posttoday

กฎ 5 ข้อของคน 2 วัย สุขได้ถ้าแผนดี

26 ธันวาคม 2558

การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อเยี่ยมพ่อแม่

โดย...วารุณี อินวันนา

การเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ แต่ละคนมีเป้าหมายต่างกัน ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อเยี่ยมพ่อแม่ เยี่ยมญาติ เยี่ยมเพื่อนท่องเที่ยว ทำธุระบางอย่าง การวางแผนการเดินทางอย่างระมัดระวัง ทำให้เราถึงที่หมายปลายทางอย่างปลอดภัย ได้ทำสิ่งที่ตั้งใจไว้นำความปลื้มปริ่มสุขใจให้กับตัวเองเช่นเดียวกับการเดินทางของชีวิตที่เริ่มต้นตั้งแต่คิดได้ ทำอะไรเองได้จนถึงวัยเกษียณการทำงาน ซึ่งคน 2 วัย จะมาถ่ายทอดให้ฟังในที่นี้ ล้วนวางแผนได้อย่างน่าสนใจและทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้

โชคดีที่ยังโสด

รัชนีวิภา ปุ้ยพันธวงศ์ หรือป่าน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) วัย 43 ปี เป็นคนหนึ่งที่มองโลกใน
แง่บวกกับสถานะ “โสด”

กฎในการใช้ชีวิตของเธอ คือมีเวลาเต็มที่ในการทำงาน การใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่รัก กับเพื่อน การดูแลสุขภาพ การออม และงานเพื่อสังคม

กฎข้อแรก การทำงาน เธอทุ่มเต็มที่ ถ้าไม่เสร็จจะไม่กลับบ้าน และจะให้ความสำคัญกับคุณภาพงานที่จะออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลภาพลักษณ์ของ คปภ.และธุรกิจประกันภัย ว่าจะต้องอยู่ในมุมบวกในสายตาของประชาชน หากมีข่าวไม่ดีเกิดขึ้นกับธุรกิจจะรู้สึกเครียดมาก ต้องหาทางสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

กฎข้อที่สอง วันว่าง จะให้เวลากับครอบครัวเป็นอันดับแรก ซึ่งที่บ้านยังคงความเป็นครอบครัวใหญ่อยู่บ้านหลังเดียวกันรวม 8 คน มีหลานตัวน้อย 2 คน ที่คอยเป็นเพื่อนเล่นและเพื่อนแกล้ง ทำให้คลายเครียดและมีความสุข

“อย่างนัดเพื่อนไว้ ถ้าพ่อโทรมาแค่พูดว่าไม่มีอะไร แค่อยากจะบอกว่าวันนี้พ่อกินข้าวคนเดียว ก็จะต้องขอตัวจากเพื่อน แล้วบึ่งรถกลับบ้านทันที คือเป็นลูกสาวติดพ่อและก็พ่อติด” รัชนีวิภา กล่าว

กฎข้อที่สาม ใช้เวลากับเพื่อนๆ โดยเฉพาะการไปช็อปปิ้ง รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า แต่แบรนด์ที่ช็อปต้องเป็นแบรนด์ที่ธุรกิจครอบครัวทำอยู่เท่านั้น ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์นำเข้ามีด้วยกัน 7 ยี่ห้อ และก็ยังได้พาเพื่อนๆ ไปอุดหนุนธุรกิจของครอบครัวด้วย ซึ่งเธอออกตัวว่าส่วนตัวแล้วไม่ได้เข้าไปช่วยทำธุรกิจ เพราะทำงานประจำเป็นหลักและยังร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมกับเพื่อนๆ อย่างสม่ำเสมอ

กฎข้อที่สี่ การบริหารเงินนั้นเต็มที่เช่นกัน โดยแบ่งเป็นส่วนของการออม 70% และใช้จ่าย 30% ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบของคนโสด เพราะปัจจุบันใช้ชีวิตอยู่กับพ่อแม่ บ้านไม่ต้องเช่า ไม่ได้ซื้อรถ ไม่มีภาระต้องผ่อน หรือ จ่ายอะไรมาก

ในส่วนของการออมนั้น ใช้สิทธิตามที่กรมสรรพากรเปิดให้เต็มพิกัด ทั้งการซื้อประกันชีวิต กองทุนหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ กองทุนเพื่อการสำรองเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ การบริจาค

กฎข้อที่ห้า การดูแลสุขภาพ เพราะการที่ยังไม่มีครอบครัว จึงต้องให้ความสำคัญมากๆ กับการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงจะได้พึ่งพาตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหนของชีวิต ซึ่งวิธีเดินบนเครื่องลู่วิ่งทำให้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวด้วย สัปดาห์ละ 3 วัน ครั้งละ 4 กิโลเมตร และการว่ายน้ำ

“ขนาด คปภ.มีสวัสดิการด้านสุขภาพให้พนักงานที่ดีมาก ถ้าเป็นโรงพยาบาลรัฐเบิกได้ 100% ถ้าเข้าโรงพยาบาลเอกชนเบิกได้ 50% ซึ่งป่านคิดว่ายังไม่พอ ก็ซื้อประกันสุขภาพเองด้วย เพื่อจะได้ดูแลสุขภาพเราได้เต็มที่” รัชนีวิภา กล่าว

รัชนีวิภา สรุปว่า ในชีวิตนี้คิดว่าสุขภาพสำคัญที่สุด จึงควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก และยิ่งยังเป็นโสดยิ่งต้องวางแผนการเงินให้ดี เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าเลี้ยงดูตัวเองได้

กฎ 5 ข้อของคน 2 วัย สุขได้ถ้าแผนดี

 

70 ก็แจ๋วได้ ถ้าไขข้อยังดี

“บุษรา อึ๊งภากรณ์” จะเข้าสู่วัย 70 ปี ในวันที่ 22 ก.พ. 2559 นี้ และตัดสินใจเกษียณการทำงานประจำสิ้นปี 2558 ในตำแหน่งผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย ซึ่งเรียงลำดับแล้วพบว่าเธอก็มีกฎในการใช้ชีวิตที่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ลำดับความสำคัญเปลี่ยนไป

บุษรา กล่าวว่า พี่เป็นสาวใต้ที่ไม่กินสะตอและไม่กินพริกมาตลอดชีวิต ซึ่งใครๆ ก็มองว่าแปลก แต่เป็นความไม่ชอบส่วนตัวมาแต่ไหนแต่ไร

กฎข้อที่หนึ่ง หลังเกษียณจากที่นี่แล้ว สิ่งที่จะทำคือเที่ยวกับเพื่อนๆ กลุ่มสนิทเดือนละครั้ง ทั้งในและต่างประเทศ เพราะไม่รู้ว่าเราจะเดินได้ไปถึงอายุเท่าไหร่ ในวัยใกล้ 70 ปีนี้ นับว่าโชคดีที่สุดที่สุขภาพยังดี และจะต้องใช้เวลานี้หาประโยชน์จากสุขภาพให้มากที่สุด

กฎข้อที่สอง จะทำประโยชน์เพื่อสังคมในนามกรรมการ 3 สมาคมให้เต็มที่ จากเดิมที่ทำอยู่แล้ว แต่การทำงานประจำทำให้ไม่ได้ลงเต็มตัว ซึ่งงานนี้ยังเอื้อให้ชีวิตของคนวัย 70 ปี ไม่เงียบเหงาและไม่โดดเดี่ยว ยังคงมีประโยชน์ต่อส่วนรวม

บุษรา กล่าวติดตลกว่า นอกจากเที่ยวแล้วจะไปหัดเป็นแม่บ้าน เพราะที่ผ่านมาทำงานนอกบ้านตลอด งานแม่บ้านแย่มาก ทำกับข้าวเป็นอยู่อย่างเดียว คือ สตูไก่ แต่สามีบอกมาแล้วว่าไม่ต้องทำกับข้าวก็ได้ แค่รู้ว่าร้านไหนอร่อยก็พอ (พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี)วันนี้บุษรายังดูสวยและสดใสกว่าวัย เพราะไม่มีปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะโรคข้อที่คนวัยเดียวกันส่วนใหญ่เผชิญกับความเจ็บปวดทรมาน ไม่มีปัญหาด้านน้ำตาลในเลือด หรือเบาหวาน สายตายังดี ความจำยังเยี่ยมเพราะการอ่านหนังสือ และด้วยวัยที่สูงขึ้นจึงตรวจสุขภาพทุกๆ 3 เดือน เผื่อเจ็บป่วยจะได้รักษาได้ทัน

“พี่ป่วยอยู่ 2 อย่างแต่ควบคุมได้ ไม่ได้มีปัญหาต่อการใช้ชีวิตและจิตใจ คือ ความดันสูง โรคนี้ได้มาจากกรรมพันธ์ุ เป็นมาตั้งแต่ 30 ต้นๆ แล้วก็กินยามาตลอด และคอเลสเตอรอลสูงประมาณ 220 ก็กินยาแค่ครึ่งเม็ดต่อวัน” บุษรา กล่าว

กฎข้อที่สาม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การที่สุขภาพยังคงแข็งแรงถึงวันนี้ เพราะเคยเป็นนักกีฬาวิ่งเร็วของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และทุกครั้งของการลงแข่งวิ่งไม่เคยพลาดเหรียญ เพราะมีเพียง 5 มหาวิทยาลัยที่แข่งขันกัน และเป็นนักบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยด้วย (พร้อมปล่อยเสียงหัวเราะร่วนอย่างสนุก)หลังจากจบมหาวิทยาลัยก็แทบจะไม่ได้ออกกำลังกายเลย เริ่มมาออกกำลังกายอีกครั้งเมื่อวัยย่างเข้า 50 ปี ด้วยการเดินหลังเลิกงานที่สนามหน้าศาลากลางเมืองนนท์แทบทุกวัน วันละ 4 กิโลเมตร ก่อนจะกลับบ้าน และทำเช่นนี้ต่อเนื่องมาจนถึงช่วงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ถึงได้เลิกไปเดิน แต่หลังน้ำลดแล้วก็หันมาเดินในหมู่บ้านให้ได้วันละ 1 หมื่นก้าว และตรวจสุขภาพเป็นประจำ หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ดูแลทัน

กฎข้อที่สี่ นกน้อยทำรังแต่พอตัว บุษรา กล่าวว่า ใครๆ ก็มองว่าเป็นคนรวยนะ แต่จริงๆ แล้วไม่ได้รวยอย่างที่เขาเข้าใจ ไม่ได้มีเงินเยอะ แต่เป็นเพราะชีวิตนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไร เราใช้จ่ายตามกำลังรายได้ ไม่ใช้เงินเกินตัว มีความพอเพียง อย่างสร้างบ้านก็สร้างตามรายได้ ทำรังแต่พอตัว เมื่อรายได้เพิ่มขึ้น ถึงค่อยๆ ต่อเติม และก็ซื้อที่เพิ่มให้กว้างขึ้น ทำให้ไม่เคยมีปัญหา

ทั้งนี้ บุษรา กล่าวว่า อาจเป็นเพราะการที่เป็นนักเศรษฐศาสตร์ ทำให้มองการบริหารเงินอย่างเข้าใจ ส่วนเงินออมก็มีบ้าง แต่จะมองเรื่องความมั่นคงของเงินต้นเป็นอันดับแรกและมีผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินส่วนเรื่องการทำงานนั้น สำหรับคนวัยนี้เป็นเพียงอดีตไปแล้ว

บุษรา ย้อนอดีตว่า การทำงานอยู่ในวงการประกันภัย 48 ปี รับราชการ 38 ปี และมาเป็นผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทยอีก 8 ปี ชีวิตราชการเริ่มตั้งแต่อยู่ในกองประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ เมื่อปี 2511 เงินเดือนเริ่มต้น 1,300 บาท ในขณะนั้นมีบริษัทประกันชีวิตเพียง 12 แห่ง และรับตำแหน่งสูงสุด รองอธิบดีกรมการประกันภัย เป็นความภูมิใจมากกับงาน 2 แห่งนี้มากช่วงแรกที่เกษียณราชการ มีบริษัทประกันภัย บริษัทประกันชีวิต มาจีบให้ไปทำงานประจำ เหมาะเจาะกับทางสมาคมประกันชีวิตไทยติดต่อเข้ามา เลยเลือกทำงานกับสมาคม เพราะเป็นการทำเพื่อธุรกิจโดยรวม และเลือกรับเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทประกันภัย 1 บริษัท

“ไม่รับเป็นที่ปรึกษาบริษัทประกันชีวิต เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าข้างบริษัทที่เราเป็นที่ปรึกษา เพราะธรรมชาติของคนใจต้องเอียง เพื่อรักษาผลประโยชน์บริษัทที่เรานั่งให้คำปรึกษาอยู่ จึงตัดปัญหาไม่รับเป็น
ที่ปรึกษาให้กับบริษัทประกันชีวิต จะได้ไม่มีผลประโยชน์ขัดแย้งหรือคอนฟลิคออฟอินเทอเรส” บุษรา กล่าว

ชีวิต 2 วัยของคน 2 คนในวันนี้ ล้วนวางแผนมาอย่างดี ทำให้มีภูมิคุ้มกันในทุกช่วงวัยนำความสุขมาให้ไม่ว่าจะเป็นวัยที่อยู่ในช่วงทำงานและวัยที่เกษียณการทำงานแล้ว มีอิสระในการใช้ชีวิตอย่างเต็มอิ่ม