เวลาไม่ช่วยอะไร แต่น้ำตาช่วยได้

โดย...มิยาโตะ

เหตุที่ทำให้เราร้องไห้มีหลายอย่างร้องเพราะเคืองตา ต้องร้องออกมาเพราะตาไม่หล่อลื่น และการร้องเพราะอารมณ์โศกเศร้า ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาจากการดูหนังเศร้าหรือว่าไหลเพราะปอกหัวหอม น้ำตาก็มีประโยชน์ทั้งนั้น นักวิทยาศาสตร์เขาบอก...

1.การร้องไห้ช่วยปรับอารมณ์

การวิจัยในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ให้คนดูหนังเศร้า ซึ่งมีทั้งคนที่ร้องไห้และคนที่ไม่ร้อง หลังจากที่หนังจบ ฝ่ายที่ร้องไห้รู้สึกแย่มากๆ ตามอารมณ์ที่ได้จากหนัง ทว่าหลังจากนั้น 20 นาที สภาพอารมณ์ของพวกเขาก็กลับไปสู่จุดตั้งต้นก่อนดูหนัง และหลังจากดูหนังจบ 90 นาที ระดับอารมณ์ของพวกเขาก็อยู่ในระดับที่ดีกว่าอีกฝ่ายที่กักน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมาเสียอีก “ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นในงานวิจัยหลายครั้งที่ผ่านมา ในการวัดระดับอารมณ์ของคนหลังจากร้องไห้” อัสมีร์ กราคานิน หัวหน้ากลุ่ม นักวิจัย จากมหาวิทยาลัยทิลเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ กล่าว

2.น้ำตาช่วยคลายเครียด

ดร.วิลเลียม เอช.เฟรย์ นักชีวเคมีและนักวิจัยแห่งศูนย์การแพทย์เซนต์พอล-แรมซีย์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ รัฐมินนิโซตา สหรัฐ ก็อาศัยหนังเศร้ามาใช้เป็นเครื่องมือในงานวิจัยของเขาเช่นกัน โดยตั้งธงไว้ว่า สาเหตุที่เรารู้สึกดีขึ้นหลังจากร้องไห้ เป็นเพราะน้ำตาจะชะสารเคมีบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นจากความเครียดออกไป “เรายังไม่พบว่าสารเคมีตัวนั้นชื่อว่าอะไรแต่เรารู้ว่า ในน้ำตามีฮอร์โมนที่เรียกว่า ACTHซึ่งช่วยคลายเครียด ตอนนี้เรากำลังจับตาอยู่ว่า ฮอร์โมนดังกล่าวเพิ่มจำนวนขึ้นด้วยหรือไม่ เมื่อเราร้องไห้” ดร.วิลเลียม กล่าวว่าเรื่องนี้สำคัญมากที่จะต่อยอด “เพราะถ้าเราสามารถจัดการกับความเครียดได้ ก็จะช่วยลดความเสื่อมของหัวใจและสมองได้ด้วยเช่นกัน เมื่อรู้แล้วก็พยายามอย่าห้ามเด็กร้องไห้ เราควรจะดีใจมากกว่าที่เขาร้องไห้เป็น” นักวิจัย ทิ้งท้ายขำๆ

3.น้ำตาช่วยล้างและปกป้องดวงตา

ถ้าไม่พูดถึงด้านอารมณ์ การร้องไห้ก็มีคุณค่าทางสุขภาพ อย่างตอนเราหั่นหัวหอมที่ร้องไห้ก็เพราะสารเคมีในหัวหอมมาทำปฏิกิริยากับดวงตาของเรา และเกิดเป็นกรดซัลฟูริก เราจึงต้องผลิตน้ำตาออกมาเพื่อที่จะทำให้เกิดการเจือจาง ในน้ำตายังมีไลโซไซม์ ที่เป็นทั้งตัวขจัดแบคทีเรีย ขจัดไวรัส และยังบรรจุกลูโคสที่จะช่วยให้เซลล์ทั้งนอกและในกระบอกตามีความหล่อลื่น

4.น้ำตาช่วยระบบทางเดินหายใจ

สังเกตเวลาเราเป็นหวัดหรือหายใจไม่สะดวก มักจะมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ตลอดเวลา การผลิตน้ำตาออกมาก็เพื่อที่จะช่วยให้น้ำมูกในโพรงจมูกเจือจาง นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้จมูกและช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้น -- จูดิธ ออร์ลอฟ นักจิตเวชเขียนไว้ในหนังสือ Emotional Freedom

5.หนุ่มๆ ก็ควรร้องไห้ (บ้าง)

ดร.วิลเลียม เอช.เฟรย์ คนเดิม ทำการวิจัยพบว่า โดยปกติผู้หญิงจะร้องไห้เฉลี่ยเดือนละ 5.3 ครั้ง ขณะที่ผู้ชาย 1.3 ครั้งความต่างนี้เกิดนี้ เขาเชื่อว่ามาจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนที่มีสูงในเพศชาย ซึ่งส่งผลเสียให้ผู้ชายไม่ได้รับอานิสงส์จากการร้องไห้มากเท่าฝ่ายหญิง