทุ่มเทเวลาให้กับการทำความรู้จักตัวเองอย่างเต็มที่ เพื่อค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง โดยเริ่มด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น จดบันทึกสิ่งที่คุณชอบและไม่ชอบลงในสมุด เดินทางท่องเที่ยวเรียนรู้ เปิดตา เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ชีวิต ผู้คน สังคม และสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยหัวใจที่พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

3.เปิดตัวเอง อย่าติดอยู่กับตัวเอง กลายเป็นคนโสดที่ปิดกั้นตัวเองจากโลก เปิดทัศนคติ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พบเพื่อนใหม่ๆ และทำกิจกรรมให้หลากหลายขึ้น และควรเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น

4.หมดห่วงกับภาระครอบครัว ไม่ต้องเก็บออมเงินหรือสร้างสมบัติให้กับลูกหลาน ใช้ชีวิตอย่างเป็นอิสระ อยากจะกินอะไร เที่ยวที่ไหน เมื่อไร อิสระเต็มที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง

5.การเป็น “โสด” ทำให้สามารถที่จะทุ่มเทให้กับการทำงานและความฝันได้เต็มที่  มีบทวิจัยมาแล้วว่าคนที่โสดจะทุ่มเทการทำงานได้ดีกว่าคนที่มีครอบครัว และ “คนโสด” มักจะมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีกว่า

ทัศนคติความ “โสด” เป็นเรื่องความเชื่อของแต่ละบุคคล ผู้อ่านควรจะใช้ดุลพินิจและตัดสินใจอย่างรอบคอบ

หลังจากเกษียณแล้ว จะทำให้มีเวลาเหลือเยอะ หลายคนที่ “เกษียณมือใหม่” อาจจะตั้งหลักไม่ถูก ช่วงแรกๆ อาจจะสับสนและกลายเป็นโรคซึมเศร้าหรือขี้หงุดหงิดก็ได้

การเกษียณไม่ใช่ว่าจะใกล้จะจบแล้ว แต่อาจจะเป็นการเริ่มต้นที่จะนับหนึ่งใหม่ หรือเริ่มต้นชีวิตใหม่ๆ และไม่ต้องกลัวว่าเราจะเกษียณอย่างโดดเดี่ยว  เพราะในไม่ช้านี้ไทยกำลังเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” เต็มตัว โดยในปี 2568 ไทยจะมีผู้สูงอายุกว่า 14 ล้านคน หรือประชากร 5 คน จะมีผู้สูงอายุ 1 คน 

เทรนด์ ‘โสด’ ครองโลก

 

ข้อแนะนำ ‘มือใหม่’ เกษียณ

1.เกษียณแล้ว อาจจะทำให้เราสามารถที่จะลองทำอะไรด้วยตัวเองได้มากขึ้น

2.หลังเกษียณ จะมีสิ่งที่เคยคิดอยากทำเยอะแยะไปหมด ค่อยๆ คิดเลือกทำทีละอย่างเลือกทำอะไรที่ง่ายๆ ก่อน แล้วจะสำเร็จไปทีละอย่าง และถ้าลองทำอะไรแล้วไม่สำเร็จ ให้รีบเลิก เวลามันเหลือน้อย เลือกทำอย่างอื่นในคิวต่อไปดีกว่า

3.หลังเกษียณ ไม่มีรายได้ประจำแล้ว ให้สำรวจดูว่าทรัพย์ที่สะสมไว้จากการทำงานหรือจากมรดกมีเหลือให้ใช้จ่ายได้อีกเท่าไหร่ ต้องปรับวิถีชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือมีเท่าไหร่ก็ให้ใช้แบบสมฐานะ ไม่ให้เกินตัว เพราะตายแล้วยังใช้ไม่หมด ยังดีกว่าใช้หมดแล้วแต่ยังไม่ตาย แต่ที่ดีแล้วควรที่จะต้องเริ่มสะสมเงินทองไว้ก่อนที่จะเกษียณจะดีกว่า

4.เมื่อมีวัยมากขึ้น สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือ “สุขภาพ” เพราะไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน การออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

เมื่อเกษียณแล้วก็หมดข้ออ้างว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องไปเข้าคอร์สแพงๆ เดินๆ วิ่งๆ สวนสาธารณะข้างบ้านก็ได้

5.หลังเกษียณ อย่าคิดเลี้ยงหลานเป็นงานหลัก เพราะสิทธิและหน้าที่เป็นของพ่อแม่เขา

6.หลังเกษียณ จริงจังกับงานอดิเรกให้มากขึ้น งานอดิเรกที่ทำมาจนถึงวัยเกษียณย่อมเป็นสิ่งที่ชอบ เพลิดเพลิน และมีความสุขที่ได้ทำ มีเวลาแล้วควรยกระดับให้เข้มข้น ลึกซึ้ง แม้จะหมกมุ่นมากหน่อยก็ไม่เป็นไร จะไปจนถึงขั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือมืออาชีพก็ไม่เสียหาย

7.หลังเกษียณ อย่าปิดกั้นตัวเอง ไม่พบเพื่อนฝูง ไม่ติดตามข่าวสารใด แต่ควรเปิดใจเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีบ้าง เล่นเกม เล่นเฟซบุ๊ก อยู่ในโลกโซเชียลบ้าง ทำให้เราไม่ตกยุค