posttoday

รักนี้มี...ธรรมะ ของแม่กับลูก

29 สิงหาคม 2558

“ศรัณยา รอดปัญญา”ผู้แม่ ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย ชื่อ ไทยแลนด์นัมเบอร์วัน

โดย...วราภรณ์ เทียนเงิน

ยึดพุทธศาสนาสอนลูก

“ศรัณยา รอดปัญญา”ผู้แม่ ปัจจุบันเป็นเจ้าของร้านอาหารไทย ชื่อ ไทยแลนด์นัมเบอร์วัน จำนวน 3 สาขา ที่ประเทศอังกฤษ ได้เริ่มศึกษาธรรมะอย่างจริงจังประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมาโดยได้เข้าไปศึกษาทั้งหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นคำสอนที่สามารถนำมาปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำหน้าที่ของความเป็นแม่ หน้าที่ลูก และหน้าที่ในการทำงาน หลังจากนั้นก็สอนคำสอนในพระพุทธศาสนาต่อเนื่องไปยังครอบครัว และได้ตัดสินใจชวนลูกสาวทั้งสองคนมาปฏิบัติธรรมที่ประเทศไทย

“แนวทางของคำสอนในพระพุทธศาสนามาใช้กับลูกทั้งการดำเนินชีวิต ให้มีศีลธรรม และมีศีล 5 เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เพราะการมีศีล 5 จะเป็นเกราะกำบังที่ดีในการทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น ไม่ทำให้เกิดการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่มีการคิดร้าย หรือคิดในเรื่องที่เป็นอกุศล รวมทั้งมีสติในการดำเนินชีวิตมากยิ่งขึ้น” ศรัณยา กล่าว

รักนี้มี...ธรรมะ ของแม่กับลูก

 

รวมทั้งคำสอนนี้ มีการส่งต่อไปถึงพนักงานทุกคนในร้าน ที่จะมีการส่งข้อความ พระสูตรของพระพุทธเจ้า ให้แก่พนักงาน ผ่านไลน์กรุ๊ปในทุกวัน ซึ่งการดูแลพนักงานก็ต้องมีหลักความเมตตา และให้ใจแก่พนักงาน โดยพนักงานในร้านรวมประมาณ 30 คน ก็มีพนักงานคนไทยที่เข้าใจภาษาและคำสอน

“พระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนเรื่องที่ยาก แต่สอนความจริงบนโลกใบนี้ บางคนบอกว่า คำสอนสูงเกินไป แต่เราไม่เคยอ่าน ไม่เคยรับรู้ แต่คำสอนสามารถนำมาใช้ได้จริงๆ นำมาใช้กับมนุษย์ได้ทุกคน” ศรัณยา กล่าว

สำหรับการเปิดร้านอาหารไทยที่ประเทศอังกฤษมานานกว่า 12 ปี ยึดแนวคิด เป็นร้านอาหารไทย ที่ใช้เชฟคนไทย และมีเมนูอาหารไทยแท้ ที่เป็นร้านอาหารยอดนิยมของลูกค้าชาวอังกฤษสูงมาก และส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำที่มารับประทานตั้งแต่ตอนเด็กพร้อมครอบครัว จนกระทั่งโตก็ยังมารับประทานอาหารที่ร้าน

ทุกอย่างเป็นอนิจจัง

“บุญจิรา รอดปัญญา” ลูกสาวที่ต้องตามแม่ไปอยู่ประเทศอังกฤษตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ถูกบ่มเพาะจากผู้เป็นแม่ ที่พร่ำสอนว่าเป็นคนไทยต้องพูดภาษาไทยให้ได้ และตั้งแต่เด็กแม่ก็พาเข้าวัดตลอด ซึ่งแม่ได้บอกตั้งแต่เกิดว่า เรานับถือศาสนาพุทธ ที่สอนให้เราเป็นคนดี โดยการไปอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ก็มีวัดไทยที่ประเทศอังกฤษ แม่ก็พาเข้าไปทำบุญเป็นประจำ เราก็ใกล้ชิดกับวัดตั้งแต่เด็กแล้วและไปร่วมถวายอาหารแด่พระสงฆ์

บุญจิรา กล่าวว่า เดินทางไปปฏิบัติที่วัดพร้อมแม่ครั้งแรกในอายุ 16 ปี ก็ไปพร้อมกับแม่ ไปร่วมฝึกนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม การสวดมนต์ ถือว่ามีความรู้สึกดีที่ได้ไปนั่งสมาธิ โดยตอนแรกจะกังวลว่าจะยากหรือไม่
แต่พอได้ทำแล้ว รู้สึกว่าไม่ยาก และเราก็รู้สึกโชคดีมากกว่าที่เราเติบโตในตะวันตก ที่ประเทศอังกฤษ แต่สามารถได้เรียนรู้ และได้ปฏิบัติธรรม

รักนี้มี...ธรรมะ ของแม่กับลูก

 

“ในปีนี้เป็นปีที่สอง ที่ได้ร่วมเดินทางมากับแม่ ที่มาร่วมปฏิบัติธรรม โดยไม่มีความกังวล และมีความรู้สึกสบายใจที่ได้มาวัดแห่งเดิม ได้ฝึกกำหนดลมหายใจ ทำให้เรามีสติ มีสมาธิ รวมทั้งยังได้นำหนังสือธรรมะ ที่เป็นตัวหนังสือภาษาอังกฤษไปฝากเพื่อนที่อังกฤษด้วย”

อีกสิ่งที่แม่สอนและทุกคนในบ้านพูดกันตลอด ทั้งพ่อและพี่สาวก็พูดกับคำที่ว่า “อนิจจัง” ที่บอกเราเสมอว่า ทุกอย่างไม่แน่นอน เราจำคำนี้ได้ และแม่ก็จะชอบเสมอเมื่อเวลาเกิดเหตุการณ์อะไรว่า อนิจจัง เราก็เรียนรู้จากเรื่องนี้ได้ ที่ผ่านมาแม่ก็ชอบสอดแทรกเรื่องธรรมะในการดำเนินชีวิตประจำวันตลอด

การใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ แม่ก็ทำอาหารให้เราไปรับประทานที่โรงเรียนตั้งแต่เด็ก จนถึงชั้นมัธยม แม่ไม่ได้ให้เงินไปโรงเรียน เพราะโรงเรียนอยู่ใกล้บ้าน และในโรงเรียนก็ไม่มีสินค้าขาย รวมทั้งแม่ก็ไม่ได้สอนให้เราฟุ่มเฟือย แต่ถ้าเราอยากได้อะไรก็ไปซื้อสินค้าและไปเดินช็อปปิ้งด้วยกัน ถือเป็นกิจกรรมวันหยุดที่เราทำด้วยกัน รวมทั้งยังมีกิจกรรมการไปเล่นกีฬาตีแบดมินตัน และเลี้ยงสุนัข ที่ต้องพาไปเดินเล่น ส่วนอาหารที่บ้าน แม่ก็ทำให้ทุกคนได้รับประทาน

“บุญจิรา” กล่าวทิ้งท้ายว่า ทุกอย่างที่แม่สอนเราก็รับฟังตลอด เพราะแม่เป็นทุกอย่าง เราก็มีอะไรบอกให้แม่รับฟังได้หมด ต้องยึดสิ่งที่แม่สอนคือ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง และเราต้องอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุด

“อนิจจัง” การเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ แต่สิ่งที่ไม่เคยแปรผันคือ “ธรรมะ” ที่สามารถนำมาใช้ได้ในการดำเนินชีวิตทุกอย่าง ทั้งการงาน การทำธุรกิจ การเงิน ความรัก และครอบครัว โดยครอบครัว “รอดปัญญา” เป็นหนึ่งในครอบครัวที่เลือกธรรมะนำทางชีวิตเช่นเดียวกัน