posttoday

Trick To The Top ทำธุรกิจแบบไหนไม่ให้เจ๊ง

29 ธันวาคม 2558

72% ของเด็กรุ่นใหม่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ตัวเลขนี้ผมได้มาจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)

โดย...เอกศาสตร์ สรรพช่าง [email protected] 

72% ของเด็กรุ่นใหม่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ตัวเลขนี้ผมได้มาจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ทำการสำรวจไว้เมื่อปี 2014 นี้เอง แต่อย่างที่ผมจั่วหัวไปละครับว่า ไม่ใช่ว่าคนหนุ่มทุกคนจะสามารถประคับประคองธุรกิจของตัวเองไปจนถึงฝั่งฝันได้

นักธุรกิจหน้าใหม่ก็ไม่แตกต่างจากนักเล่นหุ้นมือใหม่ ที่ 90% ของคนที่เริ่มต้น ต้องเจ๊งก่อนเสมอ เหมือนเด็กหัดเดินก็ต้องล้ม เหมือนคนหัดรักก็ต้องอกหัก คติสอนใจที่อาจพอทำให้เรื่องหนักเป็นเรื่องเบาลงไปได้บ้าง ก็คือ ถ้าจะเริ่มต้นทำอะไรก็ตามให้เริ่มด้วยความรัก หากว่ามันจะล้มเหลว เราก็ยังล้มลงบนสิ่งที่เรารักอยู่ดี ข้อนี้ผมได้มาจาก ป๋าเต็ด-ยุทธนา บุญอ้อม เคยสอนผมไว้         

เรื่องนี้เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด ELLE MEN Top 40 X Gents in Conversation งานฟอรั่มที่เราเชิญ 6 นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เริ่มต้นสิ่งที่เขาทำจากความรักแล้วกลายเป็นธุรกิจเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา นักธุรกิจที่เราชวนมาคุย ได้แก่ ฟ้าใส พึ่งอุดม กับธุรกิจฟิตเนสเทรนเนอร์ พล หุยประเสริฐ นักออกแบบคอนเสิร์ต อาชว์ วงศ์จินดาเวศย์ ผู้ริเริ่ม Social Enterprise อย่าง Social Giver ภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้ง Tarad.com อายุ จือปา เจ้าของแบรนด์กาแฟอาข่า อาม่าที่ดังไปไกลระดับโลก และอริยะ พนมยงค์ ผู้บริหารใหม่ๆ ซิงๆ จาก LINE ประเทศไทย เราไปนั่งฟังอยู่ด้วย และพบว่า ทั้งหมดมีเคล็ดลับความสำเร็จบางอย่างร่วมกันที่น่าสนใจ เลยอยากจะมาแชร์ให้ฟังว่า

เลือกเพื่อนคู่คิดที่ไปกันได้

เลือกสรรคนที่เห็นเป้าหมายเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากต้องทำสิ่งที่ไม่ชอบแต่เห็นโอกาสทางธุรกิจ ให้หาคนที่มีความอยากในสิ่งที่เราไม่มี เพราะมันคือคู่หยินหยาง และจะทำให้ธุรกิจไปได้ ที่สำคัญอย่ามีแค่สองควรมีสักสามเพื่อคานความสมดุล

ให้คิดการใหญ่

หมายถึงอย่าคิดแบบลูกจ้างที่กลัวความเสี่ยง แต่ต้องมองไกลคิดไกลอย่างซีอีโอ ต้องเป็นผู้นำและคิดล่วงหน้าตลอดเวลา อย่ารอโจทย์ที่คนอื่นโยนมาให้เราแก้ปัญหา แต่ต้องสร้างโจทย์เพื่อแก้ปัญหาองค์กร วิธีนี้เป็นการท้าทายตัวเองให้มีโจทย์ใหม่ๆ ตลอดเวลา เมื่อโจทย์เปลี่ยน วิธีคิดเปลี่ยน ผลลัพธ์ก็จะค่อยๆ เปลี่ยน

อย่าใช้ความรู้สึกไปทั้งหมด

โดยเฉพาะเรื่องเงิน เพราะตัวเลขคือสิ่งที่นักธุรกิจทุกคนต้องเจอ แต่หากไม่คิดให้มากเรื่องเงินเรื่องทอง ไม่คำนวณตัวเลขก่อนล่วงหน้า ผลที่เราจะได้คือเจ๊ง Gut Feeling อาจใช้ได้กับความคิดสร้างสรรค์ แต่ใช้ไม่ได้กับระบบบัญชี พูดง่ายๆ คือ ต้องสำเร็จบนกระดาษก่อนที่จะลงมือปฏิบัติจริงด้วยซ้ำ

การตลาดคือทุกอย่าง

ยุคนี้เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าบ้าน คุณก็ยังต้องคิดเรื่องการทำตลาดอยู่ดี เพราะไม่งั้นจะไม่มีใครรู้จัก คุณต้องโปรโมทตัวเองให้ลูกค้าเห็น หนึ่งในวิธีสร้างแบรนด์และไม่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อมากเกินไป คือ การสอนหรือให้ข้อมูลสินค้าและบริการของคุณอย่างจริงใจจะทำให้คนสนใจ และยิ่งลูกค้ารู้มากและรู้สึกเชื่อถือในความเชี่ยวชาญของคุณมากเท่าไหร่ นั่นจะเป็นผลดีกับสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่

สร้างทีม

เรียนรู้วิธีการบริหารคน ต้องเข้าใจความแตกต่างทางวัฒนธรรม ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนคนไทยให้กลายเป็นคนญี่ปุ่นหรืออเมริกัน แต่ให้คงความเป็นไทยไว้แล้วหาวิธีการทำงานที่เหมาะสมกับพวกเขา ให้พวกเขา “ชนะแบบไทย” อีกอย่างในฐานะที่คุณเป็นหัวหน้าทีม หน้าที่คือทำให้ลูกทีมเก่งกว่าคุณ และพวกเขาต้องปฏิบัติงานได้โดยไม่มีคุณ ที่สำคัญเมื่อมีปัญหาให้โฟกัสไปที่ “สาเหตุ” ของปัญหา ไม่ใช่ “ตัวบุคคล” อย่าโฟกัสไปที่การหาคนผิด แต่ให้ช่วยกันแก้ปัญหาและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่เคยมีสูตรสำเร็จในการใช้ชีวิตฉันใด ก็ไม่มีสูตรสำเร็จในการทำธุรกิจฉันนั้น สิ่งสำคัญเราต้องย้อนกลับไปดูตอนเริ่มต้น...

คุณรักสิ่งที่ทำรึเปล่า