ความสุขเกิดจาก เสพงานเขียนที่ ให้พลังใจทุกวัน

โดย...แครธริน ทรงพัฒนะโยธิน ผู้เขียนหนังสือ ‘Genius ทางอารมณ์’ เรียบเรียง พุสดี

คนยุคนี้โชคดีมากค่ะ เพราะมีช่องทางการอ่านให้เลือกหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร นอกจากนี้เรายังสามารถอ่านผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ได้ อ่านผ่านแท็บเล็ต อ่าน eBook จาก Kindle และที่ยอดฮิตที่สุด น่าจะเป็นการอ่านผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนของเรานี่เอง

มือถือของเราเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยม กดคลิกเดียวต่อเข้าโซเชียลมีเดีย เข้าเว็บไซต์ระหว่างที่เขียนอยู่นี่มือถือแคทก็สั่นไม่หยุดจากบทความที่เพื่อนๆ และญาติพี่น้อง ส่งผ่านเข้ามาในกลุ่มแชต

 

แต่นี่เลยค่ะ ปัญหาของคนยุคนี้ ยุคที่เปลี่ยนไปมากเพราะเทคโนโลยีนำสมัยได้เข้ามาช่วยให้หลายสิ่งในชีวิตง่ายขึ้น เรามีข้อมูลล้นตลาด ท่วมท้นจนอ่านไม่ทัน โจทย์ในชีวิตเราจึงเปลี่ยนไป จากการ “เสาะหาข้อมูล” กลายเป็น “สกรีนข้อมูล” สำหรับการสกรีนข้อมูลที่จะอ่าน กฎข้อเดียวที่แคทยึดถือและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนั่นคือ งานเขียนที่แคทจะป้อนให้สมองกินเป็นอาหารใจ หลังเลิกงาน จะต้องเป็นงานเขียนที่ทำให้เกิดอารมณ์บวก ความคิดสวยงาม ใช้ถ้อยคำไพเราะ สร้างความสดใส และพลังใจให้ตัวเอง เท่านั้นค่ะ

มหาตมา คานธี พูดไว้ว่า Your thoughts become your words, your words become your action, your action become your destiny. แปลว่า ความคิดของเรา กลายมาเป็นคำพูดของเรา และคำพูดของเรา กลายมาเป็นการกระทำของเรา และการกระทำของเรา ก็กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของเราในที่สุด

 

ดังนั้น เมื่อแคทตั้งเป้าหมายปลายทางเป็นความสุข นั่นหมายความว่าแคทต้องเริ่มกระบวนสร้างตั้งแต่จากภายใน คัดสรรวัตถุดิบที่ดี ป้อนให้ตัวเอง ให้เค้าสร้างวงจรความคิดที่สดชื่น กลายมาเป็นพลังและความผ่องใสในแต่ละวัน

แต่แคทไม่ใช่คนที่อ่านแต่เรื่องมีสาระตลอดเวลานะคะ ในแต่ละวันพบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย บางครั้งเจอปัญหาหรือเหนื่อยจากการทำงาน แคทจะอ่านการ์ตูนเบาสมอง อ่านกลอนเพราะๆ กล่อมตัวเอง บางครั้งอยากดูอะไรสวยงาม ก็เปิดแมกกาซีน แต่ถ้าวันไหนอยากโฟกัสความคิด จะเลือกเป็นหนังสือหนาๆ

 

เคล็ดลับพิเศษส่วนตัวอีกข้อ คือการ “จัดพื้นที่” กระตุ้นความสุขระหว่างอ่านค่ะ แคทมักเปลี่ยนสถานที่อ่านไปเรื่อยๆ และมักเลือกที่ที่สามารถสั่งอาหารและน้ำผลไม้คั้นสด หรือกาแฟสด มาคอยเติมความสดชื่นระหว่างอ่านได้ บ่อยครั้งที่ออกไปอ่านกับเพื่อนสนิท หรือไม่ก็ไปกับครอบครัว

ความทรงจำอันอบอุ่นที่แคทจะไม่มีวันลืม เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คุณแม่พาขึ้นเครื่องบินไปเยี่ยมน้องสาวที่กำลังศึกษาอยู่ที่เนเธอร์แลนด์ เราไปกันแบบไม่มีทัวร์ไกด์ แม้ว่าจะไม่เคยไปประเทศนี้มาก่อนเลย วันแรกคุณแม่ตื่นก่อนใครและเดินไปร้านกาแฟที่อยู่ติดโรงแรม นั่งอ่านแมกกาซีนท้องถิ่น จนไปเจอบทความเกี่ยวกับคาเฟ่ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักเขียนและจิตรกรในประเทศเนเธอร์แลนด์ ใครจะไปเที่ยวประเทศนี้แคทแนะนำค่ะ เป็นคาเฟ่ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของเหล่าคนที่ถูกมองว่าเป็น Intellects ของประเทศ ซึ่งคือ นักเขียน นักคิด นักปรัชญา กวี จิตรกร เราจะเห็นพวกเขามานั่งถกปัญหาการเมือง พูดคุยถึงไอเดีย บ้างก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศร้านและทำงานเขียนไป ร้านนี้โด่งดังเพราะว่านักเขียนชาวดัตช์ท่านหนึ่งผู้เป็นที่รักของประเทศได้เขียนนิยายเรื่อง Life is Fabulous ที่คาเฟ่แห่งนี้ และทางร้านได้เก็บโต๊ะประจำของเขาไว้เป็นส่วนหนึ่งของ Exhibition ของคาเฟ่ด้วย

 

เมื่อแคทไปถึงร้าน คนเสิร์ฟจะรู้คิว เราไม่ต้องเลือกอาหารให้วุ่นวายเพราะเขาจะแจ้งเราล่วงหน้าว่าวันนั้นจะเสิร์ฟอะไรบ้าง นั่งปุ๊บขนมปังต่างๆ ก็วางลงปั๊บ มาคู่กับชีสหลายชนิด น้ำส้มคั้นเหยือกเบ้อเริ่ม ผลไม้และ cold cut ไว้รับประทานกับชีสชนิดต่างๆ ต่อด้วยซุป ไข่ เบคอน ไส้กรอก และเนื้อก้อนโต ตบท้ายด้วยของหวานจานใหญ่ ในคราบ high tea ซึ่งเต็มไปด้วยเค้กและขนมชิ้นเล็กๆ ให้เลือกมากมาย เป็นมื้อที่อุดมสมบูรณ์ กินไม่หมดค่ะ แต่คุ้มเพราะได้นั่งกันนานมาก แคทและน้องสาวอ่านหนังสือไป กินไป คอแห้งเมื่อไหร่ก็เทน้ำส้มกินคู่กับขนมนมเนยเต็มโต๊ะ อ่านหนังสือจบกันไปหลายบทเลยค่ะ ส่วนคุณแม่ก็นั่งอ่าน iPad เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว

สำหรับแคทกิจกรรมการอ่านไม่จำเป็นต้องทำคนเดียวตลอดเวลา แคทถือว่าเป็นการสังสรรค์ประเภทหนึ่ง ขอแค่หาบัดดี้ที่ชื่นชอบการอ่านและการใช้เวลาครุ่นคิดให้เจอ เราก็ควงกันไปหาคาเฟ่น่ารักๆ หรือร้านที่เสิร์ฟน้ำสุขภาพ นั่งอ่านเคียงข้างกัน กลายเป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องได้อย่างเพลิดเพลิน แถมอิ่ม อร่อย รู้สึกดีกับการใช้เวลาอย่างมีประโยชน์เป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นและมีความสุขที่สุดสำหรับแคทค่ะ