posttoday

มิตรภาพ

04 กรกฎาคม 2558

เชื่อว่าทุกๆ คนย่อมมีเพื่อนสนิทในวัยเรียน แต่พอเรียนจบก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานที่ต่างๆ

โดย...เอกชัย จั่นทอง

เชื่อว่าทุกๆ คนย่อมมีเพื่อนสนิทในวัยเรียน แต่พอเรียนจบก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานที่ต่างๆ เหมือนเราได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ต้องทำความรู้จักกันใหม่ เข้าสังคมใหม่ๆ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ไม่สนิทใจ หรืออาจถึงขั้นไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเจอแต่เพื่อนร่วมงานที่ไม่ดีเสมอไป

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “มิตรภาพเกิดขึ้นได้เสมอ” เช่นเดียวกับ ปทิตตา โฉมประดิษฐ์ หรือ พี่น้ำ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และคู่หูอย่าง เสาวลักษณ์ ตั้งจิตต์วัฒนา หรือ ปุ๊กกี้ นักประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม

ถึงแม้ว่าจุดเริ่มต้นของทั้งคู่จะแตกต่างกัน ในฐานะ “เจ้านาย” และ “ลูกน้อง” แต่ก็ไม่ทำให้เป็นอุปสรรคหรือมีเส้นแบ่งระหว่างเพื่อน ในขณะที่ทั้งคู่ได้ทำงานในที่เดียวกัน ความสัมพันธ์ดีๆถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จากเจ้านาย-ลูกน้อง จนกลายเป็นคู่หูที่รู้ใจในที่สุดไม่ว่าจะด้านการทำงานหรือเรื่องส่วนตัว

มิตรภาพดีๆ ที่เกิดจากสังคมการทำงาน ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่สำหรับพี่ปทิตตาและปุ๊กกี้ถือเป็นความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมงานที่ดีและน่าอิจฉาทีเดียว

ปทิตตา เล่าย้อนจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกันว่า ครั้งแรกที่ได้รู้จักกัน เริ่มตั้งแต่โอนย้ายงานจากกรมราชทัณฑ์เข้ามาทำงานที่กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นจึงได้เจอกับปุ๊กกี้ เวลาที่ได้พบปะหรือทำกิจกรรมก็จะเป็นเรื่องงานได้ไปพบปะสื่อมวลชนในโอกาสต่างๆ การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่ ปุ๊กกี้เป็นคนร่าเริง อารมณ์ขัน และประทับใจความมีน้ำใจของเขา สิ่งที่ทำให้เราเข้ากันได้คงเป็นไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

“เรามักจะชอบอะไรเหมือนกัน เช่น ชอบหาของกินอร่อยๆ ออกไปช็อปปิ้งตามประสาสาวๆ เหมือนแค่มองตาก็รู้ใจ มีอะไรก็มาเล่าสู่กันฟังตลอด บางครั้งก็ช่วยกันวางแผนแกล้งเพื่อนร่วมงาน ชอบอำเพื่อนในกลุ่มงานกันตลอด ทำให้บรรยากาศในการทำงานสนุกสนานขึ้น” ปทิตตา เล่า

ปทิตตา เล่าอีกว่า เรามีอะไรก็จะคุยและถามกันเพื่อจะได้ไม่เข้าใจผิด ถ้าหากยังติดใจหรือสงสัยประเด็นไหนก็จะถามและอธิบายให้เข้าใจว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ถนอมน้ำใจระหว่างกันให้ดีอยู่ตลอด เรายึดหลักที่ว่าเอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เขาอึดอัด ถ้ามีปัญหาก็ช่วยกันแก้และผ่านพ้นช่วงเวลานั้นไปด้วยกัน

หลายสิ่งหลายอย่างที่ผ่านเข้ามา รวมทั้งการกระทำของคนสองคนที่ปฏิบัติต่อกัน ทำให้ทั้งคู่รับรู้และมั่นใจได้ว่าอีกฝ่ายคือเพื่อนที่ไว้ใจและอยู่กับเราเสมอ ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไข เป็นเพื่อนที่ห่วงใยกันตลอดมา ซึ่งเชื่อได้เลยว่าทั้งคู่จะยังรักษามิตรภาพดีๆ เหล่านี้ให้คงอยู่ต่อไป

เช่นเดียวกับ เสาวลักษณ์ เธอบอกว่า เริ่มรู้จักกันตอนที่พี่น้ำโอนย้ายมารับราชการที่กระทรวงยุติธรรม อย่างที่บอกว่าไลฟ์สไตล์เราจะคล้ายกัน จึงทำให้เริ่มสนิทกันมากขึ้น พี่น้ำเป็นคนสนุกสนาน จะมีเรื่องพูดคุยกันตลอดเวลา และที่สำคัญพี่น้ำไม่เคยถือว่าตัวเองเป็นหัวหน้างานเลยสักนิด สนิทกันเหมือนพี่น้อง

“มีช่วงหนึ่งที่เราเรียนต่อปริญญาโทและต้องทำ IS (Independent Study) ส่งก่อนเรียนจบ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หนักมากเพราะทั้งทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย แต่ก็ได้พี่น้ำเป็นที่ปรึกษาและคอยให้คำแนะนำรวมถึงช่วยแก้ปัญหาให้ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวตลอด ในส่วนของงาน การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญในงานประชาสัมพันธ์ บางครั้งที่เราสื่อสารผิดพลาดออกไป พี่น้ำจะคอยช่วยเราแก้ปัญหาและพูดคุยกันอยู่ตลอดไม่ใช่แค่เฉพาะเวลางาน แต่บางครั้งเราก็คุยกัน แชตกันจนดึกดื่น” เสาวลักษณ์ เล่า

เสาวลักษณ์ ยังบอกอีกว่า ตลอดเวลาที่คบกันมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักครั้ง แม้ว่าบางครั้งจะมีทัศนคติไม่ตรงกันบ้าง เช่น เรื่องงาน เราก็จะมาแชร์ไอเดียกันเพราะเรารับฟังความคิดเห็นกันตลอดและให้ความจริงใจซึ่งกันและกัน มีความสุขเราก็สุขไปด้วยกัน เมื่อมีปัญหาเราก็ช่วยกันแก้ไขไม่ทิ้งกันไปไหน

ความเป็นเพื่อน พี่ น้อง ตั้งแต่ปี 2546 ที่ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกันมา จนวันนี้เกือบ 12 ปี ที่มิตรภาพของทั้งคู่ถูกสร้างขึ้นซึ่งยังคงตราตรึงใจของคำว่า “เพื่อน” เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มีเพียงสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคงเป็นความสนิทสนมของทั้งคู่ที่มากขึ้นทวีคูณ